เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"เอิร์ก เลเดอเรอร์" แถลงปม "เก๋" ฆ่าตัวตาย เชื่อเจอแรงกดดัน จึงต้องแสร้งทำเป็นทะเลาะ

หลังจากที่ปล่อยให้ประชาชนแคลงใจมานาน เกี่ยวกับการตัดสินใจจบชีวิตของนางแบบสาวชื่อดัง วัย 30 ปี เก๋-กันยกร ศุภการค้าเจริญ หรือ เก๋ เลเดอเรอร์ ในทำนองว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับน้องชายคนสนิทและอดีตเพื่อนซี้อย่าง เอิร์ก เลเดอเรอร์ หรือเปล่า

เนื่องตลอดเวลากว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือเกี่ยวกับเงินจำนวนกว่า 14 ล้านบาท, ความสนิทระหว่างเจ้ตัวและคู่หมั้นของนางแบบสาว ไปจนถึงกรณีที่นางแบบสาวตัดสินใจสักรูปลูกศรสีดำ ทับรอยสักเลเดอเรอร์ ที่เปรียบเสมือนนามสกุลของทั้งคู่ คล้ายจะเป็นการปิดฉากความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 10 ปี

นอกจากนั้นแล้วในโลกโซเชียลก็ยังตั้งคำถามต่อว่า เพราะอะไร เอิร์ก เลเดอเรอร์ ถึงได้เดินทางไปร่วมพิธีศพของคนที่บอกว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงแค่วันรดน้ำศพ และวันฌาปนกิจเท่านั้น ส่วนในวันอื่นๆ ที่มีการตั้งศพและสวดอภิธรรมกลับไร้เงาเจ้าตัวมาร่วมไว้อาลัย

กระทั่งล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (17 กันยายน) เอิร์ก เลเดอเรอร์ หรือ เอิร์ก องอาจ ก็ได้จัดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อ ณ อาคารข่าว มาลีนนท์ เพื่อชี้แจงรายละเอียดความเข้าใจผิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตนและ เก๋ เลเดอเรอร์ พร้อมทั้งงัดหลักฐานเด็ดที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญสำหรับเรื่องนี้เลยก็ว่าได้

"จากประเด็นทั้งหมดที่เอิร์กต้องเจออยู่ในตอนนี้ ค่อนข้างที่จะทำให้เอิร์ก ครอบครัว และธุรกิจเสียหายมาก ซึ่งข่าวต่างๆ ที่ทุกคนได้รับรู้มาไม่เป็นความจริงทั้งหมดเลย และในวันนี้เอิร์กก็ไม่ได้จะออกมาแก้ตัว เพราะเอิร์กมีหลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้"

"เอิร์กกับเก๋เรารักกันมาก เอิร์กเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เก๋ทำ เก๋มีเหตุผลของเขา และเหตุผลที่เขาทำก็เพราะเขารักเอิร์กเหมือนกัน เราอยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปี"

"ถามว่าทำไมเอิร์กถึงไม่ไปงานศพ จริงๆ วันแรกที่เก๋อยู่โรงพยาบาลเอิร์กไปนะครับ วันรดน้ำศพเอิร์กก็ไป แต่หลังจากนั้นเอิร์กไม่ได้ไปเพราะเอิร์กโดนขู่ ซึ่งเอิร์กจะไม่ขอพาดพิงว่าเขาเป็นใคร เนื่องจากมันจะทำให้เขาเสียหาย"

"ประเด็นต่อมาก็คือเอิร์กไม่เคยทะเลาะกับเก๋ เรารักกันจนถึงวินาทีสุดท้าย และที่มีข่าวว่า เก๋ไม่ได้คบกับเอิร์กตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงนะครับ เพราะเอิร์กกับเก๋เราแชทหากันเกือบทุกวัน ซึ่งเอิร์กก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เก๋มีเหตุผลอะไรถึงต้องพูดว่าเราเลิกคบกันแล้ว (แจกเอกสารแชทระหว่าง เอิร์ก - เก๋)"

"ส่วนประเด็นเรื่องบ้านของเก๋ที่ทาวน์โฮมย่านกรุงเทพกรีฑา ที่มีการบอกว่าเอิร์กเอาไปขายและเอาเงินไปใช้ส่วนตัว คือเอิร์กต้องบอกก่อนนะครับว่า บ้านหลังนี้คือบ้านของเอิร์ก บ้านหลังแรกที่เอิร์กสร้างด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง และเก๋ก็เป็นคนที่มาอยู่กับเอิร์ก โดยที่วันที่เก๋มาอยู่นั้น เก๋ไม่ได้เอาอะไรมาเลยนอกจากเสื้อผ้า ซึ่งเรื่องนี้เก๋ก็เคยบอกกับหลายๆ สื่อแล้วเหมือนกันว่าตอนที่เก๋เข้ามา เก๋มาเพียงกับราวตากผ้าและตระกร้าผ้าใบเดียว"

ชี้แจงปมเงิน 14 ล้านบาท ?

"เงิน 14 ล้านบาท ก่อนนี้จริงๆ แล้วเป็นเงินที่มาจากการที่เอิร์กและเก๋ทำธุรกิจความงามร่วมกัน ซึ่งในตอนแรกทั้ง 2 สาขา มีชื่อว่า เลเดอเรอร์ คลินิก ไทยแลนด์ แต่คราวนี้มันมีเหตุผลหลายๆ อย่างที่เก๋บอกเอิร์กว่า 'หุ้นส่วนอยากแยก เพราะเอิร์กเหนื่อยมามากพอแล้ว เจ๊ต้องการที่จะให้บ้าน ซึ่งเป็นบ้านใหม่ของเจ๊เข้ามาช่วยดูแลคลินิกแทน เพื่อที่เอิร์กจะได้ไม่เหนื่อย คือมันเป็นความหวังดีของเก๋ครับ"

"จากนั้นเอิร์กก็โดนถอดหุ้นใหญ่ออกมาทั้งหมด จากที่ตอนแรกเอิร์กเป็น CEO ทั้ง 2 สาขา ซึ่งเอิร์กก็เหลือแค่สาขาบางนางที่เดียว โดยระหว่างนั้นเอิร์กก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่า เก๋รัก เก๋ไม่อยากให้เราเหนื่อย เพราะพอเขาบอกให้เราออก เราก็ออกทันทีโดยที่ไม่ได้สงสัยอะไร"

"ภายหลังจากนั้นไม่นานก็มีหุ้นส่วนทางรามอินทรา แจ้งมาว่าเราต้องแยกโลโก้ แยกพรีเซนเตอร์ คือให้เอิร์กแยกตัวไปทำธุรกิจเองเลย โดยที่ไม่ต้องมาทำกับเขาอีก ซึ่งเอิร์กก็ถามเขากลับไปว่า 'เก๋รู้เรื่องไหม?' เนื่องจากเก๋ยังทำงานให้เอิร์กอยู่ในฐานะลูกน้องช่วยบริหาร ซึ่งเอิร์กต้องบอกก่อนว่าสาเหตุเก๋ไม่ได้ถือหุ้นเพราะเก๋มีเขามีคดี กรต. เมื่อ 2 ปีก่อน ดังนั้นมันอาจจะกระทบกับหุ้นส่วนคนอื่นได้ เราก็เลยปกป้องเก๋ โดยการให้เขาเป็นลูกน้องแทน แต่สุดท้ายพอหุ้นส่วนเขาบอกว่า ให้แยกเถอะ เอิร์กก็เลยแยกตามคำที่เขาบอก และมันก็เริ่มเขาสู่เรื่องของเงิน 14 ล้าน"

"พอเราแยกกันปุ๊บ คนที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนใหม่แทนเอิร์กก็คือครอบครัวเก๋ แต่ไม่ใช่ครอบครัวแท้ๆ นะครับ เขาก็ติดต่อเอิร์กมาและบอกว่า เงินที่รามอินทราหายไป 14 ล้านบาท และเธอต้องรับผิดชอบกัน ตอนนั้นเอิร์กก็เลยตอบเขากลับว่า เอิร์กไม่ผิดนะ เพราะตอนนี้ทั้ง 2 สาขาแยกกันแล้ว และคุณเป็นคนจับแยก ซึ่งโอเคเราอาจจะผิดตรงที่เอกสารเราไม่แน่น ไม่ได้มีการระบุว่าเรานำเงินมาใช้ร่วมกันกับอีกสาขาหนึ่ง เพราะเรื่องนี้เก๋ก็พิมพ์แชทมาหาเอิร์กเหมือนกันบอกว่า เจ๊เก๋พลาดเอง แต่ด้วยความที่เจตนาเราไม่ได้จะโกงใคร เพราะเราแค่อยากให้ทั้ง 2 สาขาสร้างเสร็จทั้งคู่ ซึ่ง ณ ตอนนี้มันก็เสร็จแล้ว เปิดทำการแล้วทั้ง 2 สาขา"

"จากนั้นในเมื่อเราสองคนเป็นหนี้ 14 ล้าน เอิร์กก็เลยบอกกับครอบครัวใหม่ของเก๋ว่า เอิร์กจะเซ็นเป็นหนี้แทนเก๋เอง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วเราต้องใช้หนี้ก้อนนี้ร่วมกัน เพราะเก๋เป็นคนเซ็นรับเงินกับหุ้นส่วนทั้งหมด จากนั้นเขาบอกเอิร์กอีกว่า เขาตรวจสอบบัญชีเก๋แล้ว ปรากฏว่ามีเงินในบัญชีเก๋โอนมาหาเอิร์ก 14 ล้าน และไม่ได้มีการตีกลับ ซึ่งเอิร์กก็ตอบกลับเขาไปว่า ใช่ครับ ถูกต้อง ซึ่งเอิร์กก็ไม่รู้ว่า 14 ล้านจริงหรือเปล่า แต่เอิร์กเชื่อใจพี่ เพราะเก๋มาอยู่กับพวกพี่แล้ว เอิร์กเชื่อใจ เอิร์กจะไม่เช็ก ในเมื่อพี่บอกว่าเงินมาหาเอิร์ก 14 ล้าน เอิร์กก็จะขอเซ็นเพื่อเป็นหนี้แทนเอิร์กกับเก๋ก็แล้วกัน จากนั้นเขาก็ทำเอกสารออกมาเป็น 3 งวด งวดแรกเดือนที่แล้ว 3 ล้านบาท, งวดที่สองก็คือเดือนนี้ 8 ล้านบาท แต่กำหนดจ่ายคือสิ้นเดือน ซึ่งยังไม่ถึง และเดือนหน้าอีก 3 ล้านบาท รวมเป็น 14 ล้านบาทพอดี"

"คือเอิร์กอยากให้ทุกอย่างมันง่าย เอิร์กไม่อยากให้ใครทะเลาะกัน เพราะทุกคนก็ทราบตามข่าวแล้วว่าเก๋เป็นคู่หมั้นบ้านเขาแล้ว เอิร์กก็เลยไม่อยากให้เก๋ทะเลาะกับที่นั่น โดยการทำให้เก๋มีความสุขที่สุด ด้วยการใช้หนี้แทนเราทั้งสองคน"

ตอนที่ระดมทุนเราระดมทุนในนามเลเดอเรอร์ใช่ไหม ?

"จริงๆ แล้วการที่เราได้เงินมา มันมาจากการที่คนชื่นชมในตัวเรา และเป็นคนรู้จักเสียส่วนใหญ่ที่มาลงทุนด้วยกัน อีกทั้งเราเองก็ไม่เคยมีปัญหากับพวกเขาเลย เราไม่เคยมีชื่อเสีย ไม่เคยโกงใครเลยในชีวิตนี้ สามารถเช็กประวัติได้"

ตอนที่ระดมทุนเรามีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วยไหม ?

"โปรเจคพวกนี้เอิร์กกับเก๋เราคิดร่วมกัน แต่คนที่เซ็นเอกสารเป็นเก๋คนเดียวทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เพราะเอิร์กสั่งให้เก๋เซ็นนะครับ แต่เก๋เขาเป็นคนที่แบบว่า เดี๋ยวเจ๊ทำให้ คือเรารักกันจริงๆ มันไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่ซับซ้อนไปกว่านี้"

แสดงว่าในนิตินัยเก๋คือคนเซ็น แต่ด้านพฤตินัยเราก็รับทราบและยินยอม ?

"คือเอกสารทั้งหมดเก๋เป็นคนเซ็นทั้งหมด เงินโอนเข้าบัญชีเก๋ทั้งหมด แต่ที่ผ่านมาเอิร์กกับเก๋เราคิดมาด้วยกัน ดังนั้นถ้าหากคุณจะมองว่า เก๋เป็นให้เอิร์กทุกอย่าง เก๋ต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง เอิร์กก็อยากจะถามเหมือนกันว่า ถ้าหากเป็นแบบนั้น เอิร์กจะมาเซ็นเป็นหนี้แทนเก๋เพื่ออะไร 14 ล้านบาท ทำไมเอิร์กไม่ให้เก๋เซ็น (แจกเอกสารสัญญาหนี้ 14 ล้านบาท) หลักฐานมีทุกอย่าง เอิร์กโกหกไม่ได้"

ตอนที่เซ็นรับสภาพหนี้ เอิร์กเป็นลูกหนี้ และใครเป็นเจ้าหนี้ ?

"คนที่เป็นเจ้าหนี้ก็คือ ฝั่งครอบครัวแฟนเก๋ครับ"

เรื่องสถานะสมมติที่เก๋ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกกดดัน สถานะสมมติที่ว่านี้ คืออะไร ?

"เขาบอกว่าทุกอย่างคือเรื่องสมมติใช่ไหมครับ ไม่เป็นไร เอิร์กเสียใจนะครับ แต่ไม่เป็นไร เขาจะคิดยังไงหรือรู้สึกยังไงก็ช่างเขา เพราะสำหรับเอิร์กทุกอย่างคือเรื่องจริง เอิร์กรักเก๋จริงๆ สำหรับเอิร์กทุกอย่างไม่ใช่เรื่องสมมติ เก๋บอกว่าเราเลิกคบกันไปแล้ว แต่แชทที่เอิร์กเอามาให้ดูวันนี้คืออะไร มันคือเรื่องจริงที่เราไม่ได้ทะเลาะกันไงครับ หลักฐานทุกอย่างมีหมด"

แฟนเก๋คือคนสนิทของเราจริงไหม ?

"ไม่จริง เอิร์กไม่เคยรู้จักพี่พอลมาก่อนหน้าเก๋ ไม่เคยแนะนำให้พี่พอลกับเก๋รู้จักกัน เอิร์กไม่เคยติดต่อกับพี่เขาเป็นการส่วนตัวนอกจากรถเสีย เพราะเวลารถเสียพี่พอลจะเป็นคนดูแลเรื่องรถให้ ซึ่งการดูแลรถเราก็ไม่เคยเจอตัวกัน เราแค่ฝากกุญแจไว้ใต้คอนโด หรือไม่ก็ให้เก๋เอาไปให้พี่พอลจัดการก็เท่านั้นเอง เอิร์กเคยเจอกับพี่พอลแค่ 2-3 ครั้งเองครับ ในงานหมั้น และวันเซ็นเอกสาร"

"ส่วนเรื่องสินสอดถามว่าเอิร์กเอาไปจริงไหม คือเอิร์กไม่สามารถเอาเงินสินสอดใครไปได้นะครับ เพราะไม่มีใครยอมแน่นอน แต่ด้วยความที่เอิร์กกับเก๋เราใช้กระเป๋าเดียวกัน บัญชีเดียวกัน เก๋ถือบัญชีทุกเล่มของเอิร์กก่อนที่เก๋จะแยกไปทำที่สาขารามอินทรา ดังนั้นเงินมันจึงอยู่ในบัญชีนั้น และเราก็ใช้ร่วมกัน ไม่ใช่เอิร์กเอาเงินล้านหนึ่งไปใช้คนเดียว สมมติง่ายๆ นะ ถ้าเอิร์กมีเงิน 3 ล้าน มันก็แค่มีเงินเพิ่มขึ้นมาอีกในบัญชีล้านเดียวก็เท่านั้นเอง"

เราทราบเหตุผลที่พอลเขาไม่มาวันเผาไหม ?

"เอิร์กก็แปลกใจเหมือนกันครับ เพราะเขาไม่มาเลยจากวันที่ 2 ซึ่งประชาชนก็น่าจะคิดหลายๆ มุมนะครับ แต่ตอนนี้เอิร์กโดนคนเดียว ก็ไม่เป็นไร"

เรื่องฉากกั้นในงานศพ เราทราบไหมว่ากั้นเพราะอะไร ?

"ตอนแรกทุกคนโทษเอิร์กถูกไหมครับ บอกว่าเอิร์กเอาฉากมากั้น แต่สุดท้ายน้องชายแท้ๆ ของเก๋ก็ออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่ใช่เอิร์กเป็นสั่งให้เอามากั้น เอิร์กก็เลยหลุด"

เราได้คุยกับครอบครัวแท้ๆ ของเก๋บ้างไหม ?

"เอิร์กกับน้องชายเก๋เราคุยกันตลอด ในวันเผาเราก็คุยกัน เราดีต่อกัน ไม่มีปัญหาอะไรกันเลย รวมถึงเอิร์กบอกกับแม่เก๋ด้วยว่า เอิร์กไม่ผิด เอิร์กไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะเรื่องม้นซับซ้อนมากจนเอิร์กงง เก๋บอกว่าเก๋ทะเลาะกับเอิร์ก แต่เอิร์กก็ยังเข้าข้างตัวเองว่าเก๋รักเอิร์ก เก๋จึงต้องทำเป็นทะเลาะเพราะว่าเก๋อาจจะโดนบังคับ เนื่องจากก่อนหน้านี้เก๋เคยบอกกับเอิร์กว่า เราต้องทำเป็นเหมือนทะเลาะกันนะ เพราะทางนั้นเขาไม่อยากให้เรามาอยู่ด้วยกันแล้ว เราต้องแยกกัน เพื่อที่ทางนั้นจะได้มาซัพพอร์ตเก๋ในเรื่องคลินิกที่รามอินทรา"


แสดงว่าครอบครัวแฟนเก๋มีเหตุผลหลายๆ อย่างที่เป็นเบื้องหลังของปัญหานี้ ?

"เอิร์กไม่อยากพูดแบบนั้น เพราะมันอาจจะฟังดูเป็นการใส่ร้ายเขา ขอให้ทุกคนคิดเอาเองดีกว่า"

เก๋เคยเล่าให้ฟังไหมว่าเขาเคยเจอแรงกดดันอะไรจากครอบครัวฝั่งคู่หมั้นเขาบ้าง ?

"ตลอดเวลาครับ"

เป็นไปได้ไหมว่าครอบครัวฝั่งคู่หมั้น เขาอาจจะไม่ชอบเรา เก๋เลยต้องมาบอกเราว่าต้องทำเป็นทะเลาะ ?

"เอิร์กไม่รู้ว่าเรื่องนี้เก๋คิดหรือครอบครัวนั้นคิด เพราะเอิร์กไม่รู้ความจริง เอิร์กรู้แค่ว่าเก๋มาบอกกับเอิร์กแบบนี้ ซึ่งลำดับเหตุการณ์ของเรื่องนี้คือ 1.เก๋มาบอกเอิร์กว่าเราต้องทะเลาะกัน 2.หลังจากนั้นประมาณ 1-2 เดือน หุ้นส่วนก็โทรมาบอกว่าเราต้องแยกกันนะเพราะเก๋เสียชื่อเสียงเยอะแล้ว ซึ่งเอิร์กก็ถามเขาว่า เก๋รู้เรื่องนี้ไหม เขาตอบว่า เก๋ไม่รู้เรื่อง คือเขาพยายามพูดดีๆ ให้เราแยก ดังนั้นในเมื่อเขาขอมา เอิร์กก็ไม่รั้งเพราะเขาไม่อยากอยู่กับเราแล้ว เอิร์กก็เลยแยก"

เอิร์กได้มีโอกาสเจอกับเก๋ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ในวันที่เก๋ยังมีชีวิต ?

"ช่วงหลังๆ เราไม่ค่อยได้เจอกันครับ เพราะเรายุ่งทั้งคู่ และก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว แต่เก๋มาหาเอิร์กตลอด มาหาเอิร์กเรื่อยๆ และเมื่อ 2 สัปดาห์ ก่อนที่เก๋จะตายเก๋ก็ยังมาหาเอิร์กที่คลินิกบางนา สามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดได้"

ข้อความแชทที่บอกว่าคนใกล้ชิดนำชื่อเก๋ไปหลอกลวงบุคคลอื่น และคนคิดว่าเป็นเรา ?

"เอิร์กคิดว่าเก๋จำเป็นที่จะต้องทำ เพราะก่อนหน้านั้นเก๋เคยบอกกับเอิร์กไงครับว่าเราต้องทะเลาะกัน ซึ่งเอิร์กก็ไม่รู้อีกว่า ณ วันนี้เขาโดนกดดันว่าเราต้องทะเลาะกันออกสื่อจริงๆ หรือเปล่า ที่เอิร์กคิดแบบนี้เพราะเอิร์กยังรักเก๋ และคิดว่าเก๋เองก็ยังรักเอิร์ก เพียงแต่เก๋มีเหตุให้จำเป็นต้องทำ ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากทำ และการที่ฆ่าตัวตายอาจจะเป็นเพราะเก๋รู้สึกผิดกับเอิร์กหรือเปล่า อันนี้เอิร์กเดานะครับ เพราะเรารักกันมาก เอิร์กกับเก๋เราไม่มีทางเกลียดกันเลยในชีวิตนี้ และสุดท้ายอย่างที่ทุกคนเห็น เอิร์กก็ยังเซ็นรับหนี้คนเดียว 14 ล้าน แทนเก๋ ทั้งๆ ที่เราต้องใช้หนี้ร่วมกัน"

ปกติเก๋เคยมีอาการเครียดบ้างไหม ?

"เคยเป็นครับ เป็นถึงขั้นเดินลงจากรถขณะที่รถติดไฟแดง และก็เดินกลับเข้ามาใหม่ ซึ่งเมื่อก่อนเขาก็เคยเป็น แต่ไม่ได้หนักขนาดนี้ อย่างเช่นสมัยมหาวิทยาลัย เก๋ทะเลาะกับที่บ้าน เก๋ก็ตัดผมเลย ตัดสั้นมากและย้อมสีแดง จากนั้นพอทะเลาะกับที่บ้านอีก เขาก็เก็บเสื้อผ้าออกมาอยู่กับเอิร์กเลย คือเขาเป็นคนเด็ดเดี่ยวมากๆ และก็เปลี่ยนนามสกุล"

คนอาจจะมองได้ว่าคนตายแล้วไม่มีสิทธิ์พูด ?

"เอิร์กไม่ได้แค่พูดครับ เอิร์กมีหลักฐาน และก็อยากให้ทุกคนช่วยขุดหลักฐานอื่นๆ ให้เอิร์กด้วย เพราะเอิร์กบริสุทธิ์ใจจริงๆ"

ทำไมเราถึงต้องเป็นหนี้เงิน 14 ล้าน ให้กับครอบครัวของพอล ทั้งๆ ที่เงินนั้น เป็นเงินสำหรับการทำธุรกิจ ?

"เอิร์กก็เพิ่งมารู้ทีหลังครับว่าทำไมเอิร์กถึงเซ็น ซึ่งคนอาจจะบอกว่าเอิร์กโง่ แต่จริงๆ ที่เอิร์กเซ็นเป็นเพราะว่าเอิร์กรักเก๋ และหุ้นหลักของที่นั่นก็คือครอบครัวแฟนเก๋ ซึ่งเก๋รักครอบครัวนั้นมาก เก๋รักแฟนมาก ดังนั้นในเมื่อเก๋มีปัญหา เอิร์กก็จะเซ็น เพราะเก๋บอกว่า ฉันจะตายแล้ว ฉันมองหน้าครอบครัวนี้ไม่ติดแล้ว นั่นจึงทำให้เอิร์กตัดสินใจเซ็นโดยที่ไม่ดูให้ดีก่อนว่ามันเป็นการเซ็นหนี้แบบรายบุคคล ไม่ใช่หนี้บริษัท"

จดหมายลาตายเราทราบไหมว่ามี ?

"ทราบครับ ทราบก่อนคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ ณ วันนี้มันยังไม่หลุดออกมา จดหมายมันมีอยู่จริง และเอิร์กก็ไม่รู้อีกว่าเขาโดนบังคับให้เขียนหรือเปล่า หรือเขามีเหตุจำเป็นให้สร้างสตอรี่ไหมเพื่อที่คนจะได้คิดว่าเราทะเลาะกันจริงๆ เพราะเอาตรงๆ เอิร์กคิดนะว่าเก๋ไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย แถมในข่าวก็ยังมีออกมาให้เห็นด้วยว่า เก๋พูดว่าไม่อยากตายแล้ว ซึ่งเอิร์กไม่รู้นะว่าเก๋พูดกับใคร เอิร์กแค่เห็นตามข่าว"

เราได้อ่านจดหมายไหม ?

"อ่านครับ แต่เอิร์กไม่ขอเปิดเผยข้อมูลนะครับเพราะเอิร์กไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่า หรือถ้ามันจริงเอิร์กก็เสียหายไปหมดแล้ว แถมในจดหมายไม่ได้เสียหายเท่าในข่าวด้วยซ้ำ เพราะจดหมายเขียนแค่ว่า 'เจ๊จะไม่โทษเอิร์กคนเดียวนะที่มันเป็นแบบนี้' เอ่อ...ขอไม่พูดดีกว่าครับ"

ตอนนี้จดหมายอยู่กับใคร ?

"ไม่ทราบครับ พอดีเอิร์กได้เป็นภาพถ่าย แต่ลายมือที่เขียนเป็นลายมือเก๋"

เห็นว่าโน้ตบุ๊กของเก๋ก็หายไปด้วย ?

"เอิร์กไม่ทราบนะครับเพราะเอิร์กไม่สามารถเข้าที่นั่นได้ เราแยกจากกันมาสักพักแล้ว คุณสามารถเปิดกล้องวงจรปิดดูได้เลย"

เป็นไปได้ไหมว่าของอยู่กับพอล ?

"เอิร์กไม่รู้จริงๆ ครับ"

อยากช่วยตามให้เพื่อนไหม ?

"อยากครับ อยากมาก อยากตามทุกอย่าง และก็อยากให้ทุกคนช่วยขุดให้เอิร์กด้วย"

เราคิดว่าเก๋ฆ่าตัวตายเองหรือเปล่า ?

"คนอื่นไม่น่าจะมีส่วนฆ่าเขาอยู่แล้วครับเพราะกล้องวงจรปิดก็ฟ้องแบบนั้น แต่เหตุผลว่าใครเป็นคนฆ่านั้น เอิร์กไม่รู้จริงๆ"

ตำรวจเรียกเอิร์กหรือยัง ?

"อยากครับ อยากให้เรียกมาก เพราะเอิร์กจะได้ปลอดภัย"

เห็นว่าเราถูกขู่ทำร้าย พอจะบอกได้ไหมว่าจากใคร ?

"จากคนที่เอิร์กต้องใช้หนี้ครับ แต่จะให้เอิร์กใช้ได้ยังไงในเมื่อมันไม่ถึงเวลาที่กำหนดคือสิ้นเดือน แถม 3 ล้านบาทงวดแรก เอิร์กก็จ่ายไปแล้วด้วย"

เรื่องคดีของเก๋จากนี้จะทำยังไงต่อไป ?

"ให้ตำรวจจัดการทั้งหมดครับ รวมถึงตำรวจสามารถเรียกเอิร์กไปให้ปากคำ และขุดคุ้ยเอกสารทั้งหมดของเอิร์กได้เลย เอิร์กบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องหนี้ 14 ล้านบาท ที่เอิร์กจะต้องชดใช้แทนเก๋ จากนี้ไปเอิร์กจะให้ทนายเป็นคนติดต่อ คือเราจะไม่มาคุยกันง่ายๆ อีกแล้ว"

เราอยากให้ครอบครัวแฟนเก๋ออกมาชี้แจงอะไรไหม ?

"เป็นสิทธิ์ของเขาเลยครับ แต่สิ่งที่เอิร์กพูดในวันนี้มีแต่ความจริง ถามว่ากลัวเรื่องไม่จบไหม คือจบไม่จบไม่เป็นไรครับ เอิร์กไปต่อได้เรื่อยๆ ถ้าอยากไป"

กังวลไหมว่าจะกระทบกับธุรกิจ ?

"ไม่เลยครับ เพราะตั้งแต่มีข่าวลูกค้าเราก็เยอะขึ้น เอิร์กไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แถมยังมีนักลงทุนติดต่อเข้ามาหาเอิร์กเต็มเลย เนื่องจากที่ผ่านมาเอิร์กไม่เคยมีประวัติเสีย"

หุ้นส่วนทางรามอินทราได้มีการคุยกับเราบ้างไหมว่าทำไมเราใช้หนี้ให้แค่รายบุคคล แต่ไม่ใช่หุ้นส่วนทั้งหมด ?

"เพราะตอนแรกเอิร์กไม่รู้ไงครับ เอิร์กใช้หนี้คนผิด เอิร์กคิดว่าหุ้นส่วนกับเขารู้กัน เอิร์กคิดว่าเขาไม่รักเราแล้ว เพราะเก๋บอกตลอดเวลาว่า หุ้นส่วนที่นั่นอยากแยกกับเธอ ดังนั้นเอิร์กจะสงสัยอะไร อีกอย่างคนที่เอิร์กเซ็นด้วยก็คือชื่อของ CEO เอิร์กก็เลยไม่ได้สงสัย คือไม่ฉลาดพอนั่นแหละ วันนั้นเอิร์กน่าจะเอาเอกสารให้ทนายดูก่อน เอิร์กพลาดเอง แต่พลาดเพราะเอิร์กรักเก๋"

อยากทราบว่าเงิน 14 ล้านบาท เราเอาไปทำอะไรบ้าง ?

"เอิร์กและเก๋เรานำไปทำธุรกิจที่บางนาครับ เพราะตอนแรกคลินิกทั้ง 2 แห่งนี้ ใช้ชื่อเดียวกัน จนกระทั่งมีการจับแยก และพอจับแยกเขาก็มาขอเงินตรงนี้คืน โดยให้เหตุผลว่า 'เงินไม่ได้ระบุว่าต้องใช้ร่วมกัน' ซึ่งเรื่องนี้เอิร์กกับเก๋พลาดจริงๆ ที่ไม่ได้เขียนเอาไว้ใช้ร่วมกัน แต่เอิร์กก็รับผิดโดยรับสภาพใช้หนี้แทนแล้ว"

สาขารามอินทราจดทะเบียนไว้เท่าไหร่ ?

"น่าจะล้านเดียวมั้งครับผม"

แสดงว่าเงินที่ลงทุนมากหนึ่งล้าน ที่ได้จดทะเบียนไป ?

"ไม่แน่ใจ หรือว่าหลายล้านเอิร์กก็ไม่รู้ คือเอิร์กเดาเฉยๆ เพราะว่าเดาเฉยๆ เนื่องจากคลินิกเก่าที่เป็น เลเดอเรอร์ ไทยแลนด์ มันแค่ล้านเดียว"

มันจะแปลกไหมที่เงินลงทุนมากกว่าเงินที่จดทะเบียน ?

"หรือเขาอาจจะลงมากกว่านั้นก็ได้ครับ เอิร์กก็ไม่รู้ เพราะเอิร์กไม่เคยเห็นเอกสารอีกเลย เอิร์กแค่เคยเห็นเก๋พูดเฉยๆ ว่าล้านเดียว แค่แว่วๆ เฉยๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ครับ ไม่อยากฟันธง"

สาขาบางนาจดทะเบียนเท่าไหร่ ?

"5 ล้านบาทครับ เอิร์กเป็นเจ้าของและเอิร์กเป็นคนจดเอง เอิร์กเอาเงินเข้าบัญชี 5 ล้านจริง"

ตอนที่เก๋บอกว่าอยากตาย เราคิดว่าเขาอยากตายจริงๆ ไหม ?

"เอิร์กเพิ่งรู้ว่าเก๋พยายามฆ่าตัวตายมาแล้วถึง 3 ครั้ง ตั้งแต่แยกจากเอิร์กไป และก็ไปอยู่กับครอบครัวนั้น"

ตอนที่เข้าไปกอดแม่เก๋วันเผาเราได้บอกอะไรแม่อีกบ้าง นอกจากว่าเราไม่ผิด ?

"ก็บอกว่า เอิร์กจะดูแลกับน้องและพ่อเองต่อจากนี้โดยการส่งเสีย"

รู้สึกยังไงบ้างที่คนมองไปแล้วว่าเราคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ?

"อยากให้ทุกคนตั้งใจฟังสิ่งที่เอิร์กพูด และตัดสินใจดูว่ามันเป็นยังไง เพราะทั้งชีวิตนี้เอิร์กไม่มีทางทำร้ายเก๋แน่นอน เอิร์กรักเก๋"

เราบอกอะไรกับเก๋ตอนที่ไปยืนข้างโลงวันเผาศพ ?

"บอกเขาว่าต่อจากนี้ไปไม่ต้องห่วงแล้วนะ ฉันจะดูแลที่บ้านเธอเอง"

“แตงโม” รู้ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แค่อยากให้เข้าใจ “เก๋ เลเดอเรอร์” จากคนที่เคยคิดสั้นเหมือนกัน

“แตงโม” รู้ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แค่อยากให้เข้าใจ “เก๋ เลเดอเรอร์” จากคนที่เคยคิดสั้นเหมือนกัน

แตงโม นิดา ยอมรับโพสต์เตือนสติ เอิร์ก เลเดอเรอร์ ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง แต่แค่อยากให้เข้าใจ เก๋ เลเดอเรอร์ จากคนที่เคยคิดสั้นเหมือนกัน

\

"ลูกหมี รัศมี" ยังไว้ใจ "เอิร์ก เลเดอเรอร์" ออกปากชม เป็นคนขยัน ตั้งใจทำงาน

ลูกหมี รัศมี เผยรู้จัก เอิร์ก เลเดอเรอร์ และเพิ่งเริ่มหุ้นทำธุรกิจความงามร่วมกัน เห็นอีกฝ่ายเป็นคนขยัน ตั้งใจทำงาน

\

"โก้ ธีรศักดิ์" เผยหมดเปลือก "เก๋ เลเดอเรอร์" ก่อนฆ่าตัวตาย แตกหักอดีตเพื่อนสนิท

"โก้ ธีรศักดิ์" แฉปม "เก๋ ลาพรีม" โดดตึกฆ่าตัวตาย เผยแตกหัก "เอิร์ก เลเดอเรอร์" เพื่อนสนิทเพราะธุรกิจ ถึงขั้นลบรอยสักสัญลักษณ์ประจำตัว