10 อาหารที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม ช่วยลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโต
ต่อมลูกหมากโต: ภัยเงียบผู้ชายวัย 40+ ป้องกันได้ด้วย 10 สุดยอดอาหาร
ต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia: BPH) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคุณผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แม้ว่าภาวะนี้จะไม่ใช่มะเร็งและไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตโดยตรง แต่ก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิต เนื่องจากมีอาการปัสสาวะบ่อยหรือไม่สุด นอกจากนี้หากปล่อยไว้เรื้อรัง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะไตวาย ได้
การดูแลตัวเองเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการหมั่นสังเกตความผิดปกติของระบบปัสสาวะ และการตรวจต่อมลูกหมากเป็นประจำ ซึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยในการป้องกัน ทั้งภาวะต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมาก
10 อาหารแนะนำ: ตัวช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมาก
อาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านการอักเสบ และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรค
1. มะเขือเทศ
สารสำคัญในมะเขือเทศคือ ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อเซลล์ต่อมลูกหมาก งานวิจัยพบว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์มะเขือเทศที่ปรุงสุก เช่น ซอสมะเขือเทศ จะช่วยให้ร่างกายได้รับไลโคปีนมากกว่าการทานสด และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโตได้สูงถึง 20-35% ตามงานวิจัยบางชิ้น
2. บร็อคโคลี่และผักตระกูลกะหล่ำ
ผักตระกูลนี้มีสาร ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง และช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ล้างพิษในร่างกาย การรับประทานบร็อคโคลี่มากกว่าสัปดาห์ละครั้งอาจลดโอกาสเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากระยะรุนแรงลงได้ถึง 30-45% ตามงานวิจัยบางชิ้น ข้อแนะนำคือควรนึ่งหรือผัดไม่นานเกิน 5 นาที เพื่อคงคุณสมบัติที่ดีไว้
3. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ผลไม้ในกลุ่มนี้ เช่น สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และราสเบอร์รี่ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม สารเหล่านี้จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการอักเสบและการเกิดเนื้องอกในร่างกาย
4. แซลมอนและปลาไขมันดี
ปลาไขมันดีอย่างแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาเทราต์ อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยในการต้านมะเร็งและลดการอักเสบในร่างกาย การรับประทานอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อมลูกหมากโตได้
5. เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทองมี ฟิตโตสเตอรอล และ สังกะสี ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ 5-alpha reductase ลดการเปลี่ยนเทสโทสเตอโรนเป็น DHT ซึ่งเป็นสาเหตุของต่อมลูกหมากโต
6. ถั่วและอาหารทะเล (สังกะสีและซีลีเนียม)
อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของแร่ธาตุสำคัญอย่าง สังกะสี (Zinc) และ ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของต่อมลูกหมากและช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชาย โดยเฉพาะหอยนางรมที่ถือเป็นแหล่งสังกะสีชั้นดีที่ควรรับประทาน
7. ชาเขียว
ในชาเขียวมีสาร แคทีชิน (Catechins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ในการต่อสู้กับมะเร็งหลายชนิด การดื่มชาเขียวเป็นประจำอย่างน้อยวันละสามแก้ว อาจช่วยต่อสู้กับมะเร็งต่อมลูกหมากและลดความเสี่ยงความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะได้
8. เห็ดหลากหลายชนิด
เห็ด เช่น เห็ดหอม เห็ดนางรม และเห็ดหลินจือ มีสารสำคัญอย่าง เลนติแนน (Lentinan) และ เออร์โกไธโอนีน (Ergothioneine) ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้และยับยั้งการเติบโตของเซลล์เนื้องอกและมะเร็งในร่างกายได้
9. ทับทิม
ทับทิมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสารสำคัญอย่าง เอลลาจิแทนนิน (Ellagitannin) ซึ่งมีประโยชน์ในการบำรุงต่อมลูกหมาก การบริโภคน้ำทับทิมเป็นประจำสามารถช่วยชะลอการลุกลามของมะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วย
10. ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันมีคุณสมบัติต้านมะเร็งและต้านการอักเสบที่ดี การนำขมิ้นชันมาปรุงร่วมกับผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บร็อคโคลี่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและรักษามะเร็งต่อมลูกหมากได้ดียิ่งขึ้นตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
การเลือกรับประทานอาหารที่กล่าวมาข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันภาวะต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมาก ดังนั้นคุณผู้ชายในกลุ่มเสี่ยงควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม
อาหารเหล่านี้เป็นเพียงตัวช่วย ไม่สามารถทดแทนการรักษาทางการแพทย์ได้” “หากมีอาการปัสสาวะผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจ PSA และอัลตราซาวด์