เนื้อหาในหมวด ข่าว

เพิ่งรู้! หลายประเทศทั่วโลก อนุญาตให้สิทธิลางานจากการปวดประจำเดือนได้แล้ว

เพิ่งรู้! หลายประเทศทั่วโลก อนุญาตให้สิทธิลางานจากการปวดประจำเดือนได้แล้ว

อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้หญิงต้องเจอในทุก ๆ เดือน คือ อาการปวดประจำเดือน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ทรมาณมากสำหรับผู้หญิงหลาย ๆ คน

ในปี 2018 มีผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยในลอนดอน ระบุว่า “อาการปวดประจำเดือน เลวร้ายพอ ๆ กับอาการหัวใจวาย” เลยทีเดียว

นอกจากนี้ผู้หญิงหลายคน มีความเห็นว่าการปวดท้องประจำเดือน ทำให้พวกเธอมีประสิทธิภาพการทำงานของพวกเธอน้อยลงอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดมาเป็นข้อถกเถียงของคนในสังคมอีกครั้งว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยจะมีกฎหมายให้ลาระหว่างมีประจำเดือนได้แล้วหรือยัง ซึ่งประเด็นนี้มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

สำหรับกลุ่มที่ผลักดันให้เกิดสิทธินี้ เล็งเห็นว่าการปวดประจำเดือนของผู้หญิง เป็นปัญหาที่สังคมไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอาการทางร่างกายที่ผู้หญิงเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าการที่มีกฎหมายนี้ขึ้นมาจะทำให้สังคมไทยมีความเท่าเทียมทางเพศอย่างแท้จริง เพราผู้ชายเองก็มีสิทธิในการลาบวช

ในทางกลับกัน กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการประเด็นนี้ ก็เชื่อว่าการมีแค่สิทธิลาป่วยก็พอแล้ว หากอนุญาตให้มีการลาหยุดเพราะปวดประจำเดือน ก็ไม่ยุติธรรมกับตัวผู้ชายเอง เพราะทำให้ผู้หญิงมีสิทธิในการลามากกว่าผู้ชาย อีกทั้งอาจใช้เป็นข้ออ้างในการลาหยุดได้

อย่างไรก็ตาม มีหลายประเทศที่กฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถลาหยุดจากการปวดประจำเดือนได้ โดยปัจจุบันมี 7 ประเทศ ดังนี้

ประเทศญี่ปุ่น

ในปี 1947 ญี่ปุ่นได้มีการเพิ่มสิทธิการลาหยุดจากการปวดท้องประจำเดือน ลงในสิทธิแรงงาน ในมาตรา 68 ระบุว่า “นายจ้างไม่สามารถบังคับให้ผู้หญิงมาทำงานในวันที่เธอต้องเผชิญกับความลำบากจากประจำเดือน”

ประเทศอินโดนีเซีย

ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างอินโดนีเซีย มีกฎหมายอนุญาตให้พนักงานลาหยุดได้ หากปวดท้องประจำเดือน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศแรกๆ ในเอเชียเลยก็ว่าได้ โดยในปี 2003 กฎหมายระบุว่า พนักงานผู้หญิงที่มีอาการปวดประจำเดือน สามารถลางานได้ใน 2 วันแรกของการเป็นรอบเดือน

ประเทศเกาหลีใต้

มาตรา 73 ของกฎหมายแรงงานเกาหลี ระบุว่าพนักงานผู้หญิงทุกคน สามารถลาป่วยจากเหตุผลทางร่างกายได้ เดือนละ 1 วัน

ซึ่งในเกาหลีใต้เองก็ปฏิบัติตามกฎหมายนี้อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนก็มีการปรับบริษัทอย่างจริงจัง มีตัวอย่างให้เห็นจากกรณีในปี 2021 ที่สายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ ได้ฝ่าฝืนไม่ให้พนักงานลา โดยอ้างว่าพนักงานไม่มีหลักฐานยืนยันว่าตนมีรอบเดือน อย่างไรก็ตามศาลก็ไม่ยอม ตัดสินให้ทางสายการบินจ่ายค่าปรับเป็นจำนวน 1,790 ดอลลาร์

ประเทศไต้หวัน

มาตรา 14 ในกฎหมายความเสมอภาคทางเพศของไต้หวัน ระบุให้พนักงานผู้หญิงสามารถลาระหว่างมีประจำเดือนได้ เดือนละ 1 วัน โดยวันนั้นบริษัทจะจ่ายให้ครึ่งหนึ่งของเงินเดือน แต่หากลามากกว่า 3 วัน วันลาดังกล่าวจะถูกนำไปรวมกับสิทธิลาป่วยของบริษัท

ประเทศเวียดนาม

เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่เห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยในกฎหมายแรงงาน อนุญาตให้พนักงานผู้หญิงพักเพิ่ม 30 นาทีในช่วงที่เป็นประจำเดือน และในปี 2020 มีการเพิ่มกฎหมายให้สามารถลาระหว่างเป็นประจำเดือนได้ โดยสามารถลาได้ 3 วัน โดยมีเงื่อนไขว่า หากพนักงานคนไหนไม่ใช้สิทธินี้ จะได้รับค่าจ้างมากขึ้น

ประเทศแซมเบีย

เป็นประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกาที่ให้สิทธิผู้หญิงลาหยุดเดือนละ 1 วัน โดยไม่ต้องระบุสาเหตุหรือมีใบรับรองแพทย์

ประเทศสเปน

ถือว่าเป็นประเทศล่าสุดที่มีกฎหมายอนุญาตให้ลาระหว่างเป็นประจำเดือน อีกทั้งยังเป็นประเทศในยุโรปประเทศแรกที่มีการบังคับใช้กฎหมายนี้ ในปี 2023 มีกฎหมายระบุว่า พนักงานผู้หญิง สามารถลาระหว่างมีประจำเดือนได้ 3 วันต่อเดือน และสามารถลาเพิ่มเป็น 5 วันได้ หากมีอาการรุนแรง

สาวเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง 17 ชั่วโมงก่อนคลอด เผยกินยาคุม-เมนส์มาปกติทุกเดือน

สาวเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง 17 ชั่วโมงก่อนคลอด เผยกินยาคุม-เมนส์มาปกติทุกเดือน

สาวเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง 17 ชม. ก่อนคลอด เผยกินยาคุม เมนส์มาปกติ น้ำหนักขึ้นนิดหน่อย แพทย์เผยเป็น “การตั้งครรภ์แบบซ่อนเร้น”

รู้หรือไม่? มีประจำเดือนก่อนอายุ 10 ปี หรือหลัง 15 ปี ทำนายอนาคตสุขภาพได้ด้วย

รู้หรือไม่? มีประจำเดือนก่อนอายุ 10 ปี หรือหลัง 15 ปี ทำนายอนาคตสุขภาพได้ด้วย

งานวิจัยใหม่ เผย มีประจำเดือนก่อนอายุ 10 ปี หรือหลัง 15 ปี ส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว ทั้งน้ำหนักเกิน ไปจนถึงโรคหัวใจ

สาวน้อยวัย 15 เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เสียใจเพิกเฉย 3 สัญญาณเตือน เมื่อ 2 ปีก่อน

สาวน้อยวัย 15 เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เสียใจเพิกเฉย 3 สัญญาณเตือน เมื่อ 2 ปีก่อน

สาวน้อยวัย 15 เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนวัยอันควร เสียใจที่มองข้าม 3 สัญญาณเตือนเมื่อ 2 ปีก่อน