เนื้อหาในหมวด ข่าว

“การเหยียดสีผิว” ปัญหาที่ซ่อนอยู่ในชื่อสถานที่ต่าง ๆ ของสหรัฐฯ

“การเหยียดสีผิว” ปัญหาที่ซ่อนอยู่ในชื่อสถานที่ต่าง ๆ ของสหรัฐฯ

กรณีของ “จอร์จ ฟลอยด์” ชายผิวดำที่เสียชีวิตจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมินนิอาโปลิส สหรัฐอเมริกา จุดประกายการประท้วงต่อต้านความไม่เท่าเทียมอันเนื่องมาจากความแตกต่างเรื่องสีผิวและเชื้อชาติในสหรัฐฯ ผู้ชุมนุมประท้วงต่างเรียกร้องให้ทางการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน ถนน และสถานที่อีกหลายแห่ง ซึ่งตั้งชื่อตามบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างความไม่เท่าเทียมในสังคม หลังจากที่มีการเรียกร้องให้รื้อถอนอนุสาวรีย์และรูปปั้นของบุคคลในประวัติศาสตร์เหล่านี้ออกไป

ทั่วโลกพร้อมใจรื้อถอนหลักฐานสนับสนุน “การค้าทาสผิวดำ” จากกรณี "จอร์จ ฟลอยด์"

หลายพันเมืองในสหรัฐฯ ล้วนมีอนุสาวรีย์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การค้าทาส โดยเฉพาะทางตอนใต้ของประเทศ เช่น อนุสาวรีย์ Robert E. Lee และ Stonewall Jackson ซึ่งเป็นผู้นำกองทัพฝ่ายใต้ที่สนับสนุนการค้าทาส ในช่วงสงครามกลางเมือง ปี 1861 – 1865 ซึ่งการโต้เถียงเรื่องรูปปั้นสมาพันธรัฐอเมริกา ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงเมื่อ 3 ปีก่อน เมื่อกลุ่มผู้นิยมลัทธิชาตินิยมผิวขาวและนีโอนาซีมารวมตัวกันในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ ในรัฐเวอร์จิเนีย เพื่อประท้วงการรื้อถอนรูปปั้นสมาพันธรัฐ 2 แห่ง แต่กลุ่มคนที่ต้องการรื้อถอน ชี้แจงว่า รูปปั้นเหล่านี้เป็นตัวแทนของระบบการเหยียดสีผิว และลัทธิคนผิวขาวที่มีความสูงส่งกว่าคนผิวสีอื่น ๆ ขณะที่กลุ่มต่อต้านกล่าวว่า รูปปั้นเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมตอนใต้ และกังวลเรื่องการลบประวัติศาสตร์ นอกจากอนุสาวรีย์แล้ว ชื่ออาคาร ถนน และสถานที่ต่าง ๆ ก็ใช้ชื่อวีรบุรุษของรัฐทางตอนใต้เช่นกัน แม้หลายสถานที่จะมีประชากรส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำก็ตาม

“การบังคับให้ลูก ๆ ไปโรงเรียนที่ตั้งชื่อตามคนที่ต่อสู้เพื่อลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของพวกเขา เป็นสิ่งที่ผิด ตอนนี้คนเริ่มเข้าใจแล้วว่าการเหยียดสีผิวอย่างเป็นระบบและอภิสิทธิ์ของคนขาวเป็นอย่างไร พวกเขากำลังเริ่มเห็นความเชื่อมโยง” Lecia Brooks โฆษกประจำศูนย์กฎหมายประชาสงเคราะห์ทางตอนใต้ (Southern Poverty Law Center หรือ SPLC) กล่าว

SPLC รวบรวมสัญลักษณ์ของสมาพันธรัฐได้มากกว่า 1,800 สัญลักษณ์ในรายงานปี 2019 ซึ่งรวมถึงชื่อโรงเรียนมากกว่า 103 โรง ชื่อเมืองต่าง ๆ มากกว่า 80 เมือง และวันหยุดของ 9 รัฐ ซึ่งในหลายพื้นที่ได้รื้อถอนรูปปั้นหรือเปลี่ยนชื่อสถานที่ต่าง ๆ ไปบ้างแล้ว เพราะการชุมนุมประท้วงที่ปะทุขึ้นจากการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ในเวอร์จิเนีย กลุ่มนักเรียนได้รวบรวมรายชื่อกว่า 15,000 รายชื่อ เพื่อยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงชื่อและสัญลักษณ์ของโรงเรียนมัธยม Lee-Davis ซึ่งตั้งชื่อตาม Robert E. Lee และ Jefferson Davis ทั้งนี้ ทีมกีฬาของโรงเรียนยังมีชื่อว่า “ทีมสมาพันธรัฐอเมริกา” อีกด้วย

“ฉันเฝ้าดูการเติบโตของการเคลื่อนไหว Black Lives Matter และฉันก็บอกตัวเองอยู่เสมอว่าโรงเรียนของฉัน และชื่อของมันช่างน่าอับอายและเหยียดเชื้อชาติเสียเหลือเกิน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ แต่ฉันคิดว่าเราก็น่าจะลองพยายามกันอีกสักครั้ง” Sophie Lynn นักเรียนวัย 16 ปีที่เริ่มรวบรวมรายชื่อ กล่าว

การประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมและการปฏิบัติกับคนทุกสีผิวอย่างเท่าเทียมลุกลามไปทั่วโลก หลังจากการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ผู้คนรู้สึกโกรธแค้น และแสดงออกความรู้สึกด้วยการรื้อถอนรูปปั้นต่าง ๆ เช่น ผู้ชุมนุมประท้วงดึงรูปปั้นของคนค้าทาสในเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษลง และรูปปั้นของพระเจ้า Leopold II กษัตริย์นักล่าอาณานิคม ในเมืองแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยียม  

ในสหรัฐฯ มีการเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงชื่อถนนและสถานที่ต่าง ๆ ที่ตั้งตามชื่อของนายทาส เช่น ในแมดิสันอเวนิว หรือวอชิงตันสแควร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การรื้อถอนรูปปั้นสมาพันธรัฐอเมริกา โดยระบุว่า การกระทำลักษณะนี้อาจนำไปสู่การรื้อถอนอนุสาวรีย์ของ George Washington และ Thomas Jefferson บิดาผู้ก่อตั้งประเทศที่เป็นเจ้าของทาสจำนวนมาก  

พนักงานในสหรัฐฯ ประกาศหยุดงาน “8 นาที 46 วินาที” ประท้วงปัญหาความไม่เท่าเทียม

พนักงานในสหรัฐฯ ประกาศหยุดงาน “8 นาที 46 วินาที” ประท้วงปัญหาความไม่เท่าเทียม

พนักงานระดับปฏิบัติการทั่วสหรัฐอเมริกา วางแผนจะหยุดงานในวันจันทร์ ที่ 27 กรกฎาคม 2020 เพื่อประท้วงปัญหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบและนโยบายการป้องกันโรคโควิด-19 ที่ไม่ครอบคลุมไปถึงประชากรผิวดำ

กลุ่มผู้หญิงจับมือสร้าง “กำแพงคุณแม่” ปกป้องผู้ชุมนุมในพอร์ตแลนด์

กลุ่มผู้หญิงจับมือสร้าง “กำแพงคุณแม่” ปกป้องผู้ชุมนุมในพอร์ตแลนด์

กลุ่มคุณแม่ ซึ่งเรียกตัวเองว่า “กำแพงคุณแม่” รวมตัวกันในช่วงสุดสัปดาห์ ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน เพื่อปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงจากทหารของรัฐบาลกลาง ที่ได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

“เด็ก 8 ขวบ” นำทัพ “Black Lives Matter เด็ก” เรียกร้องความเท่าเทียมเพื่ออนาคต

“เด็ก 8 ขวบ” นำทัพ “Black Lives Matter เด็ก” เรียกร้องความเท่าเทียมเพื่ออนาคต

Nolan Davis เด็กชายวัย 8 ขวบ แกนนำของการชุมนุม Black Lives Matter เด็ก ต้องการแสดงให้สังคมได้เห็นว่าการเปล่งเสียงของตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนอื่นที่ได้ยินเสียงของเขา ก็จะได้รู้ว่าพวกเขาก็สามารถเปล่งเสียงของตัวเองได้เช่นกัน

“ปฏิวัติอเมริกา” อีกหนึ่งต้นเหตุสู่การขับเคลื่อนไหว Black Lives Matter

“ปฏิวัติอเมริกา” อีกหนึ่งต้นเหตุสู่การขับเคลื่อนไหว Black Lives Matter

ขณะที่คนอเมริกันในปัจจุบันที่ลุกขึ้นมาเรียกร้อง Black Lives Matter ต้องการให้รื้อถอนอนุสาวรีย์เพื่อเปลี่ยนแปลงความเชื่อและความเข้าใจอดีตของประเทศ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ “สงครามกลางเมือง” ไม่ใช่สงครามเดียวในสหรัฐฯ ที่มี “ทาส” เป็นองค์ประกอบสำคัญ

งานวิจัยชี้ “ไม่มีหลักฐาน” ยืนยันว่าประท้วง Black Lives Matter ทำยอดโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น

งานวิจัยชี้ “ไม่มีหลักฐาน” ยืนยันว่าประท้วง Black Lives Matter ทำยอดโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น

แม้จะมีหลายฝ่ายที่ออกมาแสดงความกังวลว่า การชุมนุมประท้วง Black Lives Matter อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อจากโรคโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น แต่นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ทำการศึกษาเรื่องนี้และค้นพบว่า “ไม่มีหลักฐาน” ที่ชี้ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับชาวอเมริกันผิวดำ ทำให้ยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น