อย่างนี้ต้องขยาย!! อู่ตะเภาดอดเรียก 2 รายสอดเอกสารเพิ่ม องค์กรอิสระเตรียมตรวจสอบ
เคยเห็นแต่ใช้กล้องจับภาพช้าในกีฬาโอลิมปิค แต่ต่อไปนี้ การประมูลคงต้องมีการจับกล้องในการขนซองประมูลที่ต้องใช้รถกระบะหลายคันขน หลังมีประเด็นขนกล่องช้า 8 นาทีหรือไม่
แต่แหล่งข่าวบอก พอดูกล้องวงจรปิด ยังขนกล่องกันวุ่นทุกราย จนเกิดดราม่าว่า ซอง 3 ห้ามช้า ซองอื่นช้าได้...จริงหรือ?? แม้กระทั่งสื่อยังชี้ว่า หลังบ่าย 3 ทุกรายยังถูกเรียกให้ขนกล่องเอกสารกันมาอีกห้องหนึ่ง ร้องให้เอากล้องมาดูว่า 4-5 โมงเย็น กรรมการยังเรียกย้ายห้อง ขนเอกสารอยู่เลยหรือไม่
ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว ทั้ง 3 ราย ลงทะเบียนเอกสารกันหมดตั้งแต่ช่วงบ่ายต้น ๆ เรื่องขนกล่องไม่น่าจะเป็นประเด็น แต่ครั้งนี้ การแข่งขันประมูลอู่ตะเภา ดูเหมือนจะไม่ได้แข่งที่เงินประมูลอีกต่อไป กระพริบตาไม่ได้
แต่ทำท่าจะชนะด้วยท่ายาก คือเอาชนะทางเทคนิค ทำให้ข้อตกลงคุณธรรม กับ ปปช. คงไม่รอให้จบประมูล คงต้องเข้ามาเอาแว่นขยายส่อง แล้วมองแบบละเอียด
เมื่อเส้นชัยคือการขนกล่อง ไม่ใช่ผลจากซองประมูล...ทำไมกรรมการไม่ประกาศผลวันนั้น แต่เลื่อนออกมา? ทำไมหลังบ่าย 3 จึงยังเรียกแต่ละรายย้ายกล่องเอกสาร??
วันต่อมา เมื่อตรวจรับเอกสารแล้ว ยังมีการเรียกให้เพิ่มเติมเอกสาร ให้ผู้ประมูลแตะต้องเอกสารที่ยื่นไปก่อนหน้าหรือไม่ ไม่มีใครทราบ??? คงต้องฝากองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น ที่คงจะได้เริ่มทำงานหนักแต่หัววัน
เมื่อเกิดประเด็นที่สังคมตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการจัดการประมูล ซึ่งเมื่อวันที่ 5-8 พฤษภาคม 2562 สื่อดังชี้ประเด็นข่าว “ยกแรกชิงอู่ตะเภา บีบีเอสเขี่ยทิ้งซีพี” ที่ทำให้สังคมตื่น!! แต่ไม่รู้ว่า ปปช. และตัวแทนข้อตกลงคุณธรรมจะตื่นหรือไม่ และรู้เท่าทันการเขี่ยขั้นเทพอย่างที่เป็นข่าวหรือไม่
ประเด็นที่ 1: การให้ผู้ยื่นซอง 3 ราย ส่งเอกสารเพิ่มใน 15 วัน..อย่างนี้ก็ได้หรือ???
ข้อมูลชิ้นสำคัญที่สื่อออกมาให้คือ ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีมติให้ผู้ยื่นซองประมูลทั้ง 3 รายส่งเอกสารเพิ่มเติมภายใน 15 วัน
โดยกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ต้องส่งเอกสารยืนยันเกี่ยวกับการเสนอสนามบินนาริตะมาเป็น subcontractor เพื่อบริหารสนามบิน รวมถึงการบำรุงรักษา และพัฒนาสนามบิน
ขณะที่กลุ่มแกรนด์คอนซอร์เตรียม จะต้องนำเสนอเอกสารยืนยันประสบการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เสนอขึ้นมา ซึ่งถือว่าสุ่มเสี่ยงต่อการขัด RFP ที่เอกสารไม่ครบถ้วน แต่เรียกเอกสารเพิ่ม และไม่ควรให้มีการเพิ่มเติมชุดเอกสาร เพราะเสี่ยงต่อการทุจริต ซึ่งกรณีนี้ต้องตรวจสอบใกล้ชิด
ประเด็นที่ 2: บางซองต้องส่งก่อนบ่าย 3 บางซองส่งหลังได้...อย่างนี้ก็ได้หรือ??
ประเด็นร้อนการส่งเอกสารให้ทันในเวลา 15:00 น. ถึงขนาดต้องเอากล้องวงจรปิดมาดูกันเลยทีเดียว แต่วงในชี้ ปัญหาคือ พอไปดูจริง ๆ คือดันมีการขนเอกสารเกินเวลากันแทบทุกเจ้า จนสื่อจับพิรุธ
และชี้ข้อมูลอ้างอิงจากนายสุจิตต์ เชาว์ศิริกุล รองผู้ว่าการด้านบริหารรถไฟฟ้า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวถึงกรณีของการยื่นประมูลโครงการร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ว่าเอกสารมีจำนวนมาก พื้นที่การจัดเก็บและการขนมีข้อจำกัด
บางกล่องสำคัญก่อนบ่าย 3 บางกล่องหลังบ่าย 3 ได้ แบบนี้ก็ได้หรือ?? คงต้องพึ่งองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นมาช่วยจับตา
นอกจากนี้ แหล่งข่าวชี้ ทุกเจ้าขนเอกสารไปรอห้องรอ และเรียกรับเอกสารทีละเจ้า กว่าจะเสร็จสิ้นการรับเอกสารคือ 5 โมงเย็น และสิ่งที่ปวดตับหนักคือ กรรมการเองก็ไม่ทำตาม RFP เพราะเอกสารเยอะ
โดยแทนที่จะเปิดเอกสารเลยตาม RFP ในเย็นวันนั้น กรรมการกลับบอกว่าเอกสารเยอะ ขอเลื่อนการตรวจเป็นวันอื่น...แบบนี้ก็ได้หรือ??
โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาถือเป็นโครงการใหญ่ และบทบาทสื่อคือ ทำหน้าที่จับตาและยกประเด็นให้สังคมช่วยตรวจสอบ และการประมูลอู่ตะเภา ถือว่าได้เข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)
ซึ่งมีการแต่งตั้งผู้แทนจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) จำนวน 5 ท่าน เป็น ผู้สังเกตการณ์อิสระเข้าร่วมการประชุมและการดำเนินการของคณะกรรมการคัดเลือกอย่างต่อเนื่องตลอดกระบวนการ
ซึ่งคงได้ใช้บริการแต่หัววัน และทำให้คนไทยสบายใจ ที่มีคนคอยเป็นตัวแทนตรวจสอบเอกชนทั้ง 3 ราย รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการการประมูล เพราะสุดท้ายแล้วหากมีการหมกเม็ด เล่นเกมส์เทคนิคต่าง ๆ ที่ไม่โปร่งใส
คนที่เสียประโยชน์คนไทย ที่อุตสาห์ไว้ใจ ส่งตัวแทนองค์กรประชาสังคมไปช่วยตรวจสอบ ต้องขอบคุณพวกเขาเหล่านี้ล่วงหน้าที่เป็นตัวแทนคนไทยทุกคน