เนื้อหาในหมวด ข่าว

สรุปนโยบายศึกษาฯ  ใต้ปีก “เพิ่มพูน ชิดชอบ” แจกแท็บเล็ต ลดภาระ ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง

สรุปนโยบายศึกษาฯ ใต้ปีก “เพิ่มพูน ชิดชอบ” แจกแท็บเล็ต ลดภาระ ครู-นักเรียน-ผู้ปกครอง

Highlight

  • การดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ จะอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
  • การทำงานภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ จะเป็นการทำงานแบบ “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” โดยเน้นนโยบาย "เรียนดี มีความสุข"
  • นโยบายเร่งด่วนสำหรับครูคือ ลดภาระงานครู แก้ไขปัญหาหนี้สิน และจัดสวัสดิการ "1 ครู 1 แท็บเล็ต"
  • นโยบายเร่งด่วนสำหรับนักเรียน คือเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาด้วยนโยบาย 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต

วันที่ 14 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา  “พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แถลงนโยบายการศึกษาและแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากโลกโซเชียลพอสมควร หลังจากท่านรัฐมนตรีฯ ได้แนะนำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อลดภาระหนี้ อย่างไรก็ตาม นโยบายการศึกษาภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน จะมีอะไรบ้าง Sanook สรุปนโยบายที่จะช่วยให้ระบบการศึกษาของประเทศไทยปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้น 

เรียนดี มีความสุข

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า การดำเนินงานของกระทรวงศึกษาฯ จะอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พร้อมนำนโยบายของรัฐบาลมาขับเคลื่อนการทำงาน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา โดยการทำงานภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน นั้น จะเป็นการทำงานแบบ “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” 

ขณะที่การยกระดับการทำงานของกระทรวงศึกษา จะเน้นไปที่การ “เรียนดี มีความสุข” โดยการเรียนการสอนจำเป็นต้องเริ่มจากความสุขของผู้เรียน ผู้สอน ไปจนถึงผู้ปกครอง เพราะเมื่อมีความสุข ก็จะส่งผลให้การเรียนดีขึ้น และเมื่อการเรียนดีขึ้น ก็จะส่งผลกลับมาทำให้รู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้น

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ยังได้ย้ำถึงความร่วมมือของผู้บริหาร ครูผู้สอน บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครองและชุมชน เพื่อจะขับเคลื่อนผลักดันในเรื่องการศึกษาให้เจริญรุดหน้ายิ่งขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 2 แนวคิดการจัดการศึกษา คือ การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต 

ลดภาระงานครู

นโยบายสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาที่สำคัญ คือ “ลดภาระครู” ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่

  • ปรับวิธีการประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ลดขั้นตอนมุ่งผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน ด้วยการปรับระบบการประเมินวิทยฐานะที่เน้นตามสภาพจริง ลดการทำเอกสาร-ขั้นตอนการประเมิน ไม่ซับซ้อนและเป็นธรรม
  • ครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่น สามารถโยกย้ายกลับภูมิลำเนาด้วยความโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง พร้อมสำรวจครูขาดแคลยในแต่ละพื้นที่ตามภูมิลำเนาเดิม
  • แก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการวางแผนการใช้เงิน และการเก็บออมเงิน น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต รวมทั้งเร่งช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ NPL โดยเร่งด่วน
  • จัดหาอุปกรณ์การสอนและสวัสดิการ “1 ครู 1 แท็บเล็ต” ด้วยการสนับสนุน จัดหาอุปกรณ์ในการช่วยจัดการเรียนการสอนต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงระบบออนไลน์รองรับการใช้งานให้เพียงพอกับจำนวนครูผู้สอน 
  • 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต

    สำหรับนโยบายของนักเรียนนั้น มีนโยาบายที่ต้องเร่งดำเนินการทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่

  • เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา (Anywhere Anytime) เรียนฟรี มีงานทำ “ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” มีระบบหรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาด้วยนโยบาย 1 นักเรียน 1 แท็บเล็ต นำแพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งชาติมาผสมผสานการเรียนการสอนแบบเดิมกับการเรียนการสอนออนไลน์ (Hybrid Education) และขยายการเรียนรู้ไปถึงประชาชนทุกช่วงวัย พร้อมพัฒนาการศึกษาผ่านระบบการสะสมหย่วยการเรียนรู้ (Credit Bank System) 
  • 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ จัดให้มีการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพต้นแบบ อย่างน้อย 1 โรงเรียนในแต่ละอำเภอหรือเขตพื้นที่การศึกษา นำร่องการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน สื่อ อุปกรณ์ และงบประมาณ
  • ระบบแนะแนวการเรียน (Coaching) และเป้าหมายชีวิต พัฒนาและปรับปรุวหลักสูตร กระบานการเรียนรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลก มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกระดับการศึกษาให้มีทักษะที่เหมาะสมและจำเป็นต่อการดำรงชีวิต 
  • การจัดทำระบบวัดผลรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) ให้ผู้เรียนสามารถเรียนเพิ่ม เพื่อรับประกาศนียบัตรในการประกอบอาชีพ ด้วยการนำหน่วยกิตที่สะสมมาใช้เทียบคุณวุฒิรับรองมาตรฐานวิชาชีพ
  • การจัดทำระบบวัดผลเทียบระดับการศึกษา และประเมินผลการศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนที่มีความเป็นเลิศไม่ต้องเสียเวลาเรียนในระบบ ด้วยการจัดทำระบบการเทียบเคียงหรือเทียบโอนผลการเรียน ทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ หรือสมรรถะจากระบบเดียวกัน แต่ต่างสถานศึกษาหรือต่างระบบ
  • มีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) มุ่งเน้นการผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาที่มีควมจำเป็นเร่งด่วน และตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และแผนการศึกษาแห่งชาติ โดยเน้นรูปแบบการเรียนรู้สู่การปฏิบัติ 
  • ลงพื้นที่อย่างเรียบง่ายและประหยัด

    หลังจากแถลงนโยบายการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ก็ได้มีข้อสั่งการและแนวทางปฏิบัติสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน โดยขอให้ผู้บริหารทุกภาคส่วนในสังกัดนำนโยบายที่แถลงไปสู่การปฏิบัติจริงอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเน้นย้ำเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ทั้งเรื่องการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย ไปจนถึงการจัดซื้อจัดจ้าง 

    นอกจากนี้ ยังได้ฝากให้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ พร้อมให้ร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด ส่งเสริมการอ่านอย่างเป็นกระบวนการ ไปจนถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการหรือตรวจเยี่ยม ที่พล.ต.อ.เพิ่มพูน ขอให้มีเฉพาะผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง โดยดำนเนินการอย่างเรียบง่ายและประหยัด

    “กระทรวงศึกษาธิการ” ปลดล็อกการศึกษาไทย ด้วยนโยบาย “ซ่อม สร้าง ป้องกัน”

    “กระทรวงศึกษาธิการ” ปลดล็อกการศึกษาไทย ด้วยนโยบาย “ซ่อม สร้าง ป้องกัน”

    กระทรวศึกษาธิการยึดหลักนโยบายของรัฐบาลและแผนยุทธศาสตร์ของชาติ 20 ปี โดยมุ่งพัฒนาการศึกษาไทยใน 3 ด้าน ด้วยนโยบาย “ซ่อม สร้าง ป้องกัน” คือ การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (ซ่อม) การสร้างโอกาสทางการศึกษา (สร้าง) และยกระดับคุณภาพทางการศึกษา (ป้องกัน)