ถึงขั้นเลิกกัน?! รับไม่ได้เห็นวิธี "กินเฟรนช์ฟรายส์" ของแฟนหนุ่ม อึ้งหลายคนทำเป็นปกติ
สาวรับไม่ได้เห็นวิธี "กินเฟรนช์ฟรายส์" ของแฟนหนุ่ม เรื่องนี้จริงจังถึงขั้นเสี่ยงเลิกรา อึ้งหลายคนก็ทำ เพราะไม่รู้ว่าเสียมารยาท
เมื่ออยู่ในความสัมพันธ์แบบคู่รัก บางครั้งแทนที่จะเผชิญปัญหาที่เหมือนพายุใหญ่ กลับมีแนวโน้มว่าคนสองคนจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเนื่องจากแง่มุมเล็กๆ น้อยๆ ของชีวิตมากกว่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบถึงขั้นเลิกรากันด้วยซ้ำ
ดังเช่นกรณีของ "โยมิอุริ ชิมบุน" ผู้หญิงออฟฟิศวัย 26 ปี ที่ออกเดทกับชายวัย 29 ปี รั้งหนึ่งทั้งสองคนไปร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดด้วยกัน หลังจากรับอาหารและกลับมานั่งที่แล้ว จู่ๆ ฝ่ายชายก็เทเฟรนช์ฟรายส์ของทั้งคู่ลงบนถาดรวมกัน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเธอก่อน ซึ่งพฤติกรรมนี้ทำให้หญิงสาวประหลาดใจและไม่ชอบใจมากๆ
ฝ่ายชายมองว่า ทุกคนควรแบ่งเฟรนช์ฟรายส์กันทานแบบนี้ในร้านฟาสต์ฟู้ด เขาทำแบบนี้ทุกครั้งที่ทานร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆ แต่ฝ่ายหญิงมองว่าการกระทำเช่นนี้เลิกได้ก็ควรเลิก ทำไมต้องบังคับให้คนอื่นมาทานร่วมกับตัวเอง และถ้าเทเฟรนช์ฟรายส์ทั้งหมดลงถาดแบบนั้น อาหารร้อนๆ ก็จะเย็นเร็วและเสียรสชาติ อีกอย่างที่สำคัญคือไม่ควรสัมผัสอาหารของคนอื่นตั้งแต่แรก เรื่องนี้ทำให้ทั้งสองโต้เถียงกันไม่รู้จบ ลุกลามจนถึงขั้นเกือบเลือกกันเลยทีเดียว
แม้ว่าหญิงสาวจะไม่พอใจต่อพฤติกรรมของแฟนหนุ่ม แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองอาจจู้จี้จุกจิกเกินไป จึงตัดสินใจโพสต์ตั้งคำถามประเด็นนี้ในโลกออนไลน์ โดยเน้นย้ำว่า เว้นแต่จะเป็นอิซากายะหรือร้านอาหารจีนที่จัดเตรียมไว้ให้ทุกคนได้แบ่งปัน ในร้านอาหารอื่นๆ เธอก็อยากจะทานอาหารของตัวเอง และเฟรนช์ฟรายส์ก็เป็นอาหารโปรดของเธอ แม้ว่าสุดท้ายเธอและแฟนหนุ่มจะไม่ถึงขั้นบอกเลิกกันตรงๆ แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจผู้ชายคนนั้น
คำถามนี้ดึงดูดความคิดเห็นและคำตอบมากกว่า 450 ข้อความ ชาวเน็ตส่วนใหญ่เห็นด้วยกับผู้โพสต์ โดยเชื่อว่าผู้ชายไม่ควรยุ่งกับอาหารของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากเฟรนช์ฟรายส์ที่ถูกเทรวมจะเย็นและไม่อร่อย ยังมีประเด็นปัญหาสุขอนามัยที่ควรใส่ใจด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาเจ้าของโพสต์ก็ได้ออกมาอัพเดทสถานการณ์ว่า เธอและฝ่ายชายยังคงถกเถียงกันเรื่องเฟรนช์ฟรายส์ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่บรรลุข้อตกลงร่วมกัน