รู้ข่าวภรรยาเก่า แต่งงานใหม่กับ "คนพิการ" แอบตามไปเย้ย สุดท้ายหน้าชา เสียทั้งเมีย-ลูก
มีคำพูดที่ว่าความผิดพลาดไม่น่ากลัว การรู้ว่าทำผิดแต่ไม่เต็มใจที่จะแก้ไขนั้นต่างหากที่น่ากลัว ดังเช่นเรื่องราวที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ soha ชายคนหนึ่งที่ทำผิดพลาดมากมาย และราคาที่เขาต้องจ่ายชดเชยให้กับการกระทำของตนเองนั้นคือ ภรรยา ลูกๆ และครอบครัว เมื่อมองย้อนกลับไปแม้แต่ตัวเองก็ยังรู้สึกว่า สมควรแล้ว...
นายหวัง (นามสมมุติ) เล่าว่า เขาแต่งงานตั้งแต่ตอนอายุ 17 ปี เธอเป็นผู้หญิงที่ทำงานหนัก เอาใจใส่ และเสียสละเพื่อครอบครัวเสมอ แต่ไม่รู้เพราะอยู่ด้วยกันมานานหรือไม่ ทำให้เขาเกิดความรู้สึก "เบื่อภรรยา" หลังจากที่เธอให้กำเนิดลูกคนที่ 2 เขาก็เริ่มมองเห็นความแตกแยกระหว่างสามีและภรรยามากมาย ทุกวันเขากลับบ้านจากที่ทำงานด้วยความเหนื่อยล้า ประกอบกับความกดดันจากลูกๆ และครอบครัว ทำให้รู้สึกหงุดหงิดอยู่เสมอ
ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ นายหวังพบผู้หญิงคนใหม่ๆ แอบมีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ นอกบ้าน แต่มองว่าเป็นความบันเทิงภายนอก เพราะไม่มีความคิดที่จะเลิกรากับภรรยา แต่ความลับไม่สามารถเป็นความลับตลอดไป เมื่อวันที่ภรรยารู้เรื่องเข้า เธอตัดสินใจที่จะหย่าร้าง และเลี้ยงลูกทั้งสองคนด้วยตัวเอง เพราะมองว่าเขา "ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นพ่อคน" สิ่งนี้ทำให้เขาโกรธและควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงชี้หน้าเธอและประกาศว่า "ฉันจะคอยดูว่าเธอเลี้ยงลูกสองคนอย่างไรเมื่อไม่มีฉัน"
อย่างไรก็ดี หลังจากแยกทางกัน เขายังคงส่งเงินค่าเลี้ยงดูบุตรให้ แต่บางทีก็ไม่ได้ส่ง มีชีวิตที่อิสระ ไร้ข้อจำกัด ไร้ปัญหา กินดื่มอย่างหนุ่มโสด และค่อยๆ ลืมไปว่าเคยมีลูก2คน มีความสุขกับอิสรภาพนี้อย่างสบายใจ เพราะเป็นอิสรภาพที่คนที่แต่งงานเร็วอย่างเขาแทบไม่เคยมี
อดีตภรรยาก็แต่งงานกะทันหัน
ชีวิตหนุ่มโสดผ่านมา 2 ปี มีครั้งหนึ่งขณะที่ไปเยี่ยมลูกๆ เขาได้พบกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งซึ่งดูสนิทสนมกับอดีตภรรยาอย่างมาก เมื่อถามลูกจึงได้รู้ว่าเขาคือ "เจ้านายของแม่" ในตอนนั้นนายหวังยังคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่จริงจังกับความสัมพันธ์ เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนจะมาจีบแม่เลี้ยงเดี่ยว ที่มีลูกติดถึงสองคน
ต่อมาเนื่องจากเขามีปัญหาในการทำงาน มีหนี้ ต้องรีบย้ายไปอยู่ชานเมือง ตั้งแต่นั้นมาก็ไปเจอลูกและอดีตภรรยาน้อยลง อีกทั้งเนื่องจากถูกบล็อกฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงแทบไม่ได้ทราบข่าวคราวของอีกฝ่ายเลยตั้งแต่ย้ายบ้าน
กระทั่งได้ทราบข่าวจากเพื่อนว่าอดีตภรรยาของเขากำลังจะแต่งงานกับชายที่ต้องใส่ "ขาเทียม" ในตอนนั้นเขาเพียงแค่ยิ้มเยาะ เพราะเธอทิ้งเขาไปแล้วกลับต้องพบคู่ชีวิตคนใหม่ที่เป็นชายพิการ และความอยากรู้อยากเห็นเป็นแรงผลักดันให้เขาแอบมาส่องงานแต่งอดีตภรรยา และก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่าเจ้าบ่าวคือเจ้านายของอดีตภรรยาที่เขาเคยพบมาแล้วครั้งหนึ่ง แท้จริงแล้วทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่จริงใจและจริงจังต่อกัน
จากการลองสอบถามคนอื่นๆ นายหวังถึงรู้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเจ้าบ่าวนั้น นอกจากจะมีหน้าที่การงานที่มั่นคงแล้ว ยังเป็นคนที่ดีต่อภรรยา และลูกๆ ของภรรยามากแค่ไหน ในตอนนี้เองที่เขาเพิ่งเข้าใจความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของตนเอง คือการปล่อยให้ลูกๆ เรียกคนอื่นว่า "พ่อ" สูญเสียครอบครัว และปล่อยความสุขหลุดมือไปโดยไม่รู้ตัว