"เจ๊ไฝ" ใช้ปูอะไรมาทำ "ไข่เจียวปู" ต้องเป็นปูพันธุ์ไหน ถึงขายราคาจานละ 4,000 บาท

24/08/2025 (14:24 น.)

ไข่เจียวปูเจ๊ไฝ ใช้ปูอะไร ทำไมถึงแพง ปูอะไรกิโลกรัมหลักพัน จริงหรือ มันคือปูพันธุ์อะไร?

ประเด็นไข่เจียวปูจากร้านชื่อดังที่ถูกพูดถึงหนักบนโซเชียลในช่วงนี้ไม่ได้จบที่รสชาติ แต่ลุกลามไปถึงราคาจนกลายเป็นดราม่า: เมนูที่บนเมนูระบุราคาไว้ที่ประมาณ 1,500 บาท แต่นักชิมบางรายระบุว่าได้รับบิลสูงถึง 4,000 บาท จนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงตรวจสอบ ทำให้คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ “ร้านใช้ปูอะไร จึงทำให้ราคาแพงขนาดนี้” และ “ปูกิโลกรัมหลักพันเป็นไปได้จริงหรือ?”

ไข่เจียวปูเจ๊ไฝ กับราคาที่กลายเป็นประเด็นสังคม

เรื่องเริ่มเป็นกระแสเมื่อโพสต์หรือคลิปรีวิวจากผู้บริโภคเผยแพร่ในโลกโซเชียล พร้อมภาพบิลที่มีตัวเลขสูงกว่าราคาบนเมนู ส่งผลให้มีผู้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ และกระทรวงพาณิชย์รวมถึงหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีไม่มีการแสดงราคาจริงบนเมนูและการคิดราคาที่แตกต่างจากที่แจ้งไว้กับลูกค้า ซึ่งมีการสั่งปรับร้านในเบื้องต้นด้วย.

ทำไมไข่เจียวปูถึงแพง — ปัจจัยต้นทุนที่ผู้บริโภคควรรู้

คำตอบสำคัญคือเรื่องต้นทุนวัตถุดิบเป็นหลัก โดยเฉพาะ “เนื้อปู” ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่างที่กำหนดราคา เช่น พันธุ์ปู, แหล่งจับหรือเพาะ, ขนาดตัว, ฤดูกาลจับ และการคัดเกรดหลังการจับหรือการส่งออก สำหรับร้านอาหารที่เน้นขายสินค้าเป็นพรีเมียม การเลือกใช้เนื้อปูสดคุณภาพสูงและการใส่ปริมาณเนื้อปูจริง ๆ ลงในจานมากกว่าธรรมดา ย่อมทำให้ต้นทุนต่อจานสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นราคาจำหน่ายที่สูงกว่าร้านทั่วไป

เสียงจากคู่ค้าผู้ส่งปู — เผยที่มาของปูก้อนราคาแพง

หลังจากเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หนึ่งในคู่ค้าของเจ๊ไฝ ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งเนื้อปู ได้ออกมาโพสต์ข้อความชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Stang Hst Srisuk โดยเผยถึงที่มาของราคาปูที่ส่งให้ร้านเจ๊ไฝ รวมถึงเบื้องหลังการทำงานของชาวประมงที่เกี่ยวข้อง

เจ้าของโพสต์ระบุว่า การขายปูให้เจ๊ไฝมีราคาสูงกว่าปกติจริง แต่เป็นเพราะเนื้อปูที่ส่งมอบนั้นต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ตั้งแต่การรับซื้อจากประมงพื้นบ้านหรือเรือเล็กที่จับวันต่อวัน ไม่ใช้สารกันเสีย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีปริมาณการจับที่น้อยมากเมื่อเทียบกับประมงเรือใหญ่ กว่าจะได้ปูก้อน 1 กิโลกรัม ต้องใช้ปูสดเกือบ 10 กิโลกรัม

ราคาปูมีการขึ้นลงตามฤดูกาลและสถานการณ์ในแต่ละวัน หลายครั้งชาวประมงออกเรือแต่จับได้ปูเพียงเล็กน้อย ทำให้ต้นทุนต่อกิโลกรัมสูงขึ้นทันที หากไม่มีผู้ยอมรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาด ชาวประมงจะขาดทุนทันที ซึ่งเจ๊ไฝเป็นหนึ่งในคนที่ไม่เคยต่อราคา และพร้อมจ่ายในราคาจริงที่สะท้อนความยากลำบากของผู้จับปู

โพสต์ยังยกย่องว่า เจ๊ไฝเป็นผู้มีพระคุณต่อทีมงานและชาวประมงในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช เพราะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและเป็นธรรม แม้ในวันที่ปูมีจำนวนน้อย นอกจากนี้ยังยอมรับว่า ร้านมีข้อผิดพลาดเรื่องการแสดงราคาบนเมนู แต่ควรได้รับการแก้ไขอย่างสร้างสรรค์มากกว่าการโจมตีให้เสียหาย พร้อมย้ำว่า การที่ Street Food ไทยอย่างเจ๊ไฝได้รับการยอมรับในระดับโลก ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงอยากให้สังคมเข้าใจถึงต้นทุนที่แท้จริงเบื้องหลังอาหารจานดังนี้

ร้านระดับพรีเมียมเลือกใช้ปูพันธุ์ไหน?

ปูม้า (Blue swimming crab) — เป็นปูทะเลที่ได้รับความนิยมในไทย เนื้อมีความหวานและแน่น เหมาะกับเมนูที่ต้องการรสปูชัดเจน หลายร้านเลือกใช้ปูม้าคัดเกรดเพื่อให้ได้เนื้อขาวสะอาดเมื่อนำมาแกะใส่ไข่เจียว
ปูทะเลน้ำลึก / ปูเกรดพิเศษ — บางครั้งร้านอาจใช้ปูจากแหล่งที่ให้เนื้อแน่นเป็นพิเศษ หรือปูที่ผ่านการคัดเกรดส่งออก ซึ่งราคาจะสูงกว่าปูทั่วไป
ปูแบบแยกเนื้อ (lump crab meat) — หากร้านเลือกใช้เนื้อปูแบบแยกเป็นก้อน (lump) หรือเนื้อปูที่ผ่านการคัดเลือกเป็นพิเศษ ต้นทุนก็จะสูงตาม

ดังนั้นเมื่อร้านประกาศว่าใช้ “เนื้อปูคุณภาพสูง” ก็หมายความได้หลากหลาย: อาจเป็นปูม้าคัดไซส์ดี, ปูทะเลจากแหล่งพิเศษ หรือเนื้อปูที่คัดเป็น Lump ซึ่งทุกแบบจะเพิ่มต้นทุนต่อกิโลกรัม

ปูกิโลกรัมละหลักพัน — จริงหรือ?

คำตอบสั้น ๆ คือ “เป็นไปได้” — ราคาปูในตลาดมีความผันผวนตามฤดูกาล ขนาด และความต้องการส่งออก บางช่วงราคาปูม้าหรือปูเกรดส่งออกอาจพุ่งสูง ทำให้ราคาต่อกิโลกรัมแตะหลักพันได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องการเนื้อปูสดคุณภาพสูงหรือเนื้อก้อนที่ผ่านการคัดเกรดแล้ว ร้านที่ใช้วัตถุดิบเหล่านี้ย่อมมีต้นทุนสูงและจำเป็นต้องสะท้อนผ่านราคาขาย

มุมมองเชิงบริโภค — ราคาสะท้อนคุณภาพหรือความไม่ชัดเจน?

สำหรับผู้บริโภค ราคาสูงสามารถยอมรับได้ถ้ามีความชัดเจนเรื่องปริมาณและคุณภาพปูที่ได้รับ (เช่น ระบุประเภทปู/น้ำหนักเนื้อปู/ภาพสินค้าในเมนู) อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงไม่ใช่เพียงแค่ราคาแพง แต่เป็นความไม่สอดคล้องระหว่างราคาที่แจ้งบนเมนูกับยอดที่เรียกเก็บจริง ซึ่งทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าขาดความโปร่งใส และนั่นคือสาเหตุที่หน่วยงานต้องเข้าไปตรวจสอบ

สรุปสั้น ๆ สำหรับคนที่อยากลอง

ไข่เจียวปูของร้านที่เป็นกระแสใช้เนื้อปูเกรดดี ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาสูง
ปูม้าและปูทะเลเกรดพิเศษเป็นตัวเลือกหลักที่ร้านระดับพรีเมียมมักใช้ — ราคาต่อกิโลกรัมอาจแตะหลักพันในบางช่วง
สิ่งที่ผู้บริโภคควรสังเกตคือความชัดเจนของเมนู เช่น ระบุชนิดปู ปริมาณเนื้อ และการแสดงราคาจริง หากข้อมูลชัดเจน ผู้บริโภคจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าราคานั้นคุ้มค่าหรือไม่

สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจลองเมนูราคา 1,500–4,000 บาท ขึ้นกับมุมมองเรื่องความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่ผู้บริโภคคาดหวัง หากต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ควรสอบถามกับทางร้านให้ชัดเจนก่อนสั่ง และตรวจสอบบิลเมื่อชำระเงิน