DITP จัดงาน “Thai Music Meetup–Gan Bei” กวาดมูลค่ากว่า 763 ล้านบาท
DITP จัดงาน “Thai Music Meetup–Gan Bei” ณ ไทเป ประเทศไต้หวัน จุดประกายเครือข่ายดนตรีไทย-ไต้หวัน กวาดมูลค่ากว่า 763 ล้านบาท
นายทวีป ราชาภักดี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและส่งเสริมธุรกิจ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นประธานการเปิดงาน พร้อมกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานโดยเน้นย้ำว่า ดนตรีคือภาษาสากลที่ไม่ต้องการล่าม แต่สามารถเชื่อมโยงผู้คนต่างวัฒนธรรมให้เข้าใจกันได้ DITP ไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดงาน แต่ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทีม คอยหนุนหลังและเปิดประตูเชื่อมต่อพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อผลักดันดนตรีไทยให้เป็นทั้งงานศิลปะและพลังเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่สามารถสร้างโอกาสทางการค้าได้จริง

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก โดยมีผู้เข้าร่วมงานทั้งแขกทั่วไปกว่า 120 ราย และแขกผู้มีเกียรติ (VIP Guest) กว่า 30 ราย ตลอดจนถึงสื่อไต้หวันเข้ามาร่วมเก็บบรรยากาศภายในงาน สำหรับไฮไลท์สำคัญคือ กิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างตัวแทนค่ายเพลงไทยและผู้ประกอบการดนตรีไต้หวัน ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสความร่วมมือและการขยายเครือข่ายทางธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม

จากความสำเร็จด้านการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) มีผู้ประกอบการไทย 12 ราย และผู้ประกอบการไต้หวัน 162 ราย รวม 163 คู่เจรจา มูลค่ารวมสูงถึง 763.05 ล้านบาท โดยสรุปผลดังนี้


ผลการซื้อ-ขายทันที: 8.52 ล้านบาท คาดหวังมูลค่าซื้อ-ขายภายใน 1 ปี 218.33 ล้านบาท และคาดหวังมูลค่าซื้อ-ขายภายใน 2-5 ปี 536.2 ล้านบาท เฉพาะอุตสาหกรรมดนตรี ยังไม่รวมอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยว สื่อและความบันเทิง เป็นต้น เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการไทยชี้ว่า กิจกรรมนี้ช่วยสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและควรจัดอย่างต่อเนื่อง โดยเสนอขยายไปยัง ญี่ปุ่นและเกาหลี ขณะที่ผู้ประกอบการไต้หวันยืนยันว่าเห็นศักยภาพดนตรีไทยชัดเจน และมีแนวโน้มร่วมลงทุนจริงใน 1–3 ปี


ซึ่งนอกจากความสำเร็จด้านธุรกิจแล้ว ในด้านเวทีการแสดง ศิลปินไทยได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากแฟนเพลงไต้หวัน ที่เข้าร่วมชมการแสดงอย่างล้นหลาม เรียกว่าศิลปินไทยได้รับเสียงเชียร์และการต้อนรับอย่างดียิ่ง สะท้อนถึงพลังของดนตรีที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนได้แม้จะต่างภาษา โดยตลอดค่ำคืนบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและสร้างสรรค์
.jpg)

เปิดเวทีด้วย STGZ หรือ Stargazer 2 ศิลปิน ที่นำวัฒนธรรมไทยมาตีความในรูปแบบร่วมสมัยแนวดนตรี Electronic ผสานผสมดนตรีพื้นบ้านอีสาน โดยใช้เครื่องดนตรีพิณเพื่อสร้างเสียงที่แปลกใหม่และสะท้อนการเชื่อมต่อระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับยุคดิจิทัล ตามด้วย UNTRYMAEW (อันตรายแมว) ที่มาพร้อมพลังดนตรีสุดมันป็นวงดนตรีแนวเน้นการผสมเสียงสังเคราะห์และบรรยากาศแปลกใหม่ไม่ยึดติดกรอบแนวเพลงแบบดั้งเดิม

มาถึงวงที่ทุกคนรอคอย H3F ศิลปินรุ่นใหม่ที่ไต่อันดับขึ้นสู่เวทีสากลที่มีสไตล์ผสมผสาน Funk, R&B, Soul และ Pop ในแบบ ที่เป็นเอกลักษณ์ ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ และเคยมีทัวร์ในหลายประเทศในเอเชียการมาเล่นที่ไต้หวันครั้งนี้จึงสะท้อนถึงกระแสตอบรับที่ขยายตัวในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

ก่อนจะปิดท้ายด้วยการแสดงจากวง SEIZER ศิลปินไต้หวันสาย Indie Rock/Alternative ที่ได้รับการสนับสนุนจาก TAICCA วงที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังงานล้นเวที เพลงมีจังหวะเร้าใจจนผู้ชมต้องลุกขึ้นมาโดดและเต้นตาม สร้างความคึกคักและสนุกสนานอย่างเต็มที่
สำหรับชื่องาน “Gan Bei” มีความหมายว่า “ชนแก้วให้สุด ดื่มให้หมด” สื่อถึงการทุ่มเทเต็มพลังของศิลปินทุกคนในทุกโน้ต ทุกท่อนเพลง เพื่อส่งต่อความจริงใจและเชื่อมโยงหัวใจของผู้ฟัง งานในครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นคอนเสิร์ต แต่คือก้าวสำคัญของการต่อยอด Soft Power ดนตรีไทยสู่ระดับนานาชาติ
