เนื้อหาในหมวด ข่าว

\

"เจ๊ไฝ" ประกาศวางตะหลิว ปิดตำนาน "ไข่เจียวปู" มิชลินสตาร์ เล่าเองเหตุผลคืออะไร

ถือเป็นข่าวเศร้าของวงการอาหาร หลังจาก "เจ๊ไฝ" เชฟมิชลินสตาร์ เจ้าของร้านสตรีทฟู้ด ที่มีเมนูดัง “ไข่เจียวปู” ประกาศไม่ทำร้านต่อ ขอเกษียณ วางตะหลิวปีหน้า ยินดีแจกสูตรพร้อมสอน

โดย เจ๊ไฝ ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึก ออนไลน์ ถึงสาเหตุที่ตัดสินใจวางมือ ยอมรับว่าลำบากมาก เพราะการเตรียมร้านและของที่ต้องใช้ต้องอาศัยความละเอียด ตอน 7 โมงเช้า ต้องลงมาเช็กวัตถุดิบที่ต้องใช้ในแต่ละวัน หากของไม่ได้คุณภาพหรือไม่ถูกใจจะถูกส่งกลับทันที

เจ๊ไฝ กล่าวต่อว่า การค้าของประเทศนั้นเป็นไปได้ด้วยดี ทำให้ผู้ประกอบการแย่งกันซื้อวัตถุดิบ ส่งผลให้ราคาของสูงขึ้น ซึ่งเป็นอุปสรรคของทางร้าน เพราะทางร้านที่รับวัตถุดิบมาเริ่มขึ้นราคา ซึ่งทำให้เริ่มเหนื่อยกับการเปิดร้านอาหาร

เจ๊ไฝ เผยว่าไม่ได้มีแผนที่จะให้ลูกสาวมาดูแลกิจการต่อ แต่เจ๊ไฝยินดีที่จะแจกสูตร พร้อมสอนให้กับผู้ที่สนใจจะนำไปทาน ทั้งนี้ สูตรการทำอาหารทั้งหมดมาจากตัวเจ๊ไฝเอง ไม่มีมีใครสอนมาก่อน

เมื่อถามถึงแผนการเกษียณอายุ เจ๊ไฝ ตอบว่า เคยคิดว่าจะเกษียณอายุเมื่อครบ 80 ปี ณ ขณะนี้ อายุ 81 ปีแล้ว แต่ทางผู้ใหญ่บอกว่าค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เธอก็เริ่มถอยออกมาเรื่อย ๆ

จากที่ร้านเคยหยุดวันอาทิตย์เพียงวันเดียว ก็เปลี่ยนมาเป็นหยุด 2 วัน คือวันอาทิตย์และวันจันทร์ กระทั่งปัจจุบันทางร้านเปิดบริการเพียง 4 วันคือ วันพุธ – วันเสาร์

นอกจากนี้ เจ๊ไฝ ยังมีโปรเจ็คและสัญญาที่ทำร่วมกับประเทศเกาหลี และประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย เธอจึงตัดสินใจว่าจะว่าจะวางตะหลิวปีหน้า เพราะการทำงานทุกวันนั้น ทำให้มีจุดห่วงว่าเมื่อรุ่งเช้าขึ้นต้องตื่นเพื่อมาทำงาน ส่วนเรื่องสุขภาพร่างกายจะแข็งแรงหรือไม่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงานเป็นสำคัญ

 

สำหรับ ร้านเจ๊ไฝ เป็นร้านอาหารริมทาง ตั้งอยู่ริมถนนมหาไชย ใกล้ทางแยกสำราญราษฎร์ (ประตูผี) แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นที่รู้จักจาการเป็นร้านอาหารริมทางแห่งแรกของโลกที่ได้ 1 ดาวจากมิชลินไกด์ รวมทั้งเป็นร้านอาหารสืบทอดกิจการมาจากรุ่นพ่อ มีอายุกว่า 70 ปี เจ้าของร้านคนปัจจุบันคือ สุภิญญา จันสุตะ หรือเปีย

ส่วนลักษณะเด่นของร้านเจ๊ไฝนั้นมาจากการขายอาหารตามสั่ง โดยใช้เตาถ่านประกอบอาหาร มีเมนูอาหารไฮไลท์คือ ไข่เจียวปู ปูผัดผงกะหรี่ และโจ๊กแห้ง มีกำหนดราคาตั้งแต่อาหารทั่วไป 200 บาทถึงราคา 4,000 บาท ส่วนสาเหตุที่มีราคาสูงนั้นเนื่องจากคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นดีนั่นเอง