เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

9 วิธี ลดเสี่ยงอาการ \

9 วิธี ลดเสี่ยงอาการ "ตาแห้ง"

ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพดวงตาที่หลายคนมองข้าม คือปัญหาอาการ “ตาแห้ง” โดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในการใช้สายตา รวมถึงอายุที่มากขึ้นด้วย อาการเป็นอย่างไร และมีวิธีป้องกันอาการตาแห้งอย่างไร เรามีข้อมูลจาก รศ.พญ. เกวลิน เลขานนท์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาฝากกัน

ปัจจัยเสี่ยงโรคตาแห้ง

  • อายุ 65 ปีขึ้นไป
  • เพศหญิง (เสี่ยงตาแห้งมากกว่าเพศชาย)
  • ใช้สายตาจ้องมองอุปกรณ์ดิจิตอลเป็นเวลานาน เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรืออ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานาน มีการกะพริบตาน้อยลง
  • ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ และ/หรือใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานในหนึ่งวัน
  • ผลข้างเคียงจากโรคประจำตัว และยาที่รับประทานเพื่อรักษาโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคซึมเศร้า โรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง ที่มีการกินยาขับปัสสาวะ

อาการโรคตาแห้ง

  • แสบตา ไม่สบายตา
  • เคืองตา รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตา
  • ตาล้า รู้สึกอยากหลับตา
  • ตามัว ความสามารถในการมองเห็นลดลง

วิธีป้องกันโรคตาแห้ง

  • หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ดิจิตอลต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • หากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ดิจิตอลเป็นเวลานาน ควรพักสายตาทุกๆ 20 นาที เช่น หลับตา หรือละสายตามองวัตถุที่อยู่ไกล 20 ฟุต อย่างน้อย 20 วินาที
  • หลีกเลี่ยงให้ดวงตาปะทะหรือสัมผัสกับลมแรงๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น นอนเปิดพัดลมหรือลมแอร์รดใส่ตา
  • หลีกเลี่ยงการเดินทางหรืออยู่ในที่ที่อากาศแห้งมากเป็นเวลานาน หรือมีมลพิษทางอากาศสูง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
  • กะพริบตาให้บ่อยขึ้น กะพริบตาสม่ำเสมอ
  • ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์สัมผัสเป็นเวลาเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอ วันละ 6-8 แก้ว
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • “ตาแห้ง” อย่ามองข้าม สัญญาณอันตรายถึงขั้น ตาบอด

    “ตาแห้ง” อย่ามองข้าม สัญญาณอันตรายถึงขั้น ตาบอด

    ภาวะตาแห้ง เกิดจากการที่ต่อมน้ำตาผลิตน้ำตาไม่เพียงพอ ทำให้ดวงตาแห้ง ระคายเคือง คันตา แสบตา ใครมีอาการ ตาแห้งบ่อยๆ อย่าลืมใช้น้ำตาเทียม