เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

4 สัญญาณอันตราย “ประจำเดือน” ไม่ปกติ สาเหตุ-วิธีรักษาเบื้องต้น

4 สัญญาณอันตราย “ประจำเดือน” ไม่ปกติ สาเหตุ-วิธีรักษาเบื้องต้น

“ประจำเดือน” ที่ไม่ปกติ บ่งบอกอาการระบบสืบพันธุ์ผิดปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นมดลูก รังไข่ และอื่นๆ ซึ่งอาจบอกโรคได้ และยังอาจเสี่ยงภาวะมีบุตรยากได้อีกด้วย

ประจำเดือนมาแบบไหนที่เรียกว่า “ไม่ปกติ”

รศ. นพ.สุรสิทธิ์ ชัยทองวงศ์วัฒนา แพทย์ประจำฝ่ายสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุลักษณะของประจำเดือนที่ไม่ปกติ ดังนี้

  • ผู้หญิงที่ไม่ควรจะมีประจำเดือน แต่พบเลือดออกทางช่องคลอด เช่น ในเด็ก หรือในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
  • ผู้หญิงที่มีเลือดออกนอกรอบประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นเลือดออกระหว่างรอบประจำเดือน หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
  • มีปริมาณประจำเดือนมากขึ้น สังเกตจากการใช้ผ้าอนามัยมากกว่า 4 แผ่นชุ่มต่อวัน หรือมีระยะเวลาของประจำเดือนมาเกิน 7 วัน ในกรณีเหล่านี้อาจจะทำให้ผู้หญิงมีอาการวิงเวียน เหนื่อย เพลีย หลังมีประจำเดือน จากภาวะโลหิตจางได้
  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่ครบทุกเดือน หรือระยะเวลาระหว่างเดือนห่างกันมากเกินไป
  • สีของประจำเดือน สีของประจำเดือน ไม่ได้เป็นตัวบอกโรคหรือภาวะผิดปกติใดใด ถ้าไม่มีลักษณะอื่นๆ ร่วมด้วย

    สาเหตุของการมีเลือดประจำเดือนออกผิดปกติที่พบได้บ่อย

  • การทำงานของรังไข่ที่ผิดปกติ
  • การใช้ฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนทดแทนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
  • ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์
  • โรคติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์
  • เนื้องอกในระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะเนื้องอกมดลูกที่เป็นภาวะที่พบได้บ่อย
  • มะเร็งในระบบสืบพันธุ์ ได้แก่ มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
  • การรักษาภาวะเลือด (ประจำเดือน) ออกผิดปกติ
  • การรักษาภาวะประจำเดือนผิดปกติ

    การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เป็น เช่น สาเหตุจากรังไข่ทำงานผิดปกติจะรักษาด้วยการใช้ยา เพื่อควบคุมการทำงานของรังไข่ กรณีเป็นความผิดปกติที่เกิดจากเนื้องอก หรือมะเร็งในระบบสืบพันธุ์ รักษาด้วยการผ่าตัด หรือการใช้รังสีรักษา เป็นต้น

    หากพบว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ ให้รีบมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา เพราะอาการเหล่านี้บ่งชี้ว่าร่างกายของท่านอาจมีความผิดปกติในระบบสืบพันธุ์