"รมช.อรรถกร" เชิญชวนพี่น้องเกษตรกรขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูล เพื่อรับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2567 พร้อมกล่าวว่า เพื่อให้เกษตรกรทั่วประเทศได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากภาครัฐ จากการนำข้อมูลทางการเกษตรมาประมวลผลและวิเคราะห์ให้เกิดข้อมูลสารสนเทศด้านการเกษตรในภาพรวมของประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย อาทิ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) สำนักงานสถิติแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (DGA) สมาคมประกันวินาศภัยไทย และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เป็นต้น ซึ่งความร่วมมือจากเกษตรกรและหน่วยงานดังกล่าว สามารถนำไปพัฒนาช่องทางตลาดและเศรษฐกิจให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น
"กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีภารกิจขับเคลื่อนนโยบายด้านการเกษตรสู่ความสำเร็จ ตามนโยบายตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ของรัฐบาล โดยมุ่งลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งโครงการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2567 จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรให้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการภาครัฐและได้รับความช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ อีกทั้งสามารถนำข้อมูลไปวางแผนการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป ซึ่งข้อมูลการลงทะเบียนฯ ทางภาครัฐจะนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปี" รมช.อรรถกร กล่าว
ปลัดเกษตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรทั้ง กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมหม่อนไหม การยางแห่งประเทศไทย และกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำมาบูรณาการใช้งานร่วมกัน เพื่อช่วยในการจัดสรรทรัพยากรทางเกษตรและสวัสดิการด้านการเกษตร รวมถึงใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนการพัฒนาการเกษตรและเศรษฐกิจด้านเกษตรในระยะยาวต่อไป
ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งสิ้น 17.9 ล้านราย แบ่งเป็น เกษตรกร จำนวน 6.9 ล้านครัวเรือน และสมาชิกครัวเรือน จำนวน 11 ล้านราย โดยในปี 2566 มีเกษตรกรปรับปรุงข้อมูลกิจกรรมการเกษตร จำนวน 6 ล้านครัวเรือน พื้นที่ 147 ล้านไร่ (นับพื้นที่แบบสะสม) กระทรวงเกษตรฯ จึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรไทยที่ทำการเพาะปลูกแล้ว 15 วัน แจ้งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทุกครั้งที่มีการเพาะปลูก ไม้ผลหรือไม้ยืนต้น ปลูกแล้ว 30 วัน หากยังยืนต้นให้แจ้งปรับปรุงข้อมูลทุกปีรอบการขึ้นทะเบียนให้ตรงตามความเป็นจริงและปัจจุบัน เพื่อรักษาสิทธิ์และโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยสามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช ณ สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือเกษตรกรดำเนินการด้วยตนเองทางระบบออนไลน์ ผ่านระบบ e-Form ที่เว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th และแอปพลิเคชัน Facebook