"จ้าวเหว่ย-ฟ่านปิงปิง" จากดาวรุ่ง "องค์หญิงกำมะลอ" 27 ปีผ่านไป สู่มรสุมพลิกชีวิต
27 ปีผ่านไป “องค์หญิงกำมะลอ” ในความทรงจำ สองดาวดัง จ้าวเหว่ย - ฟ่านปิงปิง เส้นทางต่างขั้ว จากหนี้ท่วมชีวิตสู่รีแบรนด์ใหม่ในวงการ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 ซีรีส์จีนในตำนาน My Fair Princess หรือ องค์หญิงกำมะลอ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย พร้อมแจ้งเกิดนักแสดงรุ่นใหม่มากมาย โดยสองภาพจำที่คนดูจำได้ไม่ลืมคือ “จ้าวเหว่ย” ในบท เสี่ยวเอ้อจื่อ และ “ฟ่านปิงปิง” ในบท คนสนิท จินซัว
กาลเวลาผ่านไป 27 ปี เส้นทางของทั้งคู่กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ฝั่งหนึ่งต้องเผชิญปัญหาหนี้สินและหายหน้าไปจากวงการ ส่วนอีกคนพลิกฟื้นชื่อเสียงผ่านการทำธุรกิจและโปรเจกต์ระดับนานาชาติ
จ้าวเหว่ย จากซูเปอร์สตาร์สู่ชีวิตรันทด
ครั้งหนึ่ง “จ้าวเหว่ย” เคยถูกยกให้เป็นนางเอกแถวหน้าและนักลงทุนหญิงที่ร่ำรวยติดอันดับต้น ๆ ของวงการ แต่ทุกอย่างพลิกผันในปี 2021 เมื่อชื่อของเธอถูกลบหายไปจากแพลตฟอร์มบันเทิงจีน พร้อมกระแสข่าวฉาวทางการเงิน
จ้าวเหว่ยและอดีตสามี หวังโหย่วหลง ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐาน “ปั่นหุ้น-ฉ้อโกงนักลงทุน” ต้องจ่ายชดเชยมหาศาล รวมถึงคดีความอื่น ๆ อีกกว่าห้าร้อยคดี ยอดรวมคดีเรียกค่าเสียหายสูงถึงหลายพันล้านบาท แถมยังมีเงื่อนไขการหย่าที่ทำให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้ลูกชายของฝ่ายชาย

จากนักแสดงที่เคยครองบัลลังก์เศรษฐี วันนี้จ้าวเหว่ยถึงขั้นถูกยึดบ้านหรูในฮ่องกงและหุ้นบริษัทหลายแห่งถูกอายัด ภาพล่าสุดที่แฟน ๆ ได้เห็นคือเธอในลุคไร้เครื่องสำอาง ดูอิดโรยและหลบออกจากสังคมบันเทิง พร้อมทิ้งข้อความสะท้อนใจว่า
“ความกล้า ไม่ใช่การบอกว่าไม่กลัว แต่คือการยอมรับความเปราะบางของตัวเอง”

ฟ่านปิงปิง จากมรสุมคดีภาษี สู่เส้นทางนักธุรกิจ
ด้าน “ฟ่านปิงปิง” ก็เคยเผชิญวิกฤตหนักในปี 2018 จากกรณีหลีกเลี่ยงภาษี จนถูกสั่งปรับกว่า 800 ล้านหยวน ทำให้ผลงานการแสดงถูกระงับและภาพลักษณ์ “ราชินีพรมแดง” เกือบดับสนิท
แต่แทนที่จะถอย ฟ่านปิงปิงกลับเลือกสร้างแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง Fan Beauty Secret และหันมาจับตลาดไลฟ์ขายสินค้า ซึ่งครั้งหนึ่งถูกมองว่า “เสียเกียรติ” แต่กลับกลายเป็นทางรอดชั้นยอด ตัวอย่างเช่นในปี 2025 ระหว่างการร่วมไลฟ์กับ “หลี่เจียฉี” หรือ เทพเจ้าแห่งการขายของออนไลน์ มาสก์ของเธอ 100,000 กล่อง ถูกขายหมดในเวลาเพียง 10 วินาที รายได้ปี 2024 ของแบรนด์ยังพุ่งแตะ 1.45 พันล้านหยวน ติดอันดับท็อป 100 แบรนด์ความงามของจีน

แม้เธอยังไม่สามารถกลับมาไลฟ์เองได้โดยตรง แต่ก็ขยับบทบาทเป็นผู้บริหารเบื้องหลัง ใช้คนดังและอินฟลูเอนเซอร์มาช่วยโปรโมตสินค้า พร้อมค่อย ๆ กลับมารับงานแสดงในระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ Ice Road: Vengeance ประกบพระเอก Liam Neeson ที่สะท้อนว่าฟ่านปิงปิงยังไม่หมดไฟในเส้นทางบันเทิง

จากอดีตองค์หญิงกำมะลอ…สู่บทเรียนชีวิตจริง
27 ปีหลังจากที่ซีรีส์แจ้งเกิด “จ้าวเหว่ย” และ “ฟ่านปิงปิง” ชีวิตของทั้งคู่สะท้อนให้เห็นความผันผวนของวงการบันเทิง จากแสงสีที่เจิดจรัสสู่บททดสอบที่โหดร้าย แต่ต่างฝ่ายก็ตอบสนองต่อวิกฤตไม่เหมือนกัน
หากจ้าวเหว่ยเลือกหลีกเลี่ยงสายตาสาธารณะเพื่อเยียวยาตัวเอง ฟ่านปิงปิงกลับใช้พลังความเป็นนักสู้พลิกเกมชีวิต และพยายามสร้างเส้นทางใหม่ที่มั่นคงกว่าที่เคย
เรื่องราวของพวกเธอจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ดราม่าหลังม่านฮอลลีวูดแดนมังกร แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นว่า “ชื่อเสียงอาจไม่ยั่งยืน แต่ความเข้มแข็งและการปรับตัว…คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ยังอยู่รอด”
บทความเกี่ยวข้อง
- ดังแค่ไหนก็ไม่รอด! เปิดเส้นทาง "ดาราจีนชื่อดัง" ที่ถูกแบนหายไปจากวงการ
- 4 พระเอกจีนสุดหล่อ แต่ "ยิ้มแล้วเสียลุค" จากเทพบุตรกลายเป็นหนุ่มข้างบ้าน
- หล่อขั้นเทพ! 5 พระเอกจีนหล่อทะลุจอ เบ้าหน้ากระชากใจ ที่ใครเห็นก็ต้องใจสั่น
- 4 นางเอกจีน "สนามอารมณ์" มักโดนเกลียด จ้าวลู่ซือ-อวี๋ซูซิน ติดโผ...ใครโดนถล่มมากสุด?
