
ทำงานมาสิบปี เสี่ยงตกงาน รับมืออย่างไรให้รอด
ในโลกของการทำงานที่หมุนเร็ว การจะรักษาตำแหน่งหน้าที่การงานให้อยู่รอดปลอดภัยไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วนับสิบปี หลายคนอาจคิดว่าความเก๋าและประสบการณ์ที่สั่งสมมาจะช่วยการันตีความมั่นคง แต่ในความเป็นจริง เทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด การเปลี่ยนแปลงของตลาด และการเข้ามาของคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะหลากหลาย กำลังสร้างแรงกดดันและเพิ่มความเสี่ยงในการถูกเลิกจ้างมากขึ้นเรื่อยๆ คำถามคือ เมื่อมาถึงจุดนี้ เราจะรับมือกับความท้าทายนี้อย่างไร เพื่อให้ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด และก้าวผ่านช่วงเวลาที่เปราะบางนี้ไปได้อย่างมั่นคง?
ดราม่าในที่ทำงาน: จุดเริ่มต้นของความเสี่ยงที่มองไม่เห็น
แม้จะทำงานมาเกิน 10 ปี แต่หลายคนกลับเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงในตำแหน่งของตนเอง ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น
- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร
- การมาของเทคโนโลยีที่เข้ามาแทนแรงงานคน
- วัฒนธรรมองค์กรที่เปลี่ยนไป
สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิด ดราม่าในที่ทำงาน ที่พัฒนาไปสู่ “การเลิกจ้าง” โดยที่ไม่ทันตั้งตัว
ดราม่าเล็กน้อย เช่น การถูกกันออกจากโปรเจกต์ การไม่ได้รับการโปรโมท หรือแม้กระทั่งการที่หัวหน้าใหม่ไม่ชอบหน้า อาจกลายเป็นจุดเริ่มของ “ใบลาออกทางอ้อม” ที่พนักงานรุ่นเก๋าต้องเผชิญ
ปัญหาการเลิกจ้างงาน: เมื่อประสบการณ์ไม่ช่วยอะไรอีกต่อไป
ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน หลายบริษัทเลือก “ลดต้นทุน” โดยการเลิกจ้างพนักงานที่มีเงินเดือนสูง แม้พนักงานกลุ่มนี้จะมีประสบการณ์ก็ตาม ปัญหาการเลิกจ้างงานในกลุ่มคนทำงานอายุ 35+ จึงเริ่มพุ่งสูงขึ้น
สิ่งที่ควรทำทันทีเมื่อตกอยู่ในความเสี่ยง:
- เริ่มอัปเดตเรซูเม่ ให้ทันสมัย
- สังเกตสัญญาณเตือน เช่น ไม่มีงานให้ทำ, ถูกกันออกจากการประชุม, หัวหน้าหยุดมอบหมายงาน
- สำรวจเครือข่ายคนรู้จัก เพื่อโอกาสงานใหม่
- ศึกษาแรงงานสัมพันธ์และสิทธิ์ตามกฎหมาย เช่น ค่าชดเชย กรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
ปัญหาค่าครองชีพ: ซ้ำเติมเมื่อรายได้หายไป
เมื่อไม่มีงาน รายได้หาย แต่ ค่าครองชีพไม่หยุดขึ้น เช่น ค่าเช่า ค่าเดินทาง ค่าของกิน สิ่งที่ควรทำคือ:
- วางแผนการเงินฉุกเฉินล่วงหน้า อย่างน้อย 6 เดือน
- ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย และใช้จ่ายเฉพาะสิ่งจำเป็น
- หาช่องทางหารายได้เสริม เช่น ขายของออนไลน์ รับงานฟรีแลนซ์ ฯลฯ
แม้จะยังไม่ถูกเลิกจ้าง แต่การเตรียมรับมือไว้ก่อนเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในยุคเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน
ตกงานแล้วทำอะไรดี? รวมแนวทางรอดชีวิตที่ลงมือได้จริง
เมื่อโดนเลิกจ้าง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความรู้สึก “ตกใจ – โกรธ – กลัว” จะตามมาทันที สิ่งที่ต้องรีบทำคือ ตั้งสติ และเริ่มวางแผนใหม่ทันที เพราะยิ่งนานวัน รายจ่ายยิ่งไม่รอใคร
1. ประเมินศักยภาพของตนเอง: เริ่มจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว
สิ่งที่คนทำงานมานาน 10 ปีมักมีคือ
- ประสบการณ์ในสายงาน
- ทักษะเฉพาะทาง
- ความเข้าใจองค์กรและลูกค้า
- เครือข่ายคนรู้จักในวงการ
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ "เขียนออกมา" ว่าคุณถนัดอะไร และเคยทำอะไรสำเร็จมาบ้าง
ตัวอย่างคำถามเพื่อประเมินตัวเอง:
- เคยแก้ปัญหาอะไรให้บริษัทบ้าง?
- มีความรู้เฉพาะด้านใดที่คนอื่นไม่มี?
- มีทักษะการจัดการคนหรือโปรเจกต์หรือไม่?
2. สมัครงานใหม่อย่างมีกลยุทธ์
หากยังอยากทำงานประจำต่อ
- ปรับเรซูเม่ให้เน้น ผลลัพธ์ที่เคยทำได้ (Result-based) ไม่ใช่แค่บรรยายหน้าที่
- เพิ่มทักษะที่ตลาดต้องการ เช่น
- Excel / Power BI / Google Analytics
- Digital Marketing / SEO / Content
- ภาษาอังกฤษ / ภาษาที่สาม (เช่น จีน, ญี่ปุ่น)
- สมัครกับบริษัทที่มีความมั่นคง ไม่ใช่แค่เงินเดือนสูง เช่น สตาร์ตอัปที่ระดมทุนแล้ว หรือองค์กรขนาดกลางที่เติบโต
Tip: ใช้ LinkedIn หรือ JobsDB อย่างจริงจัง อัปเดตโปรไฟล์ และติดต่อ HR โดยตรง
3. รับงานฟรีแลนซ์ – เริ่มจากสิ่งที่ทำได้ก่อน
ฟรีแลนซ์เป็นช่องทางที่เริ่มง่าย และไม่ต้องลงทุนสูง
ตัวอย่างสายฟรีแลนซ์ที่เริ่มได้จากคนเคยทำงาน:
- คนสายบัญชี/HR: รับทำบัญชีรายเดือน, ยื่นภาษี, ปรึกษาแรงงาน
- คนสายเขียน/การตลาด: เขียนบทความ SEO, คอนเทนต์โซเชียล, รีวิวสินค้า
- คนสายออกแบบ: รับออกแบบโลโก้, โบรชัวร์, Infographic
- คนสาย IT: รับทำเว็บไซต์, เขียนระบบ, ทำแอปมือถือ
- คนจัดการ/วางแผน: เป็นผู้ช่วยธุรกิจ (Virtual Assistant), ที่ปรึกษาธุรกิจรายย่อย
เว็บไซต์เริ่มต้น: Fastwork / FreelanceBay / Upwork / Fiverr
4. ทำธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก
อย่าคิดว่าต้องมีเงินทุนเยอะ! คนทำงานมานานมี ทุนทางประสบการณ์
ตัวอย่างธุรกิจขนาดเล็กที่เริ่มได้จริง:
- ขายของออนไลน์: ใช้ Shopee, Lazada, Facebook Marketplace ขายของที่คนใช้ทุกวัน เช่น เครื่องครัว, ของใช้ในบ้าน
- เปิดเพจสอนความรู้: ใช้ความรู้ในสายงานของคุณมาแปลงเป็นความรู้ที่คนอยากเรียน เช่น “เทคนิคบัญชีสำหรับร้านอาหารเล็กๆ”
- รับจ้างเป็นที่ปรึกษา (Consulting): เหมาะกับคนสายบริหาร, การเงิน, การผลิต, HR
- เปิดร้านกาแฟ/ของกินเล็กๆ: ถ้าอยู่ใกล้ชุมชน ลองเริ่มเล็ก เช่น ขายเฉพาะช่วงเช้าในหน้าบ้าน
Tip: หลีกเลี่ยงการลงทุนแบบก้อนโตโดยไม่ศึกษาตลาดหรือทดลองขายจริงก่อน
5. เรียนรู้ทักษะใหม่ระหว่างรอ
ถือว่าช่วงตกงานคือโอกาส Reset ตัวเอง
ทักษะใหม่ที่ “เป็นที่ต้องการสูง” ปี 2025:
- Digital Marketing
- Data Analytics / BI Tools
- การใช้ AI ในงานต่างๆ
- UX/UI Design
- การขายผ่าน TikTok / Facebook Live
แหล่งเรียนฟรีหรือราคาถูก:
- Coursera / edX / Skillshare / FutureLearn
- ม.มหิดลออนไลน์ / กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
- YouTube Channels ด้านการตลาด, เขียนโปรแกรม, Excel
6. ใช้แรงงานและเวลาเป็นทุน
หากไม่มีเงินลงทุนเลย ให้ใช้ “แรง” และ “เวลา” เป็นทุน เช่น:
- เป็นไรเดอร์ ส่งของ Grab / LINE MAN
- รับงานช่วยเหลือผู้สูงอายุหรือเด็กใกล้บ้าน
- ปลูกผักขายในหมู่บ้านหรือขายออนไลน์
- ทำขนม อาหารแช่แข็ง ขายผ่านกลุ่มชุมชน
อย่าอายที่จะเริ่มต้นใหม่ ไม่มีงานไหนต่ำ ถ้ามันพาคุณพ้นจากวิกฤต
ทางรอดเริ่มจาก “ไม่ยอมแพ้”
การตกงานไม่ใช่จุดจบ แต่คือ “จุดเปลี่ยน” ที่อาจนำคุณไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเดิม หากกล้าคิดใหม่ ทำใหม่ และกล้าลองสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
จงจำไว้ว่า:
- ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ ไม่มีใครเอาไปจากคุณได้
- คุณยังมีค่าในตลาดงานและตลาดชีวิต
- และคุณ “เริ่มใหม่ได้” ทุกเมื่อ
อ่านเพิ่ม