เนื้อหาในหมวด ข่าว

แม่ทรุด ลูกสาว 8 ขวบพูดซ้ำๆ \

แม่ทรุด ลูกสาว 8 ขวบพูดซ้ำๆ "มีอะไรอยู่ในท้อง" หมอถึงกับส่ายหัว เกือบพามารักษาสายไป!

ลูกสาว 8 ขวบพูดซ้ำๆ "มีอะไรอยู่ในท้อง" หมอถึงกับส่ายหัว แม่ฟังคำวินิจฉัยแทบทรุด เกือบพามารักษาสายไป!

ผู้ปกครองย่อมหวังว่าลูกหลานจะเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง ไม่มีใครอยากให้ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย แต่ความจริงคือมีหลายประเด็นที่พ่อแม่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของลูก ดังเช่นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครอบครัวหนึ่งในมณฑลเสฉวน

คุณชู (นามสมมุติ) หญิงจีนอายุ 31 ปี มีลูกสาวคนหนึ่งอายุ 8 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา เมื่อไม่กี่วันก่อนลูกกอดท้องแล้วพูดว่า "แม่คะ มีอะไรอยู่ในท้องหนู" เมื่อเห็นว่าลูกร้องไห้เธอก็เริ่มตื่นตระหนก ตัดสินใจพาไปรักษาคลินิกใกล้บ้านทันที แพทย์ที่คลินิกบอกว่า อาการเช่นนี้มักเกิดจากทางเดินอาหารอักเสบ เพียงใส่ใจเรื่องอาหารการกิน และทานยาแก้ปวดท้อง ก็จะช่วยรักษาโรคได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านมาหลายวัน อาการของลูกไม่เพียงแต่ไม่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังรุนแรงขึ้นอีกด้วย ลูกสาวเริ่มบอกบ่อยๆ ว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวในท้องของตนเอง รู้สึกเจ็บปวดเหมือนแมลงกัดมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบทนไม่ไหว เมื่อได้ฟังคำอธิบายที่แปลกประหลาดของลูกสาว คุณชูกังวลใจมากจึงตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมือง เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่นี่เบื้องต้นแพทย์ตรวจเลือดแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ทำให้เริ่มสงสัยว่าเป็นเพราะเด็กมีจินตนาการมากเกินไปจริงหรือ? หรือมีสาเหตุอื่นที่ซับซ้อนกว่านั้น?

ทั้งนี้ จากผลการตรวจเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน โดยแพทย์ได้จัดให้มีการตรวจอุจจาระ ตรวจแอนติบอดีในเลือด และรายการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจคือ มีไข่แมลงอยู่ในลำไส้ของเด็กหญิง และแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคพยาธิไส้เดือน (Ascariasis) เมื่อได้ยินคำวินิจฉัยดังกล่าวคุณชูรู้สึกกลัวมาก สำหรับคนอย่างเธอที่รักความสะอาดและสุขอนามัยอยู่เสมอ เธอไม่เคยคิดว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอจะเป็นโรคนี้

"ศัตรู" ที่มองไม่เห็นแฝงตัวอยู่ในลำไส้ของเด็กอายุ 8 ขวบ และมันไม่ได้หลับอยู่นิ่งๆ เท่านั้น บางครั้งพวกมันก็บุกรุกและเจาะผนังลำไส้ ทำให้เกิดการบิดเบี้ยวในลำไส้อย่างแปลกประหลาด อาจกลายเป็นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงได้ในบางกรณี ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กหญิงรู้สึกเหมือนมี "แมลงกัด" นอกจากนี้สารเมตาบอไลต์และสารพิษที่ปรสิตหลั่งออกมา ยังสามารถทำลายลำไส้และอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กที่ระบบประสาทยังไม่สมบูรณ์

การติดเชื้อซ้ำซ้อน ที่กัดกร่อนสุขภาพของเด็ก

โชคดีที่หลังการรักษาโดยแพทยผู้เชี่ยวชาญ ในที่สุดศัตรูนั้นก็ถูกกำจัดออกจากร่างกายของของด็กหญิงได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าวิกฤติของเธอสิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากในระหว่างการตรวจติดตามหลังการรักษา บังเอิญพบว่ามีค่าดัชนีในเลือดผิดปกติ ซึ่งบ่งชี้ว่าการทำงานของ "ตับอาจได้รับความเสียหาย" เมื่อมาถึงจุดนี้ แพทย์หันความสนใจไปที่ข้อสงสัยอันเลวร้ายอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการติดเชื้อที่ร้ายแรงกว่า...

ทีมแพทย์สันนิฐานว่าอาจเกิดจาก Toxoplasma gondii ซึ่งเป็นปรสิตชนิดหนึ่งในกลุ่มค็อกซิเดีย หรือปรสิตอื่นๆ แพทย์เน้นย้ำหลายครั้งว่าถึงแม้การติดเชื้อชนิดนี้จะพบได้น้อย แต่ก็มีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อเด็กได้ โดยเฉพาะเด็กที่ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่พัฒนาเต็มที่ นอกจากนี้ ด้วยร่างกายที่เปราะบางจากการติดเชื้อมาก่อนหน้านี้ การติดเชื้อซ้ำซ้อนจึง "กัดกร่อน" สุขภาพของเด็กหญิงอย่างมาก ส่งผลให้คุณชูและครอบครัวตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอีกครั้ง

แม้ว่าการติดเชื้อ Toxoplasma มักจะเกี่ยวข้องกับการกินเนื้อดิบหรือการสัมผัสกับอุจจาระของสัตว์เลี้ยง แต่ครอบครัวของคุณชูไม่มีสัตว์เลี้ยง และยังให้ความสำคัญกับสุขอนามัยอาหารอย่างใกล้ชิด และเพื่อไขปริศนาแหล่งที่มาของการติดเชื้อ แพทย์จึงจัดให้มีการทดสอบแอนติบอดีในซีรั่มเป็นพิเศษ และผลลัพธ์สุดท้ายก็ยืนยันการคาดเดาของแพทย์ ว่าอาจสัมผัสเชื้อโรคใน "ดิน" ที่โรงเรียนโดยไม่ตั้งใจ ส่งผลให้เชื้อตัวนี้กำลังแพร่พันธุ์ในร่างกาย แต่ก่อนหน้านี้ถูกมองข้ามไปเนื่องจากปัญหาเกี่ยวกับโรคพยาธิ

เด็กหญิงตัวเล็กๆ ต้องผ่านกระบวนการฟื้นฟูของสุขภาพในโรงพยาบาล ที่ยาวนานและยากลำบาก ผู้เป็นแม่เองก็รู้สึกกดดันมากขึ้นในแต่ละวัน อย่างไรก็ดี เธอรู้ดีว่าการมีเหตุมีผลและให้ความร่วมมือกับการรักษาของแพทย์เท่านั้น ที่จะสามารถช่วยเหลือลูกสาวได้ แม้จะเข้ารับการรักษาช้าจนพูดได้ว่า "อีกไม่นานทุกอย่างก็จะสายเกินไป" แต่สุดท้ายก็ได้รับการรักษาที่เหมาะสม แพทย์ควบคุมการติดเชื้อด้วยยาได้สำเร็จ และอธิบายแผนการดูแลติดตามผลให้คุณชูทราบอย่างละเอียด

โชคดีที่การติดเชื้อไม่ได้สร้างความเสียหายถาวรต่อตับของเด็ก เมื่อพูดถึงโรคนี้ แพทย์ยังเตือนผู้ปกครองด้วยว่ากุญแจสำคัญในการปกป้องเด็กจากการติดเชื้อปรสิตในชีวิตประจำวัน คือการใส่ใจเรื่องสุขอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้สถานที่สาธารณะ การสัมผัสกับดิน หญ้า ฯลฯ ต้องเตือนบุตรหลานให้ล้างมือเป็นประจำ ไม่ดื่มน้ำที่ไม่สะอาด จะต้องรักษาระยะห่างเมื่อโต้ตอบกับสัตว์ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไวรัส

กินข้าวจานเดียว อวัยวะล้มเหลวหลายส่วน หมอเฉลย “จุดพลาด” หลายคนทำไม่รู้เสี่ยงถึงตาย!

กินข้าวจานเดียว อวัยวะล้มเหลวหลายส่วน หมอเฉลย “จุดพลาด” หลายคนทำไม่รู้เสี่ยงถึงตาย!

กินข้าวจานเดียว เกือบไปเกิดใหม่ อวัยวะล้มเหลวหลายส่วน หมอเฉลย “จุดพลาด” คนยุคนี้ชอบทำ ไม่รู้ตัวเสี่ยงตาย!

เครียดทั้งบ้าน จู่ๆ ลูกสาว 6 ขวบ กุมท้องกรีดร้อง ช็อกซ้ำ หมอชี้ตัวร้าย \

เครียดทั้งบ้าน จู่ๆ ลูกสาว 6 ขวบ กุมท้องกรีดร้อง ช็อกซ้ำ หมอชี้ตัวร้าย "ข้าวผัด" ที่ย่าให้กิน!

ย่าปวดใจ หลานร้องไห้เข้า รพ.โดนหมอส่องกล้อง ช็อกซ้ำสาเหตุ "ข้าวผัด" ที่ทำให้กินทุกวัน!

มะเร็งรังไข่ หมอย้ำ 5 สัญญาณที่มักถูก \

มะเร็งรังไข่ หมอย้ำ 5 สัญญาณที่มักถูก "มองข้าม" ไม่ใช่แค่ท้องอืด-ฉี่บ่อย อาจใกล้ตัวกว่านั้น!

รู้หรือไม่? มะเร็งรังไข่ ไม่มีรังไข่ก็เป็นได้ หมอเตือนผู้หญิงทุกวัย มี 5 สัญญาณที่มักถูก "มองข้าม" ไม่ใช่แค่ท้องอืด-ฉี่บ่อย แต่อาจใกล้ตัวกว่านั้น!

หมอสะพรึง ชายปวดท้องมา รพ. เคสผ่ายาก \

หมอสะพรึง ชายปวดท้องมา รพ. เคสผ่ายาก "นิ่ว" ใหญ่เท่าไข่ห่าน ย้ำสิ่งที่ควร-ไม่ควรกิน!

ชายปวดท้องมา รพ. หมอตรวจเจอเนื้องอก และ "นิ่ว" ใหญ่เท่าไข่ห่าน ยอมรับเป็นเคสยาก พร้อมย้ำเตือนทุกคน สิ่งที่ควร-ไม่ควรกิน!

สาวออฟฟิศจู่ๆ ปวดท้อง หมอผ่าถุงน้ำดี ผงะ \

สาวออฟฟิศจู่ๆ ปวดท้อง หมอผ่าถุงน้ำดี ผงะ "ก้อนนิ่ว" ทะลักยังกับไข่ปลาคาเวียร์

สาวออฟฟิศกินหม้อไฟเพลิน จู่ๆ ปวดท้องหนัก! หมอตัดถุงน้ำดีถึงกับผงะ เจอ "ก้อนนิ่ว" นับไม่ถ้วน นึกว่าไข่ปลาคาเวียร์