
อาหาร “ปิ้งย่าง” เสี่ยง “มะเร็ง” แม้แค่สูดดมควัน-อยู่ใกล้เตา
งานวิจัยพบว่า “สารก่อมะเร็ง” ที่อยู่ในควันจากการปิ้งย่างอาหารบนเตา สามารถเข้าสู่ร่างกายได้แม้เพียงเรารับควันอยู่ใกล้เตา
งานวิจัยพบว่า หากเรารับประทานอาหารปิ้งย่างอยู่หน้าเตาที่เราปิ้งย่างเอง เราอาจได้รับสารก่อมะเร็งจากทั้งการรับประทานอาหาร การสูดดมควัน และดูดซึมผ่านทางผิวหนัง
ทีมวิจัยที่กวางโจว ประเทศจีน สรุปผลจากการรวบรวมข้อมูลจากการทดลองกับอาสาสมัครทั้ง 20 คนที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกให้ลองกินอาหารปิ้งย่าง สูดดมควัน และรับควันผ่านผิวหนัง กลุ่มที่ 2 เพียงสูดดมควันและรับควันผ่านผิวหนัง กลุ่มที่ 3 รับควันผ่านผิวหนังอย่างเดียว และทำการตรวจหาสารก่อมะเร็งหลังทำการทดลอง พบว่ากลุ่มที่กินอาหารปิ้งย่างเสี่ยงได้รับสารก่อมะเร็งมากที่สุด แต่รองลงมากลับเป็นกลุ่มที่รับควันผ่านผิวหนัง แล้วอันดับสุดท้ายคือกลุ่มที่สูดดมควัน
ทั้งนี้ รศ.ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ และ มลฤดี สุขประสารทรัพย์ จากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า สารก่อมะเร็งที่มักพบในอาหารปิ้งย่าง ได้แก่ สารพิษที่ชื่อ พีเอเอช (polycyclic aromatic hydrocarbon) ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่เกิดในควันไฟ ควันธูป ควันบุหรี่ ควันโรงงาน และควันอื่นๆ ที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์
สารนี้เกิดจากไขมันในเนื้อสัตว์ที่หยดติ๋งๆ ลงบนถ่ายขณะที่ให้ความร้อนต่ำ และเมื่ออากาศมีจำกัดทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ จึงเกิดควันที่มีสารพีเอเอชลอยฉุยๆ ขึ้นมาเกาะที่ผิวอาหาร โดยสารนี้จะมีมากในบริเวณที่ไหม้เกรียมของอาหารปิ้งย่างนั้น
จากที่หลายคนคิดว่า การรับประทานอาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียม จะทำให้เราเสี่ยงรับสารก่อมะเร็งมากขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว แต่อันที่จริงแล้ว เมื่อสารก่อมะเร็งอยู่ในควัน ดังนั้นหากเราสูดดมควัน หรือแม้แต่เพียงการยืนหรือนั่งอยู่ใกล้เตาขณะทำการปิ้งย่างอาหารอยู่ เราก็สามารถรับสารก่อมะเร็งได้เช่นกัน
กินอาหารปิ้งย่างอย่างให้ปลอดภัยต่อสารก่อมะเร็งมากที่สุด
จริงๆ แล้วการไม่กินอาหารปิ้งย่าง หรือกินให้น้อยที่สุด น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยงการรับสารก่อมะเร็งจากอาหารปิ้งย่าง แต่หากยังอยากกินอาหารปิ้งย่างอยู่บ้าง สามารถลดความเสี่ยงอันตรายจากสารก่อมะเร็งได้ ดังนี้