ดื่มน้ำก่อนนอน ไม่ดีจริงไหม? เฉลยข้อเท็จจริงจากนักโภชนาการ
ดื่มน้ำก่อนนอนดีหรือไม่? คำถามนี้ถูกพูดถึงในหลายวงการสุขภาพ บ้างว่าเสี่ยงตื่นกลางดึก บ้างว่าเป็นเคล็ดลับช่วยดีท็อกซ์ แล้วอะไรคือความจริง? มาฟังคำแนะนำจากนักโภชนาการกัน
เหตุผลที่หลายคนไม่แนะนำให้ดื่มน้ำก่อนนอน
เสี่ยงรบกวนการนอน
การดื่มน้ำก่อนนอนมากเกินไปอาจทำให้คุณต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก ซึ่งส่งผลให้คุณนอนหลับไม่สนิท และกระทบต่อคุณภาพการพักผ่อน
เพิ่มโอกาสบวมน้ำ
สำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะไตทำงานผิดปกติหรือเป็นโรคหัวใจ การดื่มน้ำในช่วงก่อนนอนอาจทำให้เกิดอาการบวมน้ำในตอนเช้าได้
ระบบเผาผลาญไม่ได้พัก
แม้การดื่มน้ำจะมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ แต่ถ้าเราดื่มมากเกินไปก่อนนอน ระบบย่อยอาหารอาจถูกกระตุ้นในเวลาที่ร่างกายควรได้พักผ่อน
แล้วควรดื่มน้ำเวลาไหนดี?
ช่วงที่ดีที่สุดคือก่อนเข้านอน 1–2 ชั่วโมง
นักโภชนาการแนะนำว่า ถ้าต้องการดื่มน้ำก่อนนอน ควรดื่มในช่วงก่อนนอนประมาณ 1–2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาขับออกก่อนนอนจริง
ปรับปริมาณให้เหมาะสม
ควรดื่มเพียง ½ – 1 แก้วพอให้ชุ่มคอ ไม่แนะนำให้ดื่มเกิน 1 แก้วในช่วงก่อนนอน
ประโยชน์ของการดื่มน้ำก่อนนอน (ในปริมาณที่พอเหมาะ)
- ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายตลอดคืน
- ลดโอกาสตื่นมาคอแห้ง
- ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้สมดุล
- อาจช่วยลดความเสี่ยงของตะคริวในบางคน
ใครบ้างที่ควรเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนนอน?
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ
- ผู้สูงอายุที่มักตื่นบ่อยกลางดึก
- ผู้ที่ต้องควบคุมปริมาณน้ำ เช่น ผู้ป่วยโรคไตหรือโรคหัวใจ
สรุป
ดื่มน้ำก่อนนอนไม่ใช่เรื่องแย่ หากทำอย่างพอเหมาะพอดี ควรดื่มล่วงหน้าอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมง และจำกัดปริมาณไม่ให้มากเกินไป เพื่อไม่ให้รบกวนการนอนหลับ หากคุณมีภาวะสุขภาพเฉพาะ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะปรับพฤติกรรมการดื่มน้ำก่อนเข้านอน