หลาน 6 ขวบ กรีดร้องสยอง "ไฟไหม้ตัว" เผาจนชุดขาด แต่ปฏิกิริยา "ยาย" ทำชาวบ้านโกรธ!
เด็กชาย 6 ขวบ เล่นซนจน "ไฟไหม้ตัว" กรีดร้องสยอง เสื้อผ้าขาดวิ่น ช็อกซ้ำปฏิกิริยา "ยาย" ชาวบ้านเห็นแล้วโกรธ
ความซุกซนเป็นธรรมชาติของเด็ก และมันเหมือนกับดาบสองคม ในด้านหนึ่งสามารถช่วยให้เด็กพัฒนาความอยากรู้อยากเห็นและการสำรวจได้ แต่หากพวกเขาก้าวข้ามขอบเขตที่ปลอดภัย ก็อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บร้ายแรง ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้มีให้เห็นเป็นอุทาหรณ์อยู่บ่อยครั้ง
ดังเช่นกรณีเมื่อต้นเดือนกันยายนนี้เอง เหตุการณ์ที่กลายเป็นประเด็นในโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน คลิปวิดิโอจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งในมณฑลกวางตุ้ง บันทึกภาพนาทีระทึกซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก เมื่อเด็กชายวัย 6 ขวบ เล่นซนอยู่ใกล้เตาในครัวตามลำพัง ก่อนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นและไฟไหม้อย่างรุนแรง จนเปลวไฟลุกลามไปติดที่แขนขวาของเขา
เด็กชายที่หวาดกลัวรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งไปที่ถังเก็บน้ำที่อยู่ใกล้ๆ จุ่มแขนเข้าไปในถังเพื่อพยายามดับไฟ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่เป็นผลดีนัก ความเจ็บปวดจากไฟไหม้ทำให้เด็กกรีดร้องเสียงดังเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ในเวลานั้นกลับไม่มีใครตอบสนองต่อเสียงร้องของเขาเลย นาทีชีวิตเช่นนี้เด็กชายวิ่งวุ่นพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยตัวเอง กระทั่งในที่สุดก็สามารถดับไฟที่แขนของเขาได้
หลังจากสามารถดับไฟได้แล้ว เด็ก 6 ขวบที่อยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างหนัก ร่างกายยังคงสั่นเทา และร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด หลายคนคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ ครอบครัวต้องรับทราบเหตุการณ์และรีบพาเด็กไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่มีใครคาดคิด...
ทันทีที่ยายของเด็กชายรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกไม่ใช่การถามถึงสถานการณ์ใดๆ แต่คือการดุด่าและตีหลานชายที่ซุกซน ก่อนวิ่งเข้าไปเช็กในครัวเสียอีก ทางด้านเด็กชายหลังถูกลงโทษที่ทำไฟไหม้ ก็พยายามลุกขึ้นและวิ่งร้องไห้ไปที่ประตูบ้าน ในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเสื้อผ้าของเขาถูกเผาขาดเป็นชิ้นๆ
แม้ว่าปฏิกิริยาของคุณยายอาจจะเกิดจากความตกใจ แต่เมื่อภาพเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ลงโลกออนไลน์ ก็สร้างความสะเทือนใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ชาวเน็ตต่างรู้สึกไม่พอใจในปฏิกิริยาของคุณยาย ที่ไม่สนใจหลานชายซึ่งกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายแรง ท้ายที่สุดแล้ว แม้จะเป็นความผิดของเด็กที่ซุกซนและก่อปัญหา แต่เมื่อความผิดพลาดได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ผู้ใหญ่ควรทำคือป้องกันอันตรายและพาเด็กไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด แทนที่จะดุด่าหรือให้บทเรียน ซึ่งอาจทำให้พลาดขั้นตอนการรักษาที่ดีที่สุดไป
ทั้งนี้ ตามรายงานระบุว่า ท้ายที่สุดเด็กก็ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ด้วยอาการ "บาดแผลไหม้อย่างรุนแรง" ต้องพักรักษาตัวในห้องดูแลพิเศษ เคสนี้อันตรายจนอีกเพียงเล็กน้อยอาจถึงแก่ชีวิต ราวกับยืนอยู่บนขอบเหวระหว่างชีวิตกับความตาย โดยผู้เชี่ยวชาญและกุมารแพทย์ ระบุย้ำว่า สถานการณ์ที่เด็กเล็กถูกไฟไหม้ ถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและถูกต้อง