เนื้อหาในหมวด ข่าว

ดราม่าสิ! แม่สอนหนังสือลูกใน MRT เหลือเชื่อ \

ดราม่าสิ! แม่สอนหนังสือลูกใน MRT เหลือเชื่อ "โต๊ะ" ที่เตรียมมา ขยันผิดเวลาโดนจวกยับ

แม่สอนหนังสือลูกใน MRT เหลือเชื่อกับอุปกรณ์ที่เตรียมมา แต่ขยันผิดเวลาคนไม่ชม ดึงสติถาม คุณสองคนกำลังทำอะไรอยู่?!

ในปัจจุบันตารางเวลาของเด็กๆ ส่วนใหญ่มักจะเน้นไปที่การเรียนหนังสือ นอกจากเวลาการเรียนในห้องเรียนแล้ว ยังต้องไปเรียนพิเศษและทำการบ้านมากมาย เพื่อให้ทันกับหลักสูตรและเสริมสร้างความรู้  พ่อแม่ที่มีความคาดหวังสูง มักจะสนับสนุนให้ลูกเรียนอย่างไม่หยุดพัก ความกดดันนี้แม้ว่าจะมาจากความรัก แต่ก็ทำให้เด็กรู้สึกเหนื่อยและเครียดได้เช่นกัน

เมื่อไม่นานมานี้ในโซเชียลมีเดียของจีน ได้มีการแชร์ภาพถ่ายแม่ลูกคู่หนึ่งบนรถไฟใต้ดิน ซึ่งทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกสับสนเนื่องจากภาพนี้บันทึกช่วงเวลาที่อยู่บนขบวนรถไฟที่แออัดและเสียงดัง แต่คุณแม่คนหนึ่งกลับหอบหิ้วกระเป๋าหนังสือ นั่งอยู่ข้างๆ ลูกสาวตัวน้อย ที่กำลังขะมักเขม้นทำการบ้าน สิ่งที่ทำให้คนตกใจมากขึ้นคือการปรากฏตัวของ “โต๊ะเรียนพกพา”  ที่เด็กหญิงคนนี้ใช้

หลายคนสงสัยว่า ตารางการเรียนของเด็กคนนี้จะยุ่งเหยิงแค่ไหน ที่แม้แต่บนรถไฟฟ้าแม่ของเธอก็ยังต้องเตรียมโต๊ะเรียนมาให้แบบนี้? เมื่อภาพถูกโพสต์ขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ก็ได้รับความคิดเห็นที่หลากหลายจากชาวเน็ต บางคนรู้สึกไม่พอใจการกระทำของคุณแม่ เชื่อว่าการเรียนถึงจะยุ่งแค่ไหนก็ควรให้ลูกมีเวลาพักผ่อนบ้าง ไม่ใช่บังคับให้เรียนในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังและแออัดอย่างรถไฟใต้ดิน

“การเรียนแบบนี้ไม่คุ้มค่าอะไรเลย ให้ลูกหลับตานอนพักหรือคุยเล่นเพื่อผ่อนคลายจะดีกว่า”

“พกโต๊ะเรียนไปทุกที่แบบนี้เหรอ? ชีวิตเด็กนักเรียนประถมคนนี้ดูเหมือนจะยุ่งมากเกินไปแล้ว”

“ทำการบ้านในรถไฟใต้ดินเหรอ? ทำไมแม่ไม่ซื้อรถยนต์ส่วนตัวไปเลย รู้สึกว่าลูกคงจะเรียนที่นั่นได้ดีกว่า”

“ดูเหมือนเด็กจะเรียนแค่ประถมอยู่เลย แล้วเด็กอัจฉริยะต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ตอนนี้เหรอ”

“เด็กสมัยนี้เรียนหนักจัง พ่อแม่ไม่รู้สึกหรือว่าอย่างนี้จะยิ่งทำให้ลูกเครียดขึ้นไหม? เพื่อนที่เป็นหมอของฉันบอกว่า ตอนนี้เด็กประถมก็เริ่มมีอาการซึมเศร้าแล้ว”

“ฉันคิดว่าเด็กอาจจะลืมทำการบ้านเมื่อคืนนี้ก็ได้ เลยต้องรีบทำให้เสร็จเพื่อไม่ให้โดนครูตำหนิ”

“ถ้าต้องนั่งรถไฟใต้ดินเป็นเวลานาน การใช้เวลานั้นทำการบ้านก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร จริงๆ แล้วหลายคนมักคิดว่ารถไฟใต้ดินที่เสียงดังจะไม่เหมาะสำหรับการเรียน แต่บางทีเด็กอาจจะอยากทำการบ้านให้เสร็จเพื่อที่จะได้มีเวลาว่างไปเล่นที่บ้าน”

ท้ายที่สุด เราคงไม่สามารถรู้ได้ว่าเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการกระทำของแม่ลูกคู่นี้คืออะไร แต่สิ่งที่ดีกว่าคือ เมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ พ่อแม่ควรส่งเสริมให้เด็กใช้เวลานั้นในการพักผ่อนและผ่อนคลาย เว้นแต่จะเป็นกรณีที่จำเป็นจริงๆ เพราะสภาพแวดล้อมที่เสียงดังและการเคลื่อนที่ของยานพาหนะไม่ได้เหมาะสมสำหรับการมุ่งมั่นเรียนรู้

แม้การเรียนจะเป็นสิ่งสำคัญ พ่อแม่ควรฝึกฝนเด็กให้มีนิสัยรักการเรียนตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องบังคับให้เรียนทุกที่ทุกเวลา เด็กก็ต้องการเวลาพักผ่อนและเล่น เพื่อการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและสุขภาพที่ดี การพักผ่อนจะช่วยสร้างพลังงาน ลดความเครียด และเพิ่มความสามารถในการจดจ่อในช่วงการเรียนครั้งต่อไป

แม่สะดุ้ง ลูกนั่งทำการบ้าน \

แม่สะดุ้ง ลูกนั่งทำการบ้าน "ถึงเช้า" จู่ๆ หัวเราะลั่น พูดแค่ 3 คำ คนฟังตลกไม่ออก รีบกอดปลอบ

ด.ญ.นั่งทำการบ้าน "จนถึงเช้า" จู่ๆ หัวเราะลั่นบ้าน น้ำตาไหลพรากพูด 3 คำ แม่ฟังแล้วตลกไม่ออก รีบกอดปลอบ

ดญ.ทำการบ้านเสร็จ จู่ๆ ล้มลงกลางบ้าน-กรีดร้อง เพื่อนบ้านยังตกใจ แม่เฉลยสาเหตุ

ดญ.ทำการบ้านเสร็จ จู่ๆ ล้มลงกลางบ้าน-กรีดร้อง เพื่อนบ้านยังตกใจ แม่เฉลยสาเหตุ

เด็กหญิงเพิ่งทำการบ้านเสร็จ อยู่ ๆ ก็ล้มลงกลางบ้านร้องไห้เสียงดัง จนเพื่อนบ้านตกใจรีบมาเคาะห้องถาม ก่อนแม่เฉลยสาเหตุ

แม่ตกใจ จู่ ๆ ลูกสาวน้ำตาแตกตอนตี 3 ถามเป็นอะไร ลูกตอบประโยคเดียว แต่บีบหัวใจ

แม่ตกใจ จู่ ๆ ลูกสาวน้ำตาแตกตอนตี 3 ถามเป็นอะไร ลูกตอบประโยคเดียว แต่บีบหัวใจ

นักเรียนหญิงชั้น ม.1 จู่ ๆ ร้องไห้หนักมากตอนตี 3 ตอบแม่ทั้งน้ำตา ประโยคเดียวแต่บีบหัวใจ พี่สาวมาเล่าเอง เกิดอะไรขึ้น?