เนื้อหาในหมวด สุขภาพ

6 ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมประโยชน์

6 ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมประโยชน์

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ คือผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งของวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักแต่ละชนิดอย่างละเอียด พร้อมข้อมูลว่าช่วยอะไรกับร่างกายบ้าง

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ คืออะไร

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ คือกลุ่มของผลไม้ลูกเล็ก ๆ ที่มักมีสีแดง น้ำเงิน หรือม่วง มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน โดยมีจุดเด่นคือคุณค่าทางอาหาร เช่น แอนโธไซยานิน วิตามิน C และใยอาหารสูงมาก เหมาะทั้งสำหรับผู้รักสุขภาพ ผู้ควบคุมน้ำหนัก และผู้สูงอายุ

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่แต่ละชนิดและประโยชน์

  • สตรอว์เบอร์รี่ (Strawberry)

    • รสหวานอมเปรี้ยว กินง่าย มีปริมาณวิตามิน C สูงมาก (มากกว่าส้มต่อหน่วยน้ำหนัก)

    • ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต่อต้านริ้วรอย ลดการอักเสบ และเสริมสร้างคอลลาเจน

    • ยังอุดมด้วยแมงกานีส โฟเลต และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

    • สตรอว์เบอร์รี่สด 100 กรัม ให้พลังงานเพียงประมาณ 33 กิโลแคลอรี
  • บลูเบอร์รี่ (Blueberry)

    • ขึ้นชื่อว่าเป็น "Superfood" เพราะเต็มไปด้วยแอนโธไซยานินที่ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง

    • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตในสมอง ปรับสมดุลความจำและการเรียนรู้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ

    • ยังมีวิตามิน K ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด และแมงกานีสที่ช่วยเผาผลาญพลังงาน

    • งานวิจัยชี้ว่าอาจช่วยลดความดันโลหิตในผู้ที่มีระดับความดันสูงเล็กน้อย
  • ราสป์เบอร์รี่ (Raspberry)

    • มีใยอาหารสูงมาก (ประมาณ 8 กรัมต่อ 100 กรัม) ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดและระดับคอเลสเตอรอล

    • มีสารเคมีธรรมชาติชื่อว่า Ellagic acid ที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งในสัตว์ทดลอง

    • อุดมด้วยวิตามิน C และแมกนีเซียม ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันและระบบประสาท

    • รสชาติเปรี้ยวจัดเล็กน้อย มักใช้ในสมูทตี้หรือทำซอสสำหรับเมนูสุขภาพ
  • แบล็กเบอร์รี่ (Blackberry)

    • มีวิตามิน C และวิตามิน K สูง ซึ่งช่วยให้เลือดแข็งตัวเป็นปกติ และดูแลกระดูก

    • ยังมีโฟเลตที่ดีต่อหญิงตั้งครรภ์ และช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง

    • ปริมาณแอนโธไซยานินในแบล็กเบอร์รี่ช่วยปกป้องเซลล์จากความเครียดออกซิเดชัน

    • มีใยอาหารที่ช่วยให้ระบบลำไส้แข็งแรง และเหมาะกับการควบคุมน้ำหนัก
  • แครนเบอร์รี่ (Cranberry)

    • โด่งดังในด้านการป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะในผู้หญิง

    • มีสาร Proanthocyanidins ที่ช่วยลดการเกาะตัวของแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะ

    • นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเสริมการทำงานของหัวใจ

    • นิยมใช้ในรูปแบบน้ำผลไม้หรือแบบอบแห้ง ควรเลือกแบบไม่เติมน้ำตาล
  • โกจิเบอร์รี่ (Goji Berry)

    • หรือที่รู้จักในชื่อเก๋ากี้ นิยมใช้ในสมุนไพรจีนโบราณ

    • อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามิน A, C, ธาตุเหล็ก และกรดอะมิโน

    • มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน และลดระดับน้ำตาลในเลือดในบางราย

    • มักใช้ในรูปแบบอบแห้งหรือผสมในสมูทตี้ ธัญพืช และชา

    แม้ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จะดีต่อสุขภาพ แต่ผลไม้บางชนิด เช่น แครนเบอร์รี่ อาจรบกวนการทำงานของยาบางประเภท เช่น warfarin (ยาละลายลิ่มเลือด) นอกจากนี้ ควรระวังผลิตภัณฑ์แปรรูปที่เติมน้ำตาล เช่น โกจิเบอร์รี่อบแห้งหรือน้ำเบอร์รี่พร้อมดื่ม

    ทำไมไม่ควรใส่กล้วยในเบอร์รี่สมูทตี้?

    ทำไมไม่ควรใส่กล้วยในเบอร์รี่สมูทตี้?

    การไม่ใส่กล้วยในเบอร์รี่สมูทตี้จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระได้มากกว่า ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และควรเลือกวัตถุดิบอะไรใส่ไปบ้าง ไปดูกัน