อย่าให้วันพิพากษาฯ เป็น วันกำหนดชะตาสังคมไทย
ในช่วงนี้บรรดาคนที่ติดตามข่าวสาร การบ้านการเมือง คนได้รับรู้จากการที่มีการประโคม โหมข่าว ให้จับตาสถานการณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 กันให้ดี บรรดาเซียนหุ้น นักธุรกิจ ต่างเสนอแนะให้จับตาสถานการให้ดีว่าจะเกิดผลกระทบกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นหรือไม่
บรรดานักวิชาการทางสังคม นักวิเคราะห์การเมือง ต่างออกมาวิเคราะห์คาดการณ์ ถึงปรากฏการณ์ หลัง”วันพิพากษา 25 ส.ค. 2560” กันยกใหญ่
มีการสำรวจความเห็นประชาชนเพื่อประเมินความรู้สึก ประเมินทิศทางกันมาแล้ว ว่า หลังวัน พิพากษา คดี ที่เกี่ยวเนื่องกับ กรณี โครงการรับจำนำข้าว..ทั้งในส่วนของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์( ข้อหา ทุจริตการระบายข้าว)
และ อดีต นายกหญิงคนแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ในข้อหาไม่ระงับยับยั้งความเสียหายฯ ตามมาตรา 157) โดยผลการสำรวจต่างเทความเห็นไปในทางที่ว่า ไม่ว่าผลจะออกมาแบบใด..ก็จะนำไปสู่ความร้อนแรงทางการเมือง นำไปสู่ขัดแย้งทางการเมืองต่อไป...!?
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังวันพิพากษา 25 ส.ค.2560 ถูก ยกให้เป็นประเด็นใหญ่ที่สุดในสังคมไทย ถูกทำให้เป็นวันกำหนดชะตาของสังคมไทยไปได้อย่างไร...?
วันที่ 25 ส.ค. 60 เป็นวันตัดสินคดี โดยกระบวนการยุติธรรมโดยศาลยุติธรรม เป็นการตัดสินคดีทุจริต ครั้งใหญ่ที่มีมูลค่าความเสียหายมากมายหลายแสนล้านบาท กับนักการเมือง ที่อาสามารับใช้มาบริหารบ้านบริหารเมือง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าคนอื่นๆทั่วไปเพราะ ได้เข้ามาใช้อำนาจแทนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
เมื่อเกิดปัญหาทุจริต ปล่อยปละละเลยให้ทุจริต ก็สำควรที่ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และให้เป็นแบบอย่างให้กับสังคมไทยต่อไปในอนาคตว่า ต่อไปใครที่เขามาบริหารบ้านเมืองก็ต้องเข้ามาด้วยความบริสุทธิ์ เข้ามาเพื่อบริหารประเทศให้เกิดความผาสุก ไม่เข้ามาเพื่อกอบโกย เข้ามาเพื่อเบียดบังผลประโยชน์ไปให้พวกพ้องตัวเอง
ใช่หรือไม่ที่สังคมไทย ต้องร่วมมือกันเพื่อขจัดปัญหาเหล่านี้ เพื่อจะได้สร้างชาติสร้างอนาคตไม่ให้ติดล่มของปัญหาร้ายที่กัดกินเมืองไทยมายาวนาน ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมือง ให้กับสังคมไทยมามากมาย ทำให้ประเทศไทยด้อยพัฒนา
พัฒนาล่าช้าเพราะผู้บริหารประเทศกอบโกยเอาผลประโยชน์ที่ควรจะนำไปพัฒนาประเทศมาเป็นของตัวเองและพวกพ้อง จนมีคนกล่าวขานกันว่า หากประเทศไทยไม่มีนักการเมืองโกงกิน ป่านนี้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ไม่ด้อยไปกว่าใครๆในโลกนี้
แล้วทำไม่ ในวันที่มีการตัดสิน คดีความโดยศาลยุติธรรม เกี่ยวกับเรื่องทุจริต เรื่องปล่อยปละไม่ยับยั้งความเสียหาย...สังคมไทยจึงหวาดกลัว...
ทำไม คนเล่นหุ้น จึงหวาดกลัว ว่าหุ้นจะตก ตัวเองจะขาดทุนจากการลงทุน ?
ทำไมธุรกิจ ห้างร้านจึงหวาดกลัวว่าจะเกิดปัญหาต่อการทำธุรกิจของตน ?
ทำไม คนไทยจึงกลัว ว่าสังคมจะเกิดความแตกแยก เกิดเป็นปัญหาความขัดแย้งใหญ่โตขึ้นมาอีก ?
ทำไมคนไทย สังคมไทย ไม่ช่วยกันสร้างมาตรฐานของสังคมขึ้นมาว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องการทุจริต เป็นเรื่อง การปล่อยปละละเลยให้กระทำการจนเกิดความเสียหายหลายแสนล้าน เราต้องขจัดปัญหาเหล่านี้ ...และนี้คือ การดำเนินการตามกระบวนการของระบบยุติธรรม...ที่เปิดให้ผู้ถูกกล่าวหา ต่อสู้ในทางคดี นำพยานหลักฐานมายืนยันกัน จนสิ้นสุดกระบวนความแล้ว...
ผลที่จะเกิดขึ้นในวันพิพากษาคดี... จะเป็นมาตรฐานของสังคมไทย ต่อ การปราบปราบการขจัดการทุจริตในอนาคตหรือไม่...เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม...และต้องติดตามอย่างเข้าใจอย่าให้ใครก็ตามเอาความหวาดกลัว เอาประเทศไทย เอาสังคมไทยมาเป็นตัวประกัน เพื่อสร้างอำนาจต่อรอง สร้างแรงกดดันใดๆขึ้นมาในสังคม และสร้างกดดันใดๆต่อการตัดสินคดีความ....
อย่าปล่อยให้ใครก็ตามลากสังคมไทยลงไปสู่ความมืดดำใดๆขึ้นมาอีก อย่าให้ใครก็ตามเอาผลของการตัดสิน ไปสร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง จนนำไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ เกิดกลียุค เกิดการเผาบ้านเผาเมืองขึ้นมาอีก อย่าปล่อยให้ใครเอาสังคมไทย เป็นตัวประกันต่อรองใดๆโดยเด็ดขาด.....!! อย่าให้เขากำหนดชะตาสังคมไทยในทางเลวร้ายเหมือนในอดีตขึ้นมาอีกเลย... !!