เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

รู้จัก “Brain Fog” ภาวะสมองล้า คุณกำลังเสี่ยงอยู่หรือเปล่า ?

รู้จัก “Brain Fog” ภาวะสมองล้า คุณกำลังเสี่ยงอยู่หรือเปล่า ?

ภาวะสมองล้า เป็นภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัวเพราะสมองทำงานหนักนาน ๆ อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ความจำ และการทำงานของสมองลดลง วัยทำงานอาจเสี่ยงได้

 

Brain Fog ภาวะสมองล้า คืออะไร ?

Brain Fog หรือ ภาวะสมองล้า เป็นภาวะที่วัยทำงานหลายคนมีความเสี่ยง เพราะเกิดจากภาวะเครียดโดยไม่รู้ตัวจากการที่สมองทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ทั้งเกิดจากการจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน พักผ่อนน้อย สมองคิดแต่เรื่องงานโดยไม่ได้พักคิดเรื่องอื่น ๆ ทำให้สารสื่อประสาทในสมองซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลสัญญาณไฟฟ้าระหว่างเซลล์ของระบบประสาทเสียสมดุล ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจึงแย่ลง

ภาวะสมองล้า สาเหตุหลักมาจากความเครียด ดังนั้นจึงเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคอันตรายหลายอย่างที่มักเกิดขึ้นในวัยทำงาน เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคอ้วน โรคเบาหวาน รวมถึงภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นต้น

 
สาเหตุของ Brain Fog ภาวะสมองล้า

  • คลื่นแม่เหล็ก จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ฯลฯ ที่เราอาจเผลอใช้งานมากเกินไป

  • ความเครียดสะสมจากการทำงาน ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองน้อยลง เกิดอาการมึนงง ความจำแย่ลง

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา

  • ขาดสารอาหารบางชนิด จากการรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ เช่น ขาดกรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ

  • ได้รับสารพิษต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น มลภาวะ สารเคมี โลหะหนัก ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนในอากาศ อาหาร และน้ำ เป็นต้น
  •  
    สัญญาณอันตราย Brain Fog ภาวะสมองล้า

  • นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท แม้ว่าจะเหนื่อย

  • ปวดศีรษะบ่อย ๆ

  • สายต่ออ่อนเพลีย พร่ามัว

  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย อารมณ์ขึ้นลงง่าย

  • หลงลืมง่าย

  • สมาธิสั้น

  • เริ่มคิดไอเดียใหม่ ๆ ไม่ค่อยออก สมองไม่ค่อยแล่น

  • ทำงานงานพลาดในจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ค่อยพลาดบ่อย ๆ

  • นอนมากเท่าไรก็ไม่รู้สึกสดชื่น ง่วงแม้จะนอนเยอะ

  • ลางานบ่อยขึ้น
  •  
    วิธีลดความเสี่ยงภาวะสมองล้า

    วัยทำงานคงจะหลีกเลี่ยงการทำงานหนักไปไม่ได้ แต่เราสามารถลดความเสี่ยงภาวะสมองล้าได้ ดังนี้

  • จัดเวลาในชีวิตให้ดี กำหนดเวลาทำงาน ทำกิจกรรมส่วนตัว เวลาพักผ่อน กินอาหาร พบปะเพื่อนและครอบครัว ไม่ให้ช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตขาดหายไป

  • พยายามมองโลกในแง่บวก มองหาข้อดีของทุกเรื่องที่เกิดขึ้น

  • จัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้ไว หากรู้สึกเครียด เริ่มคิดถึงเรื่องต่าง ๆ ในแง่ร้าย หงุดหงิด โมโห ควรเอาตัวออกห่างจากสิ่งที่ทำให้เกิดอารมณ์เหล่านั้นสักพัก หยุดคิดถึงเรื่องนั้นจนกว่าจะใจเย็นลง แล้วค่อยกลับไปแก้ปัญหานั้นใหม่

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อคืน ถ้ามีปัญหานอนไม่หลับเรื้อรังเกิน 3 สัปดาห์ ควรพบแพทย์

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน หรือสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที

  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ บุหรี่ และสิ่งเสพติดทุกชนิด

  • หาเวลาทำกิจกรรมที่อยากทำ เพื่อปรับอารมณ์ และสร้างแรงบันดาลใจในการทำสิ่งใหม่ ๆ เรื่อย ๆ

  • รับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ เน้นเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น ไก่ (ไม่กินหนัง) ปลา ผัก และผลไม้ต่าง ๆ และลดการรับประทานแป้งขัดสี และน้ำตาลให้น้อยลง
  • ผู้ป่วย PTSD ภาวะป่วยทางจิตหลังถูกทรมาน จะเยียวยาจิตใจอย่างไร?

    ผู้ป่วย PTSD ภาวะป่วยทางจิตหลังถูกทรมาน จะเยียวยาจิตใจอย่างไร?

    อาการ PTSD คือ สภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมาก รู้จักกลุ่มเสี่ยงและการรักษา

    5 อาหารบำรุงสมอง เพิ่มประสิทธิภาพเสริมความจำ และป้องกันสมองเสื่อม

    5 อาหารบำรุงสมอง เพิ่มประสิทธิภาพเสริมความจำ และป้องกันสมองเสื่อม

    การเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีส่วนช่วยในการบำรุงสมองให้แข็งแรง ช่วยเสริมสร้างความจำ สมาธิ และป้องกันโรคเกี่ยวกับสมอง

    7 วิธีคลายเครียด ลดความดันโลหิต ลดเสี่ยงโรคหัวใจ เส้นเลือดสมองแตก

    7 วิธีคลายเครียด ลดความดันโลหิต ลดเสี่ยงโรคหัวใจ เส้นเลือดสมองแตก

    วิธีคลายเครียด ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทำสมาธิ หรือการดูแลตัวเอง ให้คุณมีชีวิตที่สมดุลและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น

    รู้จัก \

    รู้จัก "โรคซึมเศร้า" มีอาการอย่างไร และวิธีการดูแล ฟื้นฟู จิตใจ

    โรคซึมเศร้า คือ ภาวะซึมเศร้าที่มีมากกว่าอารมณ์เศร้า และเป็นโรคทางจิตเวช โดยเฉพาะโรคทางอารมณ์ โรคซึมเศร้า สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการรักษาทางจิตใจ และการรักษาด้วยยาหลายชนิด

    โรคไข้เลือดออก มีอาการอย่างไร แนะนำวิธีรักษา และป้องกัน

    โรคไข้เลือดออก มีอาการอย่างไร แนะนำวิธีรักษา และป้องกัน

    ไข้เลือดออก เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเด็งกี ซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง มียุงลายเป็นพาหะนำโรค กล่าวคือ ยุงลายจะกัดคนที่เป็นโรคไข้เลือดออกก่อนแล้วจึงไปกัดคนที่อยู่ใกล้เคียงก็จะเป็นการแพร่เชื้อให้คนอื่นๆ ต่อไป