ผัววีนเดือด ผล DNA ชี้เลี้ยงลูกคนอื่น แต่เฉลยความจริง "แม่ผัว" ถึงกับยกบ้านให้สะใภ้!!!
สาวปวดหัวใจ สามีแอบพาลูกไปตรวจ DNA ผลออกมาทำบ้านแตก ไม่มีสายเลือดเดียวกัน แต่งานนี้ "แม่ผัว" เป็นฮีโร่ แก้ปัญหาถูกจุด แถมให้เงินปลอบขวัญสะใภ้อีก 4 ล้าน!
เรื่องราวของ "คุณหลี่" ผู้หญิงอายุ 29 ปี ที่ได้แบ่งปันชีวิตครอบครัวของตนเองลงบน NetEase ได้รับความสนใจอย่างมากจากชุมชนออนไลน์ในประเทศจีน โดยเธอเล่าว่า ตนเองเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวแบบดั้งเดิม หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ตัดสินใจกลับบ้านเกิดและทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่นี่เองที่ทำให้เธอได้พบกับสามี
ในตอนนั้นเธออายุ 23 ปี ส่วนฝ่ายชายอายุ 29 ปี หลังจากทำงานร่วมกันก็ค่อยๆ พัฒนาความรู้สึก ข้อดีอีกประการหนึ่งคือพ่อของเธอเคยรู้จักกับพ่อแม่ของแฟนหนุ่ม ดังนั้น หลังจากคบกันนานกว่า 2 ปี ทั้งสองครอบครัวนัดพบกันอย่างพร้อมหน้าเพื่อคุยเรื่องแต่งงาน ทำให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตคู่ตั้งแต่อายุยังไม่มาก
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี เธอและสามีได้ต้อนรับลูกชายคนแรก ด้วยความชื่นมื่นจากทั้งสองฝ่ายในครอบครัว เดิมทีเธอคิดว่าชีวิตแต่งงานคงถูกเติมเต็มมากขึ้นนับจากนี้ แต่เหตุการณ์ต่างๆ ที่ตามมากลับทำให้ชีวิตคู่ของเธอต้องพลิกผัน...
เนื่องจากพ่อแม่ของเธออายุมากแล้ว และไม่สามารถช่วยเลี้ยงดูหลายได้ สามีจึงสนับสนุนให้เธอหยุดพักเรื่องการทำงานไปก่อน เพื่ออยู่บ้านดูแลลูกในช่วงปีแรกๆ เขายังบอกอีกว่างานของเขาไม่ได้ลำบาก อีกทั้งเงินเดือนก็ดีมากด้วย ดังนั้น จึงสามารถดูแลทั้งครอบครัวได้เป็นอย่างดี เมื่อได้ยินสามีพูดแบบนั้น เธอก็ค่อนข้างสบายใจและตัดสินใจทำหน้าที่แม่บ้านเต็มเวลา
เวลาผ่านไปเช่นนั้น ลูกชายก็เติบโตขึ้นมาอย่างมีชีวิตชีวาและร่าเริง ทำให้ใครเห็นก็ต่างพากันตกหลุมรัก สิ่งเดียวที่ทำให้สามีของเธอไม่สบายใจก็คือ ยิ่งลูกอายุมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งดูเหมือนพ่อน้อยลงเท่านั้น ความสงสัยเช่นนั้นค่อยๆ ปรากฏขึ้นทำให้ผู้เป็นพ่อรู้สึกไม่มั่นคง
แอบพาลูกไปตรวจ DNA คาใจยิ่งโตยิ่งไม่เหมือนพ่อ
กระทั่งวันหนึ่งที่ลูกพลาดหกล้ม เนื่องจากกลัวว่าศีรษะของเด็กจะได้รับความกระทบกระเทือน เธอและสามีจึงพาลูกไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เมื่อเห็นโอกาสสามีจึงแอบพาลูกไปเก็บตัวอย่างตรวจ DNA เมื่อทราบเรื่องเธอก็ตกใจและโกรธมาก แต่เมื่อผลตรวจออกมากลับตกใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะผลแจ้งไว้ชัดเจนว่าสามีและลูกชาย "ไม่มีความสัมพันธ์แบบพ่อลูก"
ทันใดนั้นสามีก็กลายเป็นคนไร้ซึ่งเหตุผล กล่าวสาปแช่งเสียงดัง ขับไล่ภรรยาและลูกชายออกจากบ้าน พูดอย่างขุ่นเคืองว่า "ผมพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลพวกคุณมาหลายปีแล้ว ไม่คิดว่าจะกลายเป็นการเลี้ยงลูกคนอื่น'"
การกระทำนี้ของสามีทำให้เธอโกรธมากเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะพยายามอธิบายเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่รับฟัง สุดท้ายเธอกับลูกชายก็ถูกไล่ออกจากบ้าน แต่ในระหว่างที่ยืนร้องไห้อย่างไร้ที่ไปอยู่บริเวณล็อบบี้ของอพาร์ตเมนต์ แม่สามีก็เข้ามาหาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น โชคดีที่เธอมีแม่สามีที่รอบคอบและเข้าใจ แนะนำให้เธอสงบสติอารมณ์และเล่าทุกอย่างให้ฟัง
หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดอย่างชัดเจน แม่สามีที่เคยทำงานอยู่ในโรงพยาบาล ก็อาศัยความสัมพันธ์อันดีเพื่อนัดหมายกับแพทย์ตรวจ DNA ที่เก่งที่สุดในเมือง ในเวลาเดียวกันก็ปลอบโยนลูกสะใภ้ด้วยคำพูดว่า"อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการตรวจ DNA" จากนั้นก็เป็นคนไปเสนอให้ลูกชายตรวจ DNA อีกครั้ง
แม้ว่าสามีของเธอจะไม่อยากทำตามคำพูดของแม่ แต่เพราะเขาเคารพมารดาผู้ให้กำเนิดมากพอ ดังนั้น จึงยอมเข้ารับการตรวจอีกครั้ง แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ยังคงออกมาเหมือนเดิม ครั้งนี้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป ถึงขนาดโทรไปว่ากล่าวพ่อแม่ของภรรยา โดยกล่าวหาว่าเลี้ยงลูกสาวมาไม่ดี ในเวลานี้แม่สามีต้องพยายามเข้าโน้มน้าวหลายต่อหลายครั้งให้ใจเย็น และสุดท้ายก็ขอเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง
บิดาผู้ให้กำเนิด แต่ไม่ใช่บิดาผู้ให้กำเนิด?
คุณหลี่ยังบอกด้วยว่า แม้ว่าเธอจะสาบานด้วยชีวิตและความตายว่าจะไม่ทรยศสามี แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะเชื่อ และครอบครัวของเธอคงจะแตกสลายไปจริงๆ ถ้าไม่มีแม่สามีที่ดี เพราะเธอได้บังคับลูกชายให้ตรวจ DNA ครั้งที่ 3 ซึ่งครั้งนี้วิธีการจึงแตกต่างจากครั้งก่อน หากสองครั้งก่อนหน้านี้เก็บตัวอย่างเส้นผมเพียงอย่างเดียว ครั้งนี้จะมีการนำตัวอย่างเลือดและอสุจิไปทดสอบด้วย
ผลครั้งที่สามพบว่า "เขาเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดของลูกชาย แต่ DNA ของพวกเขาไม่เหมือนกัน"
แพทย์อธิบายเรื่องนี้ว่า เป็นผลมาจากปรากฏการณ์ไคเมียรา (Chimera) หรือปรากฏการณ์สองดีเอ็นเอในร่างเดียว เนื่องจากในตอนที่แม่สามีตั้งครรภ์นั้น มี 2 ตัวอ่อน ควรจะให้กำเนิดลูกสองคนที่มีโครงสร้างทางพันธุกรรมต่างกัน แต่โดยบังเอิญไซโกตทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่งเดียว และให้กำเนิดลูกเพียงคนเดียว ดังนั้นทารกจึงเกิดมาพร้อมกับโครงสร้างทางพันธุกรรมที่แตกต่างกันสองแบบในร่างกายเดียว
จึงเป็นเหตุผลว่าเมื่อสามีของเธอ นำตัวอย่างของเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย มาทำการทดสอบ DNA กับลูกชายแท้ๆ ผลลัพธ์ที่ได้จึงแตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นพ่อลูกที่มียีนเดียวกันก็ตาม คำอธิบายง่ายๆ ก็คือ ลูกชายยังคงเป็นลูกชายแท้ๆ ของเขา แต่กลับมีพันธุกรรมที่ตรงตามลุงชายแท้ๆ ซึ่งเป็นทารกที่ถูก "กลืน" ขณะอยู่ในครรภ์มารดา
ในที่สุดทุกอย่างก็ชัดเจนเมื่อความจริงถูกเปิดเผย ในเวลานี้ผู้เป็นทั้งสามีและพ่อ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งดีใจและเสียใจ เขาคุกเข่าลงเพื่อขอโทษภรรยา ส่วนพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็โล่งใจเช่นกันเพราะ "ความทุกข์ยาก" ของครอบครัวจบลงแล้ว แม่สามีถึงกับโอนบ้านในเขตชานเมือง มูลค่ามากกว่า 8.5 แสนหยวน (ประมาณ 4 ล้านบาท) ให้กับลูกสะใภ้เพื่อเป็น "เงินขวัญถุง" อย่างมีความสุข ตอนแรกเธอไม่กล้ารับไว้ แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้
ท้ายที่สุดของเรื่องราวในครั้งนี้ คุณหลี่บอกว่ายังคงรู้สึกขอบคุณแม่สามีจริงๆ เพราะหากไม่ได้ช่วยไว้ เธอคงต้องไปที่ศาลเพื่อหย่าร้าง และชีวิตครอบครัวที่สงบสุขคงพังลงไม่เหลือชิ้นดี