เนื้อหาในหมวด ข่าว

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความทรงจำ” 25 ปีนี้คนไทยกราบไหว้อะไรไปแล้วบ้าง?

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในความทรงจำ” 25 ปีนี้คนไทยกราบไหว้อะไรไปแล้วบ้าง?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยกับ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางของขลัง” เป็นของคู่กันมาเนิ่นนานหลายพันปี เรามีสิ่งของให้กราบไหว้ และมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ให้เลือกบูชากันอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัก การงาน สุขภาพ หรือโชคชะตา ทว่า ในขณะที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางของขลังโบราณก็ยังได้รับการกราบไหว้บูชา สังคมไทยก็ได้รู้จัก “วัตถุมงคลใหม่ ๆ” ที่เกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย 

แล้วในช่วงเวลา 25 ปีที่ผ่านมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องรางของขลังใดที่กลายเป็น Talk of the town กันบ้าง Sanook รวบรวม 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางที่ชาวไทยให้การเคารพกราบไหว้ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และบทเรียนที่ตามมา 

จตุคามรามเทพ

“จตุคามรามเทพ” คือเครื่องรางของขลังที่เชื่อกันว่าช่วยให้ผู้ครอบครองพ้นภยันอันตราย มีโชคลาภ และมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ซึ่งมีความแตกต่างจากเครื่องรางของขลังชนิดอื่น เพราะไม่ต้องใช้เวลายาวนานในการสร้างชื่อเสียง ไม่ต้องมีบารมีของพระเกจิ และไม่มีจำนวนจำกัดในการเช่าบูชา กระแสความนิยมของจตุคามรามเทพมีมากขึ้น หลังจากข้าราชการตำรวจในจังหวัดนครศรีธรรมราชและหลายจังหวัดได้บูชาองค์จตุคามรามเทพอย่างแพร่หลาย โดยตลาดการค้าจตุคามในปี พ.ศ.​2550 มีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5% ของ GDP ทำให้อุตสาหกรรมจตุคามรามเทพกลายเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตและได้รับความนิยมจากผู้คนมากมาย 

ความนิยมจตุคามรามเทพพุ่งแรงสูงสุดอย่างไม่เคยมีสัตถุมงคลใดสามารถทำได้มาก่อน โดยเฉพาะเหตุการณ์วันเปิดจองจตคามรามเทพรุ่น “เงินไหลมา 2” ที่ประชาชนแห่แหนไปที่วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช เบียดเสียดกันจนเกิดเป็นจลาจล และส่งผลให้มีบผู้เสียชีวิตจากการโดนเหยียบตาย 1 ราย อย่างไรก็ตาม ความนิยมจตุคามรามเทพค่อย ๆ ลดลงจนคล้ายกับจะหายไปจากความทรงจำของคนในสังคมไทยไปแล้ว

ตุ๊กตาลูกเทพ

ตุ๊กตาลูกเทพเป็นเครื่องรางของขลังชนิดใหม่ เริ่มเป็นที่รู้จักในสังคมไทยอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 และโด่งดังเป็นพลุแตก หลังจากหมอแม็คขั้นเทพ หมอดูชื่อดังในขณะนั้น อ้างว่าได้พบกับตุ๊กตาตัวหนึ่งและได้ยินเสียงร้องว่าอยากไปอยู่ด้วย เขาจึงนำตุ๊กตาไปปลุกเสกกับพระอาจารย์ หลังจากนั้นก็ได้รับมอบโชคลาภ และมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ต่อมาก็เริ่มมีผู้คนที่มีชื่อเสียงเริ่มหันมาเลี้ยงบูชา และถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดกระแส “ตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์” ตั้งราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน เช่นเดียวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตุ๊กตาลูกเทพ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีโปรโมชั่นและบริการแปลก ๆ เกิดขึ้น ทั้งการรับเลี้ยงดูตุ๊กตาลูกเทพ เป็นต้น

ตุ๊กตาลูกเทพฟีเวอร์ถึงขนาดที่ว่า บริษัทไทยสมายล์แอร์เวย์ ออกแถลงการณ์ว่าจะออกตั๋วบินสำหรับตุ๊กตาลูกเทพ เพิ่มที่นั่งรวมทั้งบริการอาหารเครื่องดื่ม และต้องปฏิบัติตัวเหมือนเป็นผู้โดยสาร พร้อมแนวทางปฏิบัติสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน นอกจากนี้ ยังมีข้อปฏิบัติการพาตุ๊กตาลูกเทพไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั้งการรับประทานอาหารในร้าน การเดินทาง หรือการนั่งชมภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม กระแสตุ๊กตาลูกเทพก็ค่อย ๆ ลดลง จนคล้ายกับว่าจะหายไปจากสังคมไทยแล้ว

เครื่องรางพะยูนมาเรียม

พะยูนมาเรียม คือลูกพะยูนตัวน้อยที่มาเกยตื้น ที่อ่าวทึง ต.อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเป็นพะยูนเพศเมีย อายุเพียง 4 - 5 เดือน และถึงแม้จะมีความพยายามนำมาเรียมไปปล่อยคืนทะเล มันก็ว่ายกลับมาป้วนเปี้ยนอยู่ตรงจุดเดิมเสมอ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามาเรียมน่าจะพลัดหลงกับแม่ในบริเวณนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการประเมินแล้ว ก็เห็นว่าหากปล่อยมาเรียมไปตามธรรมชาติ มันคงไม่สามารถมีชีวิตรอดได้แน่ เจ้าหน้าที่จึงนำมาเรียมมาอนุบาล จนกลายเป็นกระแส “มาเรียมฟีเวอร์” โด่งดังไปทั่วเมืองไทย และกลายเป็นขวัญใจของประชาชนได้ไม่ยาก

แต่มาเรียมก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก หลังจากพบมาเรียมได้ 111 วัน ซึ่งสร้างความเศร้าโศกให้กับคนทั้งประเทศ​ อย่างไรก็ตาม หลังมาเรียมเสียชีวิต ก็มีการทำเครื่องรางของขลังเป็นรูปพะยูนมาเรียม ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก โดยเครื่องรางดังกล่าวมีเนื้อเงินทำด้วยเงินแท้ และเนื้อทองผสม มีการตอกรหัสและลงอักขระ ผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์หลายจังหวัด ให้พลังด้านเมตตามหานิยม ใครเห็นก็รักใคร่เอ็นดู ทำมาค้าขึ้น และมีชื่อเสียง แม้จะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องรางพะยูนมาเรียมก็ได้รับความนิยม และขายเกลี้ยงแผงในเวลาอันรวดเร็ว 

เทพซิ่ง

หลังจากโย รัชดา นายกสมาคมพระเครื่องพระเกจิคณาจารย์ ได้ประกาศสร้างเหรียญวัตถุมงคลหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน จังหวัดนครสวรรค์ โดยตั้งชื่อรุ่นว่า “เทพซิ่ง” และด้านหลังก็มีรูปรถสปอร์ตสีแดงคันหรู โดยระบุว่าผู้ครอบครองจะมรบารมีของหลวงพ่อปกปักษ์รักษา เดินทางด้วยยานพาหนะใด ๆ ก็ปลอดภัย และค้าขายดีเจริญรุ่งเรือง ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการสร้างจากคนในสังคมอย่างรุนแรง 

แต่เหรียญเทพซิ่งไม่ใช่เหรียญวัตถุมงคลอันแรกที่มี “รถรา” ปรากฏในเหรียญ แต่ยังมีเหรียญเหยียบรถกระดก พระซ้อนรถจักรยานยนต์ และพระขี่มอเตอร์ไซต์บนรถเก๋ง เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว 

ไอ้ไข่

ไอ้ไข่กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความศรัทธาจากประชาชนจำนวนมาก หลังจากให้โชคลาภคนที่มากราบไหว้ พอบอกกันปากต่อปาก ก็ทำให้ผู้คนเริ่มแห่มาบูชาไอ้ไข่เพิ่มขึ้น เมื่อกระแสความนิยมมีเพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้วัดต่าง ๆ เริ่มจัดสร้างไอ้ไข่จำลองขึ้นเพื่อให้ผู้คนที่ศรัทธาได้เข้าไปกราบไหว้บูชา จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นพุทธพาณิชย์หรือไม่ จนวัดเวดีย์ ซึ่งถือเป็นวัดต้นตำรับของไอ้ไข่ต้องออกมาประกาศว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดอื่น ๆ ที่จัดสร้างรูปจำลองของไอ้ไข่ พร้อมจดลิขสิทธิ์ทุกอย่าง ตั้งแต่รูปปั้นไอ้ไข่ หนังสือประวัติความเป็นมา หรือวัตถุมงคล

จากคำบอกเล่าว่าขออะไรไอ้ไข่ก็จะสมหวังทุกอย่าง ก็ทำให้มีผู้ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ ขอพร ขอโชคลาภไม่ขาดสาย และเพราะเชื่อกันว่าไอ้ไข่เป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ​ 9 - 10 ขวบ ก็มีการถวายของเล่นเด็กผู้ชาย ชุดทหารตำรวจ เช่นเดียวกับมีการจุดประทัด เพราะเชื่อว่าไอ้ไข่ชอบประทัดนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทำให้ภายในวัดเจดีย์จะมีเสียงประทัดดังตลอดทั้งวัย โดยเฉพาะก่อนวันหวยออก เนื่องจากผู้คนเชื่อว่ายิ่งจุดประทัดเสียงดังเท่าไร โชคลาภก็จะเพิ่มมากขึ้น 

ท้าวเวสสุวรรณ

อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยนิยมไปกราบไหว้เพื่อขอโชคลาภก็คือ “ท้าวเวสสุวรรณ” ที่เชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่ให้คุณด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ และการค้าขาย มีความเชื่อว่าคนที่บูชาท้าวเวสสุวรรณจะมีโชค ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ สามารถแก้ปีชงและเสริมปีชงได้ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันภูติผีปีศาจและเหล่าวิญญาณร้ายได้อีกด้วย โดยท้าวเวสสุวรรณปรากฏอยู่ในหลายสถานที่ แต่ถ้าจะบูชาท้าวเวสสุวรรณ ต้องนึกถึง “วัดจุฬามณี” ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากมีตำนานการสร้างที่แตกต่างจากที่อื่น

ตำนานการสร้างท้าวเวสสุวรรณ์แห่งวัดจุฬามณี คือพระอาจารย์อิฏฐ์ เจ้าอาวาสของวัด ได้ฝันเห็นท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งในนิมิตนั้น ท้าวเวสสุวรรณได้พาพระอาจารย์อิฏฐ์ไปเที่ยวชมยมโลก พระอาจารย์อิฏฐ์จึงตั้งอธิษฐานว่าถ้ากลับไปที่โลกมนุษย์ จะทำการตั้งรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณไว้กลางวัด เป็นการขอบคุณและให้ความเคารพแก่ท่าน ซึ่งท้าวเวสสุวรรณก็ได้บอกว่า หากจะปั้นตนก็ต้องไปตามช่างปั้นคนหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งนั่นจึงกลายเป็นตำนวนที่มา ที่ทำให้ท้าวเวสสุวรรณได้รับความศรัทธาจากผู้คนอย่างล้มหลาม 

เครื่องรางแฟชั่น

ร้านไลลา อมูเลตส์ (Leila Amulets) เป็นร้านเครื่องรางของขลังที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่เป็นอย่างมากในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา และถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดเครื่องรางแฟชั่นให้กลับมา “ฮิต” อีกครั้ง โดยถือกำเนิดขึ้นโดยจันทรา จัทร์พิทักษ์ชัย ที่นำกำไลหินมาดัดแปลงเข้ากับตะกรุดจากวัดดัง และเครื่องรางของขลังอื่น ๆ อีกหลายอย่าง โดยมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก การงาน การเรียน หรือการเงิน 

กระแสความนิยมของไลลาเกิดจากการบอกปากต่อปาก และการแชร์ผ่านโลกโซเชียล ส่งผลให้ผู้คนเข้ามาซื้อเครื่องรางของไลลาอย่างถล่มทลาย จนทำให้ร้านไลลาสามารถขยายสาขาไปตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับเกิดร้านค้าเครื่องรางแฟชั่นคล้าย ๆ กันอีกมากมาย ทั้งในห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด และโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ความนิยมของไลลาและเครื่องรางแฟชั่นเหล่านี้ก็เสื่อมถอยลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน แม้จะยังมีลูกค้าประจำอยู่ แต่ก็ไม่ได้ร้อนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา 

พ่อปู่อือลือ ณ ถ้ำนาคา

ถ้ำนาคากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ที่โด่งดังในช่วง 1 - 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากมีกระแสพญานาคฟีเวอร์ ผู้คนหันมากราบไหว้บูชาพญานาคกันมากขึ้น และถ้ำนาคาก็ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนที่ศรัทธาในพญานาค อยากจะมีโอกาสได้ขึ้นไปกราบไหว้ “พ่อปู่อือลือ” ที่เป็นพญานาคปกครองเมืองบาดาล โดยเชื่อกันว่าบริเวณบึงโขงหลงเคยเป็นเมืองบาดาล ที่มี่ทั้งพญานาคและมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน แต่พ่อปู่อือลือได้สาปเหล่าบริวารพญานาคให้กลายเป็นหิน เนื่องจากทำผิดจารีต ไปมีสัมพันธ์กับมนุษย์ ซึ่งบริเวญที่โดนสาปให้เป็นหินก็คือถ้ำนาคาแห่งนี้นั่นเอง 

ถ้ำนาคาตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ สาเหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำนาคา เป็นเพราะหินและผนังถ้ำดูคล้ายกับพญานาค มีรูปทรงคล้ายพญานาตขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ มีส่วนสำคัญต่าง ๆ ทั้งส่วนหัว ลำตัว และเกล็ดพญานาค ถ้ำนาคาเริ่มเป็นที่รู้จักหลังมีชาวเน็ตแชร์ภาพถ้ำที่มีพื้นผิวคล้ายเกล็ดพญานาค ซึ่งดูลึกลับ น่าพิศวง พอมีการคลายล็อกดาวน์ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้ประชาชนหลั่งไหลเข้าไปเที่ยวชมความงามของถ้ำนาคา พร้อมเข้าไปสักการะและกราบไหว้ขอโลคลาภมากมาย จนเคยเกิดปัญหานักท่องเที่ยวติดค้างอยู่บนเขา ไม่สามารถลงจากเขาได้ ซึ่งพอมีคนเยอะ ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมา ทั้งการไปจับสัมผัสพื้นผิวของหิน การปักธูป ขูดขีดและโรยแป้งที่หินเพื่อขอเลขเด็ด หรือแม้กระทั่งการขัดเขียนลงบนหิน จนอุทยานต้องปิดไม่ให้เยี่ยมชมถ้ำนาคา

วอลเปเปอร์เสริมดวง

เมื่อความไม่แน่นอนของสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้คนไทยต้องหันไปพึ่งพาการมูเตลูกันมากขึ้น ก็เป็นช่องทางให้เกิดธุรกิจใหม่ขึ้นมามากมาย และหนึ่งในนั้นคือ “วอลเปเปอร์เสริมดวง” ที่กลายเป็นกระแสมาแรง และมีผู้พัฒนาวอลเปเปอร์เสริมดวงออกมาให้ผู้ใช้ได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมูเตเวิร์ล, Magic Wish, ดวงทูเดย์ หรือ a ดวง และแต่ละผู้พัฒนาก็มีศาสตร์การสร้างวอลเปเปอร์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเลขมงคล สัตว์มงคล หรือไพ่ยิปซี 

 

จากการสำรวจเรื่อง “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจซื้อวอลเปเปอร์มือถือเสริมดวง” ของภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่า กลุ่มเป้าหมายของสินค้าคือกลุ่มผู้หญิง อายุต่ำกว่า 30 ปี และมีความเชื่อเรื่องโชคลาง สิ่งเหนือธรรมชาติ หรือความเรื่องในเรื่องเคราะห์กรรมความโชคร้าย นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มคนที่มารายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท 

ครูกายแก้ว

และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างความฮือฮาให้กับคนในสังคมล่าสุด ก็คงหนีไม่พ้น “ครูกายแก้ว” ที่เป็นสาเหตุให้การจราจรบนถนนรัชดาภิเษก ของเช้าวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากรถพ่วงที่บรรทุกรูปปั้นครูกายแก้วขนาดใหญ่ เกิดติดคานสะพานลอยคนข้าม โดยรูปปั้นของครูกายแก้วมีลักษณธเป็นคนกึ่งนก มีปีก มีเล็บยาวสีแดงและเขี้ยวสีทอง หลังจากนั้นก็มีการถกเถียงบนโลกออนไลน์ถึงความเหมาะสมในการกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว จนกลายเป็นดราม่าในโลกโซเชียล

แม้จะมีดราม่าร้อนในโซเชียลมีเดีย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมและความศรัทธาในครูกายแก้วดูเหมือนจะมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งในหมู่คนที่นับถือครูกายแก้วมานานหลายปี และคนหน้าใหม่ที่ต้องการที่พึ่งทางใจ หรือเมื่อมีสิ่งใหม่ ๆ ก็จะตามไปขอโชคขอพรให้ตัวเอง 

นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังที่ปรากฏอยู่ในสังคมในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าสังคมไทยก็คงจะได้เห็นวัตถุมงคลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกในอนาคต ก็คงต้องรอดูกันต่อไป ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันต่อไปที่ “สายมู” ชาวไทยจะไปกราบไหว้คืออะไรกันแน่

ย้อน 25 เหตุการณ์ “พลิกโลก” ที่เกิดขึ้นในรอบ 25 ปี

ย้อน 25 เหตุการณ์ “พลิกโลก” ที่เกิดขึ้นในรอบ 25 ปี

Sanook ครบรอบ 25 ปี จึงขอรวบรวม 25 เหตุการณ์ “พลิกโลก” ที่เกิดขึ้นในรอบ 25 ปี เพื่อชวนทุกคนย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ที่นำพาให้โลกเป็นอยู่ดังเช่นทุกวันนี้ได้

จากหน้าจอสู่หน้าฟีด: 25 ปี \

จากหน้าจอสู่หน้าฟีด: 25 ปี "การเสพสื่อ" ที่เปลี่ยนไป

จากยุคนั่งล้อมวงดูโทรทัศน์สู่ยุคอินเทอร์เน็ตที่ทุกอย่างสะดวกสบายแค่ปลายนิ้วคลิก Sanook พาไปสำรวจพฤติกรรมการเสพสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปของคนในยุคปัจจุบัน ในขณะที่เทคโนโลยีก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีอยู่เสมอ