เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

“ข้าวโอ๊ต” ไม่ใช่ทุกคนที่กินแล้วดี เช็ก 3 กลุ่มที่ควรระวัง!

“ข้าวโอ๊ต” ไม่ใช่ทุกคนที่กินแล้วดี เช็ก 3 กลุ่มที่ควรระวัง!

ถ้าพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพ หลายคนมักนึกถึง “ข้าวโอ๊ต” เป็นอย่างแรก เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชที่อุดมด้วยไฟเบอร์ ช่วยให้อิ่มนาน คุมคอเลสเตอรอล และดีต่อระบบขับถ่าย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับการกินข้าวโอ๊ต และบางคนอาจมีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากกินด้วยซ้ำ

ข้าวโอ๊ต ไม่ใช่แค่อาหารลดน้ำหนัก แต่ยังเป็นแหล่งพลังงานที่ดีต่อร่างกายในระยะยาว ช่วยควบคุมน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรอล บำรุงระบบย่อย และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง หากเลือกทานข้าวโอ๊ตที่ผ่านกระบวนการน้อย ไม่เติมรสหวาน และทานร่วมกับอาหารหลากหลาย จะทำให้ได้รับคุณค่าทางโภชนาการอย่างเต็มที่

ประเภทของข้าวโอ๊ต และความแตกต่าง

โอ๊ตมีล (Oatmeal)

  • ลักษณะเป็นผงหยาบ ได้จากการบดเมล็ดข้าวโอ๊ต
  • เมื่อนำไปต้มจะคล้ายโจ๊ก มีไฟเบอร์สูง และอิ่มท้องนาน

โรลโอ๊ต (Rolled Oats)

  • ลักษณะเป็นเกล็ดแบน ได้จากการนึ่งและบดด้วยลูกกลิ้ง
  • ใช้ทำมูสลี่ กราโนล่า หรืออบเป็นขนมได้

ข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป (Instant Oats)

  • ผ่านการนึ่งและปรุงรสมาก่อนแล้ว
  • เพียงเติมน้ำร้อนก็สามารถทานได้ทันที สะดวกแต่ควรเลือกแบบไม่เติมน้ำตาล

ข้าวโอ๊ต กี่แคล

สารอาหาร ปริมาณ
พลังงาน 389 kcal
คาร์โบไฮเดรต 66 g
โปรตีน 17 g
ไขมัน 7 g
ใยอาหาร 11 g

ประโยชน์ของข้าวโอ๊ต

  • มีใยอาหารสูง (โดยเฉพาะเบต้ากลูแคน)

  • ช่วยลดไขมัน LDL และควบคุมน้ำตาลในเลือด

  • อิ่มนาน แคลอรีต่ำ เหมาะกับการควบคุมน้ำหนัก

  • มีโปรตีน วิตามิน B และสารต้านอนุมูลอิสระ

3 กลุ่มคนที่ควรระวังในการกินข้าวโอ๊ต

1. คนที่มีปัญหาระบบย่อยอาหารหรือเป็นโรคลำไส้

ใครที่มีโรคลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวน IBS (Irritable Bowel Syndrome) หรือระบบย่อยไม่ดี เมื่อกินข้าวโอ๊ตซึ่งมีไฟเบอร์สูง อาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือปวดท้องได้ เพราะลำไส้ของคนกลุ่มนี้ยังไม่พร้อมย่อยไฟเบอร์ชนิดนี้อย่างเต็มที่

คำแนะนำ

  • เริ่มจากปริมาณน้อยๆ และดูปฏิกิริยาร่างกาย

  • เลือกข้าวโอ๊ตที่ผ่านการปรุงสุกดี เช่น ต้มให้นิ่ม

  • ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ให้เปลี่ยนไปกินข้าวกล้องหรือมันเทศแทน

2. ผู้ที่แพ้กลูเตน (แม้ข้าวโอ๊ตจะไม่มีกลูเตน)

แม้ว่าโดยธรรมชาติข้าวโอ๊ตจะไม่มีกลูเตน แต่หลายยี่ห้ออาจปนเปื้อนกลูเตนจากกระบวนการผลิต เช่น ใช้สายการผลิตเดียวกับข้าวสาลี คนที่แพ้กลูเตนแบบรุนแรง จึงควรระวัง

คำแนะนำ

  • อ่านฉลากให้ชัด เลือกยี่ห้อที่เขียนว่า “Gluten-Free” เท่านั้น

  • ถ้าทานแล้วมีอาการ เช่น ผื่นขึ้น แน่นท้อง ท้องเสีย ควรหยุดทันที

3. คนที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระวังกับดัก! 

แม้ข้าวโอ๊ตจะดีต่อคนเป็นเบาหวานเพราะมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ แต่ถ้านำไปปรุงแบบใส่นมข้น น้ำตาลทราย น้ำผึ้ง หรือท็อปปิ้งหวานต่างๆ ก็จะกลายเป็นกับดักที่ทำให้ระดับน้ำตาลพุ่งได้

คำแนะนำ

  • ใช้ข้าวโอ๊ตแบบไม่ปรุงรส (Rolled oats หรือ Steel-cut oats)

  • ปรุงรสด้วยผลไม้สด เช่น กล้วย แอปเปิ้ล หรือถั่วแทน

  • อย่าหลงเชื่อคำว่าเมนู  Healthy ตามร้านอาหารโดยไม่ดูส่วนผสม

แล้วข้าวโอ๊ตเหมาะกับใคร?

  • คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

  • ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูง

  • คนที่ต้องการเพิ่มใยอาหารในชีวิตประจำวัน

  • ผู้ที่ออกกำลังกายและอยากได้พลังงานยั่งยืน

แม้ว่าข้าวโอ๊ตจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ต้องพิจารณาตามสภาพร่างกายของแต่ละคน เพราะสิ่งที่ดีสำหรับคนหนึ่ง อาจไม่เหมาะกับอีกคน ดังนั้นควรฟังร่างกายตัวเองเป็นหลัก และถ้ามีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ

อ่านเพิ่มเติม