ในที่สุดเขาก็มา! Damien Rice Live in Bangkok เจ้าพ่อเพลงเศร้าที่หลายคนรอคอย
เชื่อว่าเป็นอีก 1 ข่าวเซอร์ไพรส์ที่ใครๆ ก็ไม่ทันได้คาดคิดว่าเขาจะมาจนได้ กับ Damien Rice ศิลปินไอริชโฟลค์อินดี้ ที่มาพร้อมกับดนตรีหม่นๆ เศร้าๆ และน้ำเสียงนุ่มๆ หลายคนต่างประทับใจกับเพลงประกอบภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าชื่อดังเรื่อง Closer อย่างเพลง “The Blower’s Daughter” และอีกหลากหลายเพลงสุดประทับใจ กับงานละเอียดละเมียดละมัย อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสไตล์ดนตรีไอริชโฟล์ค
Damien Rice เป็นทั้งศิลปิน นักร้ง นักแต่งเพลง นักดนตรี และโปรดิวเซอร์ เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเปียโน กีต้าร์ เพอร์คัชชั่น และคลาริเน็ต เขาเคยเป็นสมาชิกวงร็อคชื่อ Juniper ก่อนจะไปชีวิตอินดี้เป็นชาวนาที่อิตาลี แต่ด้วยความรักดนตรีจึงพาตัวเองกลับมาไอร์แลนด์ เพื่อมุ่งสู่เส้นทางศิลปินเดี่ยวอีกครั้ง
ในปี 2002 อัลบั้มเดี่ยวแรกในชีวิต “O” ขึ้นไปถึงอันดับ 8 ใน UK Chart กวาดรางวัลมากมายมีเพลงดังๆ ที่ใครๆ ก็รู้จักอย่าง “The Blower’s Daughter” “Cannonball” เขาจึงสานต่อความสำเร็จด้วยอัลบั้มถัดมา “9” ในปี 2006 ซึ่งซิงเกิลแรก “9 Crime” ที่ได้เสียงของนักร้องสาว Lisa Hannigan มาช่วยร้องให้ ถูกนำไปประกอบภาพยนตร์สั้นเรื่อง The Red Balloon อีกด้วย
คลิกเพื่อชม Damien Rice – The Blower’s Daughter (Session @ AOL)
ความอินดี้ของ Damien Rice นอกจากจะถ่ายทอดผ่านสไตล์ดนตรี เสียงร้อง และบทเพลงต่างๆ แล้ว วิธีการทำงานของเขาก็เห็นได้ชัดเช่นกัน เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยอยากออกอัลบั้ม “9” เป็นอัลบั้มที่ 2 เลย เพราะเขาคิดว่าเพลงกว่าครึ่งอัลบั้มในนั้นยัง “ไม่ดีพอ” ที่จะใส่ลงไปในอัลบั้ม แต่เขาต้องออกอัลบั้มที่ 2 เพราะเป็นข้อตกลงกับทางบริษัท แต่ถึงกระนั้นผลงานที่เราได้ฟังกันก็มีลายเซ็นของ Damien Rice อย่างเห็นได้ชัด ไอริชโฟล์คนุ่มๆ หม่นๆ บาดลึกเข้าไปกลางใจ กับน้ำเสียงเย็นสบาย แต่ท่อนพีคขึ้นเสียงสูงก็ทำได้ดีจนขนลุกอย่างที่เคยทำให้เราประทับใจจากอัลบั้มแรกเหมือนเดิม
หลังจากความสัมพันธ์ของเขากับแฟนสาว Lisa Hannigan ไม่เป็นไปดั่งหวัง เขายอมรับว่าระหว่างทัวร์อัลบั้ม “9” เขาไม่สามารถเขียนเพลงที่ถูกใจได้ เขารวบรวมสติ เคลียร์จิตใจของตัวเอง ทำความรู้จักตัวเองในทุกๆ ด้านให้มากขึ้น จนกระทั่งห่างหายไปจากวงการดนตรีไปถึง 8 ปี กลับมาอีกทีก็ปี 2014 ที่มาพร้อมกับอัลบั้ม “My Favourite Faded Fantasy” (จู่ๆ ชื่ออัลบั้มก็ยาวขึ้นมาเสียอย่างนั้น) โดยได้ Rick Rubin ผูผ่านผลงานมากับศิลปินระดับโลกมากมายอย่าง Red Hot Chili Peppers, Jake Bugg, Slipknot, Metallica, Sheryl Crow, Lana Del Rey, Ed Sheeran ไปจนถึง Lady Gaga เป็นโปรดิวเซอร์ให้ และแน่นอนว่าการกลับมาคราวนี้เขาคัดสรรบทเพลงที่ดีที่สุดจากปลายปากกาของเขาเอง โดยไม่สนว่าจะจำนวนเพลงเท่าไร เป็นเหตุให้มีจำนวนเพลงในอัลบั้มนี่เพียง 8 เพลงเท่านั้น (มีเพลง "Camarillas" เป็นเพลงที่ 9 ในเวอร์ชั่น limited edition box set)
Damien Rice กล่าวว่าสำหรับอัลบั้มนี้ เขาปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมาจนหมด ดึงเอาความรู้สึกลึกๆ ข้างในจิตใจออกมา ถ่ายทอดผ่านบทเพลงทุกเพลงอย่างไม่มีปิดบัง และนั่นเป็นเหมือนกับการบำบัดทางจิตที่ดีทางหนึ่ง แฟนเพลงที่ได้ฟังเพลงทุกเพลงในอัลบั้มนี้ต่างก็ลงความเห็นว่า เป็นอารมณ์แห่งการสูญเสีย หัวใจแตกสลาย หลังจากที่ความสัมพันธ์ของเขาและอดีตแฟนสาวที่ร่วมทำอัลบั้มที่แล้วด้วยกันมาไปไม่ถึงฝั่งฝัน ดังนั้นคงไม่ผิดหากคุณฟังเพลงอัลบั้มนี้แล้วจะรู้สึกได้ถึงความเจ็บลึกไปจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ ความทุกข์ทรมานจากความสัมพันธ์ที่จบกันไม่ดี ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน โดนตัดความสัมพันธ์อย่างไม่เหลือเยื่อใย จึงทำให้อัลบั้มนี้ครุกรุ่นไปด้วยความหม่นหมอง ผิดหวัง เสียใจยิ่งไปกว่าอัลบั้มที่ผ่านมาเสียอีก
การแสดงสดของ Damien Rice ก็เยี่ยมยอดเสียจนคนดูร้อยทั้งร้อยบอกว่า “Damien Rice แสดงสดได้ดีกว่าในอัลบั้ม” เพราะฉะนั้นไม่น่าแปลกใจเลย ที่ไม่ว่าจะจัดแสดงสดที่ไหน ผู้คนมักปิดท้ายเพลงแต่ละเพลงด้วยเสียงปรบมือดังกึกก้อง พร้อมกับยืน standing ovation กันอย่างพร้อมเพรียง หากคุณอยากสัมผัสเพลงเพราะๆ จากผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อเพลงเศร้า ผู้มาจากดินแดนแห่งกวี ศิลปิน และความรักอย่างไอร์แลนด์ เคลียร์คิวให้ว่างได้เลย กับ Damien Rice Live in Bangkok 2016 วันที่ 2 มิถุนายน 2559 ที่บางกอกคอนเสนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว รายละเอียดคอนเสิร์ต คลิกที่นี่
ส่วนใครอยากฟังเพลง Damien Rice อุ่นเครื่องก่อนชมคอนเสิร์ต คลิกฟังเพลงที่นี่ ได้เลยค่ะ
