เนื้อหาในหมวด ข่าว

จินตนาการสุดสะพรึง! นี่คือ 10 สิ่งที่จะเกิดขึ้น หากว่า \

จินตนาการสุดสะพรึง! นี่คือ 10 สิ่งที่จะเกิดขึ้น หากว่า "โลกแบน" จริงๆ

เว็บไซต์ listverse นำเสนอเรื่องราวที่มนุษยชาติให้ความสนใจมาหลายร้อยปี นั่นก็คือ "โลกแบน"

สำหรับโลกแบนเป็นความคิดที่พูดถึงกันมาโดยตลอด มีทฤษฎีมากมายที่ชวนให้คนนั้นเชื่อว่าโลกเราแบนเหมือนแพนเค้ก แม้มันจะเป็นไอเดียที่ดูไร้สาระ แต่ถ้าสมมุติว่าโลกของเราใบนี้เกิด "แบน" ขึ้นมาจริงๆแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง? ชีวิตของเราจะแตกต่างไปจากเดิมแค่ไหน? และนี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าโลกมัน "แบน" จริงๆ

10. แรงดึงดูดจะค่อยๆดึงเราไปทางเหนือ
10
แรงดึงดูดจะไม่ดึงเราลงข้างล่างอีกต่อไป มันจะดึงเราไปยังศูนย์กลางของโลก ทำให้เราไม่ตกหล่นออกไปนอกโลก ทุกๆสิ่งจะถูกดึงเข้ากลางดวงดาว ฟังดูเหมือนเป็นระบบที่ดีเช่นเดียวกันกับโลกกลม ถึงแม้ว่าแรงดึงดูดนั้นทำงานไม่เหมือนเดิมก็ตาม

โลกที่แบนจะบางและกว้าง ซึ่งหมายถึงว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกแบนนั้นเป็นขั้วโลกเหนือ เราจะถูกดึงไปยังขั้วโลกเหนือเหมือนกับเราถูกดึงลงพื้น และถ้าคุณอยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือมากเท่าไหร่ คุณก็จะถูกดึงไปตรงกลางมากขึ้นเท่านั้นจนคุณไม่สามารถทนได้ น้ำจะถูกดึงออกไปจากมหาสมุทร ต้นไม้จะเอียง ไม่ตั้งตรงอีกต่อไป

9. ดวงอาทิตย์จะแผดเผาโลก
9
สมมติว่าเราผ่านเรื่องของแรงดึงดูดได้แล้วโดยอาจจะใส่ที่ยึดพื้นไว้ที่รองเท้าของเรา หรือสมมติว่าแรงดึงดูดยังคงดึงเราไปด้านล่างเหมือนเดิม ไม่ได้ดึงเราไปยังขั้วโลกเหนือก็ตาม เราก็ยังพบปัญหาอยู่ดี เพราะโลกแบนนั้นจะไม่มีสนามแม่เหล็ก โลกถูกปกป้องจากรังสีคอสมิกและรังสีดวงอาทิตย์โดยสนามแม่เหล็กและสนามพลังนั้นมีอยู่ได้เพราะโลกเราหมุนอยู่ตลอดเวลา

ถ้าโลกของเราหยุดหมุนจะทำให้เราขาดสนามพลังและทำให้เราถูกเผาโดยรังสีดวงอาทิตย์ มันจะฉีกชั้นโอโซนของเราออก และยิ่งกว่านั้น ชั้นบรรยากาศก็จะบางลงไปเรื่อยๆ จนมันหายไปอย่างสมบูรณ์แบบ มันจะทำให้เราเสี่ยงอย่างมากต่อดาวเคราะห์น้อยและอุกกาบาตที่อาจพุ่งเข้ามาชนโลกเรา จนมีสภาพเหมือนดวงจันทร์ในที่สุด

8. การนำทางทุกรูปแบบจะหยุดทำงาน
8
ผลจากโลกแบนจะทำให้โลกของเราไม่มีเนื้อโลก แกนโลก หรือ แม่เหล็กขั้วโลกเหนือ นั่นส่งผลให้เข็มทิศทั้งหมดหยุดทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าจะสร้างความลำบากให้กับมนุษย์พอสมมควร และมันจะแย่กว่ามากสำหรับพวกสัตว์ เช่น นกที่จำเป็นต้องใช้สนามแม่เหล็กในการนำทางการบิน

ส่วนดวงดาวบนท้องฟ้าก็ไม่สามารถใช้นำทางได้อีกต่อไป เพราะมันจะโคจรช้ามาก และไม่ว่าคุณจะอยู่ซีกโลกทางเหนือหรือทางใต้ ทุกอย่างจะเหมือนกันหมด ระบบ GPS จะหยุดทำงานเพราะดาวเทียมไม่สามารถลอยบนฟ้าได้ ดาวเทียมกว่า 1,300 ดวงจะไม่สามารถโคจรต่อไปได้เมื่อไร้แรงโน้มถ่วงและพวกมันก็จะตกลงบนหัวพวกเรานั่นเอง

7. คุณจะเห็นได้ไกลมากๆ
7
ไม่ใช่จะมีแค่เรื่องไม่ดีเท่านั้น ในการที่โลกแบนเรายังจะได้รับสิ่งพิเศษบางอย่างด้วย นั้นคือ คุณจะเห็นได้ไกลข้ามครึ่งประเทศได้ สายตาของเรานั้นแข็งแรงกว่าที่ควรจะเป็นมากนัก การที่เราเห็นสิ่งไม่ไกลนักก็เพราะโลกนั้นมีความโค้งจนหลุดสายตาของเราไปหลังจากผ่านช่วงประมาณ 5 กิโลเมตร ถ้าโลกไม่โค้งเราจะสามารถเห็นสิ่งต่างๆได้ไกลกว่าเดิม

คุณอาจจะเห็นได้ไกลจนสุดเส้นขอบฟ้าได้เมื่อคุณมองจากหน้าต่างของเครื่องบิน และแน่นอนว่ารายละเอียดอาจจะคลุมเครือ แต่คุณจะไม่พลาดแสงจากเมืองที่ห่างไปหลายร้อยกิโลเมตรอย่างแน่นอน

6. แผ่นเปลือกโลกจะหยุดการเคลื่อนที่
6
แผ่นเปลือกโลกของเรานั้นไม่ใช่ชิ้นส่วนของจิ๊กซอว์ พวกมันโค้งเข้าหากันเพื่อเชื่อมต่อโลกเข้าด้วยกัน และมันทำงานในแบบทรงกลมเท่านั้น ทุกๆครั้งที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่มันจะมีปฏิกิริยาต่อกันกับอีกด้านของโลก ถ้าโลกเราแบนราบนั้นหมายถึงมันจะไม่ทำงานในแบบนี้

จากการคาดเดา แผ่นเปลือกโลกจะหยุดเคลื่อนที่ ซึ่งนั่นเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว ถ้าโลกเราไม่มีแผ่นเปลือกโลกยกระดับ เราก็จะไม่มีภูเขาหรือหุบเขาอีกเลย โลกจะแบนราบไปหมด และจะไม่มีมหาสมุทร เราจะมีเพียงแค่สระน้ำที่มีระดับเท่ากันทั่วโลก

หรือสมมติว่าถ้าเรามีภูเขาบนโลกแบนๆ แต่ภูเขาไฟเองก็จะไม่ปะทุ และนั่นอาจเป็นปัญหาใหญ่ของเรา เพราะภูเขาไฟเองคือเหตุผลที่ทำให้ชั้นบรรยากาศของเรามีออกซิเจน สรุปก็คือ โลกแบนอาจทำให้เราหายใจได้ลำบากขึ้นอีกด้วย

5. การข้ามทวีปแอนตาร์กติกานั้นเป็นไปไม่ได้
5
เมื่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกนั้นแบนราบ ทวีปแอนตาร์กติกาหรือขั้วโลกใต้ก็จะไปอยู่ที่ขอบโลก นั่นทำให้โลกเราถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงน้ำแข็งขนาดยักษ์ที่กั้นน้ำไม่ให้ตกไปนอกโลก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ไม่มีใครสามารถเดินทางข้ามทวีปแอนตาร์กติกาได้แถมแผ่นน้ำแข็งยังจะเปราะบางอีกต่างหาก

และถ้าแผ่นเปลือกโลกนั้นไม่ทำงาน เราต้องยอมรับว่ามีปาฏิหาริย์ที่ทำให้เกิดกำแพงน้ำแข็งขึ้นมา มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นที่กำแพงน้ำแข็งเหล่านั้นจะพังลงมา ซึ่งทำให้น้ำไหลออกนอกโลก และนั้นทำให้ถึงจุดสิ้นสุดของโลก

4. ไม่มีฤดูกาลอีกต่อไป
4
ถ้าคุณเกลียดหน้าหนาวมันคงดีถ้าโลกแบน เพราะเราจะไม่มีฤดูใดๆอีกต่อไป ตอนที่โลกกลม เรามีฤดูเพราะการเอียงตามแกนโลก ทำให้เรามีหน้าร้อนที่ซีกโลกเหนือ ในขณะที่มีหน้าหนาวทางตอนใต้ เมื่อโลกแบนการเอียงก็จะไม่มีผลโดยเฉพาะขั้วโลกเหนือที่อยู่ตรงกลาง ทั่วทั้งโลกจะคงฤดูกาลเดียวไว้มันส่งผลอย่างมากกว่าที่คุณคิดมันจะไม่มีความแตกต่างในสภาพอากาศทั่วโลก จุลินทรีย์และสัตว์จะเดินทางไปทั่วโลกเมื่อเกิดโรคระบาดในที่นึง มันจะแพร่ไปยังที่อื่นทันที และเร็วมากกว่าที่เราคิดไว้

3. จะไม่มีฝนตกอีกต่อไป
3
ถ้าโลกแบน ลมก็จะพัดไปในสองทิศทางเท่านั้นคือทางเหนือและใต้ ซึ่งนั่นจะทำให้เกิดภัยพิบัติใหญ่บางอย่าง การหมุนของโลกเราทำให้ลมและมหาสมุทรนั้นเคลื่อนที่จากตะวันออกไปตะวันตก ถ้าโลกหยุดหมุน ลมก็หยุดพัด พายุบนโลกใบนี้หยุดลง มันไม่ใช่สิ่งดีเลยนั้นเพราะจะหยุดระบบของการสร้างฝนจากท้องฟ้าไปความแห้งแล้งจะเกิดขึ้นตลอดเวลา พื้นที่บริเวณชายฝั่งอาจดีกว่าพื้นที่ที่ไม่ติดชายฝั่ง และทุกพื้นที่บนโลกนี้จะเริ่มกลายเป็นทะเลทรายที่เวิ้งว้าง

2. ดวงอาทิตย์อาจจะพุ่งชนโลก
2
เมื่อโลกกลม การผสานกันของแรงดึงดูดและการเคลื่อนที่ทำให้เราโคจรรอบดวงอาทิตย์ เมื่อโลกแบน เราจะไม่เคลื่อนที่ไปไหน เราจะหยุดอยู่กับที่ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่พร้อมจะดึงเราไปหาเสมอ

คนที่เชื่อว่าโลกแบนมีความเชื่อแค่ว่าของจะร่วงหล่นตามปกติเพราะแรงดึงดูดจะเหมือนเดิม และดวงอาทิตย์คือลูกบอลลูกเล็กๆที่อยู่ห่างออกไป 6,400 กิโลเมตรเท่านั้น และถ้าเป็นแบบนั้นจริง ปัญหาการถูกดึงไปหาดวงอาทิตย์คงไม่เกิดขึ้น แต่ปัญหาใหญ่กว่าก็คือ ดวงอาทิตย์จะเป็นฝ่ายมาหาเราแทน รวมถึงดวงดาว ดวงจันทร์ และทุกสิ่งที่อยู่ในอวกาศ นั่นเป็นเพราะกฏแห่งแรงโน้มถ่วงนั่นเอง

1. มันจะเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
1
สุดท้าย ถ้าโลกของเราใบนี้เกิดแบนขึ้นมาจริงๆ เราก็ยังพบปัญหาใหญ่อยู่ดี นั้นคือการยากที่จะเชื่อใจใครได้บนดาวนี้ เพราะโลกกลมจะกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลแทน

ทฤษฎีสมคบคิดเรื่องโลกแบนได้กล่าวไว้ว่า โลกกลมคือแผนปั่นหัวชาวโลกของทาง NASA แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้ว่า มีผู้คนบนโลกมากมายที่เคยมีส่วนร่วมกับการพิสูจน์โลกกลมมาแล้ว ไม่ใช่แค่สมาชิกของ NASA แต่หลายคนบนโลกนี้ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับอวกาศ หรือการพิสูจน์ทวีปแอนตาร์กติกามาแล้วมากมาย

รู้หรือไม่ว่า จำนวนผู้ที่มีส่วนร่วมกับโครงการอะพอลโลทั้งหมดนั้นมีมากถึง 400,000 คน หรือจะเป็นหน่วยงานอวกาศของรัสเซียและยุโรป ก็มีผู้คนอีกไม่น้อยที่มีส่วนร่วมกับโครงการอวกาศมมาตลอด 60 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนั้น ยังมีวัตถุอีกกว่า 8,000 ชิ้นที่ถูกส่งขึ้นไประเบิดในอวกาศจากผู้คนและกลุ่มคนที่แตกต่างกัน นั่นรวมไปถึง อดัม คัดเวิร์ต เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่ส่งกล้องราคา 50 เหรียญขึ้นไปสู่อวกาศเพื่อถ่ายเส้นโค้งของขอบโลกในปี 2012

ย้อนกลับมาว่า "ถ้าหากโลกแบน" ผู้คนเหล่านี้จะกลายเป็นคนโกหก หลักสูตรทั้งหมดในโรงเรียนจะเป็นเรื่องโกหก ผู้คนนับพันล้านคนจะถูกหลอก แล้วเราจะยังเชื่อใจใครได้อีกต่อไป? นี่อาจเป็นปัญหาที่แย่ยิ่งกว่าการถูกชนด้วยดวงอาทิตย์ก็เป็นได้

หนุ่มอินฟลูฯ วัย 32 บ่นปวดหัวระหว่างไลฟ์ ผ่านไปไม่กี่วันดับสลด ลูก 4 คนกำพร้าพ่อ

หนุ่มอินฟลูฯ วัย 32 บ่นปวดหัวระหว่างไลฟ์ ผ่านไปไม่กี่วันดับสลด ลูก 4 คนกำพร้าพ่อ

อินฟลูฯ หนุ่มวัย 32 ผู้ติดตามเป็นล้าน บ่นปวดหัวระหว่างไลฟ์ ผ่านไปไม่กี่วันเสียชีวิตด้วยสาเหตุสุดช็อก ลูก 4 คนกำพร้าพ่อ

จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าทำ \

จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าทำ "โทรศัพท์" ตกโถส้วมบนเครื่องบิน แอร์โฮสเตสมาเฉลยเอง

แอร์โฮสเตสเล่าประสบการณ์ ทำ "โทรศัพท์" หล่นลงโถส้วมบนเครื่องบิน แล้วเผลอกดชักโครก จะเกิดอะไรขึ้น? มีทั้งข้าวดี และข่าวร้าย

อ่านไม่ผิด ชายเป็นชู้กับหญิงวัย 80 ปี รับรู้สึกผิดกับภรรยา แต่ไม่สามารถหลุดพ้นได้

อ่านไม่ผิด ชายเป็นชู้กับหญิงวัย 80 ปี รับรู้สึกผิดกับภรรยา แต่ไม่สามารถหลุดพ้นได้

ทุกอย่างมันเกิดควบคุมแล้ว! ชายวัยเกิน 50 สารภาพบาป เป็นชู้กับหญิงวัย 80 ปี รู้สึกผิดกับภรรยา แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

แม่จ้างคนมาสังหารลูกสาวแท้ๆ แต่กลายเป็นตัวเองที่ถูกฆ่า เผยเบื้องลึกของคดียิ่งอึ้ง

แม่จ้างคนมาสังหารลูกสาวแท้ๆ แต่กลายเป็นตัวเองที่ถูกฆ่า เผยเบื้องลึกของคดียิ่งอึ้ง

ลูกสาววัย 17 คบหากับชายที่มีประวัติติดคุก 10 ปี ห้ามก็ไม่ฟัง แม่ตัดสินใจจ้างคนมาสังหารลูกสาว แต่สุดท้ายคดีพลิก กลายเป็นตัวเองที่ถูกฆาตกรรม

ดารา AV สุดเฟล! หลังชวน FC มาถ่ายหนังหมู่ เผยเรื่องที่มีแค่ 1 ใน 10 ที่ทำได้

ดารา AV สุดเฟล! หลังชวน FC มาถ่ายหนังหมู่ เผยเรื่องที่มีแค่ 1 ใน 10 ที่ทำได้

นักแสดง AV อันดับ 1 ของไต้หวัน ชวนแฟนคลับมาถ่ายคลิปหมู่ สุดท้ายถ่ายทำไม่สำเร็จ ฟังเหตุผลจากอีกฝ่ายยิ่งงงหนัก