ตำรวจสภาอย่างน้อย 38 นาย ติด “โควิด-19” หลังเหตุจลาจลรัฐสภาสหรัฐ

หลังเหตุจลาจลผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บุกรุกเข้าไปในรัฐสภา ขณะกำลังมีการประชุมเพื่อรับรองชัยชนะของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาอย่างน้อย 38 นาย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมากกว่า 150 นาย ก็ตรวจพบเชื้อโควิด-19 หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว โฆษกประจำกองกำลังปฏิเสธที่จะยืนยันตัวเลขเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อ แต่เผยว่ากองกำลังจะปฏิบัติตามข้อแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ สมาชิกสภาคองเกรสอย่างน้อย 8 คน ก็รายงานว่าติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งบางส่วนเผยว่า พวกเขาต้องหลบอยู่ภายในห้องกับสมาชิกของพรรครีพับลิกันที่ปฏิเสธจะสวมหน้ากากอนามัย 

กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย และบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา สร้างความกังวลให้กับคนส่วนใหญ่ว่าจะกลายเป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” ที่จะแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ให้กับเจ้าหน้าที่และสมาชิกสภาคองเกรส 

Gus Papathanasiou ประธานสหภาพแรงงานตำรวจรัฐสภา ระบุว่า จำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่เหตุการณ์จลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยตอนนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 580 ราย 

อย่างไรก็ตาม ผู้กระทำความผิดมากกว่า 120 คนถูกจับกุมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 5 ราย ทั้งนี้ เอฟบีไอยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อค้นหาผู้กระทำความผิดคนอื่น ๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย วิดีโอ และความช่วยเหลือจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ต

• ส.ส.สหรัฐติดโควิด 3 คน หลังเจอม็อบ “เชียร์ทรัมป์” บุกสภา
• โลกโซเชียลจับมือตำรวจช่วยระบุ “ผู้กระทำความผิด” เหตุจลาจลสภาสหรัฐ