ผู้เชี่ยวชาญมาเตือนเอง อาหารเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียสูง ของชอบคนไทยทั้งนั้น

ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอาหาร ออกมาเตือนเอง เปิดชื่ออาหารเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ของชอบคนไทยทั้งนั้น

เว็บไซต์ New York Post รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอาหารได้ออกมาแนะนำ ถึงสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อลดความเสี่ยงโรคจากอาหาร อันดับแรก เพราะสินค้ายอดนิยมที่อยู่บนชั้นวางเหล่านี้อาจแฝงแบคทีเรียอันตราย

บาร์บารา โควัลไซค์ ผู้อำนวยการสถาบันความปลอดภัยด้านอาหารและโภชนาการแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน กล่าวกับ NBC News ว่า ผักและผลไม้ที่อ้างว่าล้างสะอาดพร้อมทาน เช่น ผักสลัด ผักต่าง ๆ หรือแม้แต่ผลไม้หั่นแล้ว ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย

เธอแนะนำให้ซื้อผักสลัดแบบทั้งหัว แล้วนำมาล้างเองด้วยน้ำสะอาดและซับให้แห้งด้วยกระดาษทิชชู่

“ใบผักที่ขาดหรือช้ำ ฉันจะทิ้งทันที เพราะแบคทีเรียสามารถเข้าสะสมได้ง่าย ฉันมักจะลอกใบด้านนอกออกแล้วทิ้งไป” เธออธิบาย พร้อมบอกว่าเธอยังหลีกเลี่ยงถั่วงอกและแคนตาลูปด้วย

ด้าน ดาริน เดทไวเลอร์ ศาสตราจารย์นโยบายด้านอาหารแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิร์น เสริมว่า เปลือกแคนตาลูปที่มีลวดลายร่างแหสามารถกักเก็บแบคทีเรียได้ดี

“แคนตาลูปเป็นหนึ่งในผลไม้ที่อันตรายที่สุดจากแบคทีเรีย มีค่า pH ที่เหมาะสม และการล้างเปลือกภายนอกไม่เพียงพอ” เขากล่าวกับ NBC News

ขณะที่ ศาสตราจารย์ดอน ชาฟเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์อาหารจากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส เตือนว่า ผลไม้ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่ถูกวางทิ้งไว้นาน อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนแบคทีเรียเช่นกัน

“ผมจัดเวิร์กช็อปหลายครั้ง ผมมักเห็นผลไม้หั่นวางอยู่บนบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า และผลไม้นั้นก็ถูกทิ้งไว้อย่างนั้นทั้งวัน” เขาบอกกับ NBC News “เรามีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าภายนอกของผลไม้ดูไม่เปลี่ยนไป แต่ภายในสามารถเพิ่มแบคทีเรียอย่างรวดเร็ว”

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า อาการอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรีย เช่น ลิสทีเรียหรืออีโคไล ซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ประกอบด้วยอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ ปวดท้อง และท้องเสีย ซึ่งในบางกรณีอาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรืออาจถึงแก่ชีวิต

ชาฟเนอร์ อธิบายว่า ยิ่งอาหารผ่านกระบวนการแปรรูปมากขึ้นเท่าใดตั้งแต่ฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ความเสี่ยงที่อาหารจะปนเปื้อนแบคทีเรียก็ยิ่งมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้

“ยิ่งมีการปรับเปลี่ยนมากเท่าใด ก็ยิ่งมีโอกาสมากที่สิ่งผิดพลาดจะเกิดขึ้น” เขากล่าว