ไขข้อสงสัย “หนูนา” กินได้ไหม? เสี่ยงโรคหรือเปล่า?
ใครที่เคยนั่งรถไปต่างจังหวัด โดยเฉพาะเส้นที่จะไปจังหวัดแถบอีสาน หรือแถบสุพรรณบุรี อาจจะเคยเห็นร้านข้างทางที่ปักป้ายขาย หนูนา ตัวใหญ่ๆ กันมาบ้าง สารภาพตามตรงว่าไม่เคยแวะซื้อ (เคยซื้อแต่สายไหมอยุธยา) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าร้านเหล่านี้น่าจะมีฐานลูกค้าอยู่บ้าง
หนูนา อดีตเป็นหนูที่พบเห็นอยู่ตามท้องไร่ท้องนา ชาวบ้านจับมาปรุงอาหารทานเพราะไม่ต้องเสียเงินซื้อที่ไหน ก็ได้ทานเนื้อสัตว์อร่อยๆ แต่จริงๆ แล้วเราควรบริโภคหนูนาหรือไม่ มีอันตรายต่อร่างกายของเราหรือเปล่า Sanook! Health มีคำตอบค่ะ
หนู ทานได้หรือไม่?
ปกติแล้ว ขอยืนยันว่าเราสามารถทานหนูได้ แต่ควรปรุงให้สุกจริงๆ อย่าปรุงแบบสุกๆ ดิบๆ เพื่อฆ่าเชื้อโรคๆ ที่อาจมากับหนู แต่ส่วนใหญ่คนมักไม่นิยมทาน เพราะอาจนึกถึงต้นกำเนิด หรือการใช้ชีวิต อาหารการกินของหนูที่อาจไม่ค่อยถูกสุขลักษณะ จึงนิยมทานหนูนา ที่พบตามเรือกสวนไร่นานอกบ้านมากกว่า ซึ่งหากปรุงให้สุก ทำให้สะอาด ก็สามารถทานได้ตามปกติเช่นกัน
หนูนา ถูกจัดว่าเป็นหนูที่สะอาดกว่าหนูชนิดอื่นๆ เพราะทานพืช และอาศัยตามนาข้าว แต่หากเป็นหนูบ้าน หรือหนูท่อ จะมีความสกปรก เพราะทานอาหารสกปรก เน่าเสีย และมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากจะแนะนำให้บริโภคแล้ว ยังแนะนำให้กำจัด เพราะหนูชนิดนี้แพร่พันธุ์เร็ว และนำโรคหลายอย่าง
หนูนา เสี่ยงโรค?
แม้จะบอกว่าเราสามารถทานหนูได้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะปลอดภัย 100% เพราะหากปรุงไม่ดี ไม่สุก ไม่สะอาด อาจเสี่ยงติดเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงพยาธิที่อาจมากับหนูได้ เช่น โรคฉี่หนู โรคสครัปไทฟัส โรคมิวรีนไทฟัส พยาธิติดหนู พยาธิปอดหนู หรือพยาธิหอยโข่ง กาฬโรค และอื่นๆ
คนที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโรคต่างๆ จากหนู ไม่ได้มีแค่ผู้บริโภค แต่ยังรวมไปถึง ผู้ที่จับหนู โดนหนูกัด หรือฉี่รด ผู้ที่ชำแหละหนู และสัมผัสเลือด หรือฉี่ของหนูด้วย
ทานหนูอย่างไรให้ปลอดภัย?
หากชอบรับประทานหนูจริงๆ ก็แนะนำให้เลือกหนูนา เพราะสะอาดกว่าหนูชนิดอื่นๆ หรืออาจจะหนูที่มาจากฟาร์มเพาะเลี้ยงเพื่อการค้าโดยเฉพาะ เลือกทานเฉพาะส่วนเนื้อ หรือเนื้อที่ติดกระดูก ไม่ควรทานเครื่องใน เพราะเสี่ยงติดเชื้อโรค หรือพยาธิได้มากกว่าส่วนเนื้อ และที่สำคัญควรทำความสะอาด และปรุงให้สุก 100% ก่อนทานเสมอ จะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้
ประโยชน์ของหนูนา
จริงๆ แล้วประโยชน์ที่ได้จากหนูนาก็คือ โปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ตามปกติ ยังมีไม่รายงานวิจัยแน่ชัดว่ามีคุณค่าทางสารอาหารที่พิเศษ หรือมากไปกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ เช่น หมู ไก่ วัว หรือไม่ แต่ที่เป็นที่นิยมเพราะเป็นเนื้อสัตว์ที่ชาวบ้านสามารถหาทานกันเองได้โดยไม่ต้องหาซื้อ และรสชาติที่ไม่เหมือนเนื้อหมู หรือไก่ธรรมดา ให้ความรู้สึกเหมือนทานเนื้อกระต่าย หมูป่า ที่จะออกเหนียวนิดๆ ถูกใจผู้ที่ชอบทานอาหารสไตล์อาหารป่า ปรุงด้วยรสเผ็ดจัดจ้าน และสมุนไพรเยอะๆ เพื่อดับกลิ่นคาว
ที่สำคัญ นอกจากการปรุงสุก และรักษาความสะอาดแล้ว ไม่ควรทานบ่อยเกินไป ควรทานอาหารให้หลากหลาย เพื่อให้ได้คุณค่าทางสารอาหารครบ และช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค หรือพยาธิได้
