โหนกระแสเดือด! ปมมรดก 500 ล้าน ตระกูลดัง "ศิลาสุวรรณ" กับตำนาน "ผมเกิดวันอังคาร"
รายการโหนกระแส วันนี้ พูดคุยกรณี ข่าวใหญ่ตั้งแต่ปี 2565 กรณีสาวใช้ ตั้งตัวเป็นบุตรบุญธรรมของเศรษฐินีตระกูลดัง "ศิลาสุวรรณ" ถูกกล่าวหาว่าฮุบมรดก 500 ล้านบาท ก่อนนำไปสู่เรื่องราวใหญ่โต เมื่อพบการปลอมลายเซ็นเจ้าหน้าที่ราชการ เพื่อตั้งตัวเองเป็นบุตรบุญธรรมโดยมิชอบ จนทำให้เอกสารการอ้างตัวเป็นบุตรบุญธรรมเป็นเอกสารเท็จ
ในเรื่องนี้ นางวีณา ศิลาสุวรรณ มีสามีคือคุณถาวร ต่อมาพี่สาวของคุณถาวร ไปรับอุปการะเด็กคนหนึ่งมาดูแล ชื่อ คุณหนูหริ่ง (นามสมมติ) ต่อมาพี่สาวของคุณถาวรขอร้องให้คุณวีณา กับคุณถาวร ช่วยดูแลคุณหนูหริ่งต่อ โดยให้ทำหน้าที่แม่บ้าน รับเงินเดือนเหมือนแม่บ้านปกติ ก็ดูแลรับใช้ใกล้ชิดกันมา จนคุณถาวรเสียชีวิต และต่อมาคุณวีณาก็เสียชีวิต ปรากฏว่า คุณหนูหริ่งมามีชื่อรับมรดก 500 ล้าน ของคุณวีณา ในฐานะ “บุตรบุญธรรม”
คุณรัศพล ทายาทโดยธรรม ครอบครัวของคุณวีณา ออกมาตรวจสอบว่า นิติกรรมนี้น่าจะมีปัญหา น่าจะมีความพยายามโกงสิทธิ์รับมรดก โดยอ้างว่า พบความผิดปกติคือ ตอนแรกคุณหนูหริ่ง พยายามจะเอาลูกของเขา อายุประมาณขวบเศษ มาเป็นลูกบุญธรรมของคุณวีณา แต่ปรากฏว่าทำไม่ได้ เขาจึงเอาตัวเขาเองไปเป็นลูกบุญธรรมแทน โดยการเซ็นรับรองเป็นบุตรบุญธรรมที่ว่านี้ ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐบางคนด้วย ล่าสุดศาลสั่งเพิกถอนความเป็นบุตรบุญธรรม เพราะมีการแต่งตั้งโดยมิชอบ แต่ในส่วนของมรดก ถูกโอนย้ายถ่ายเทไปเป็นของคุณหนูหริ่งไปหมดแล้ว เพราะทันทีที่เขาได้สิทธิ์เป็นผู้จัดการมรดก เขาสามารถโอนย้ายทรัพย์สินได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นเจ้ามรดก
ต่อมา ทายาทของคุณวีณาได้ไปฟ้องร้องกัน ในเรื่องสิทธิ์ของมรดก จนมีการไปรื้อเอกสารหลักฐานต่างๆ จนนำไปสู่การตรวจสอบพบว่า มีชื่อของเจ้าหน้าที่ที่เซ็นรับรองคือ น.ส.ธัญญรส รัตนณวัฒนสกุล หรือ เก่ง อายุ 37 ปี อดีตลูกจ้างสาวฝ่ายทะเบียน อำเภอเมืองสมุทรสาคร
ซึ่ง คุณเก่ง ธัญญรส ยืนยันว่าไม่เคยเซ็นเอกสารฉบับนี้ และถูกปลอมแปลงลายเซ็นโดยบุคคลอื่น หลังทราบว่าถูกปลอมลายเซ็นก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ แต่กลับมีคนบางกลุ่มติดต่อมา ขอให้ไม่ไปแจ้งความ เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารครั้งนี้
และแม้จะมีการพิสูจน์ในชั้นศาลไปแล้ว ว่าลายเซ็นในเอกสาร ไม่ใช่ลายเซ็นของคุณเก่ง แม้แต่ตัวคนที่เซ็นก็รับสารภาพเองแล้วว่าปลอมลายเซ็นจริง แต่ตัวคุณเก่ง กลับถูกประเมินผลการทำงานปลายปีในระดับต่ำ และถูกให้ออกจากราชการ
คุณเก่งบอกอีกว่า หลังมีเรื่อง ได้มีคนส่งข้อความมา เสนอเงินให้สองเท่า พร้อมบอกว่ามีหลักฐานเอาผิดคุณเก่งได้ เรื่องการเซ็นเอกสาร ถ้าช่วยเขาจะให้เงิน แต่ถ้าไม่ช่วย จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย
แต่ปรากฏว่าพอเอาเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งข้อความมาขู่ไปตรวจสอบ ก็พบว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของสามีของ “หนูหริ่ง” บุตรบุญธรรมที่ถูกเพิกถอนนั่นเอง ที่รู้ก็เพราะว่าเบอร์โทรนี้ อยู่ในป้ายประกาศขายที่ดิน ซึ่งเป็นที่ดินมรดกของคุณวีณานั่นเอง ทั้งยังตรงกับประวัติการรักษาของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ระบุชื่อของสามีคุณหนูหริ่งนี่เอง จึงสามารถยืนยันได้ว่า คนที่ส่งข้อความมาขู่คุณเก่ง ก็คือคนๆ นี้
ขณะที่คุณธเนศ สามีของคุณหนูหริ่ง โฟนอินเข้ามายืนยันว่า ตนถูกทายาทของคุณวีณากล่าวหามาตลอด 2 ปี โดยไม่ได้ออกมาตอบโต้ ทั้งที่ตนมีหลักฐานทุกอย่าง ว่าภรรยาสุดที่รักของตนดูแลคุณย่าวีณามีเป็นสิบๆ ปี ตนทำงานมีบริษัทเป็นของตัวเอง มีเงินมีทอง ไม่ได้เดือดร้อน เคยขอร้องให้ภรรยาออกมาอยู่กันเองเป็นครอบครัวของเราดีกว่าไหม แต่ภรรยาบอกว่า ผูกพันกับคุณย่ามาตั้งแต่เด็ก ถ้าต้องเลือก ยังไงก็ต้องเลือกคุณย่า ตนรักภรรยาก็เลยต้องรักคุณย่าด้วย
แล้วที่ผ่านมาหลายปี พาคุณย่าไปฟอกไต ไปหาหมอ ใช้เงินส่วนตัวของตัวเองออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด 26 ล้านบาท มีหลักฐานการโอนทุกอย่าง ที่ผ่านมาถามว่าลูกหลานของคุณย่าเคยมาดูแลไหม ภรรยาของตนดูแลคุณย่าทุกอย่าง ในระหว่างที่ไม่มีใครมาเหลียวแล
แล้วที่บอกว่าฮุบมรดก 500 ล้าน ไม่จริง เพราะมรดกที่คุณย่ายกให้มันแค่ 130 กว่าล้านบาท แล้วบ้านไม้สักทองที่ญาติเขาบอกว่าเราฮุบ เรามีหลักฐานว่าคุณย่าโอนบ้าน ยกให้ภรรยาของตนตั้งแต่ปี 2554 ก่อนคุณย่าเสียชีวิตหลายปี มีหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ชัดเจน ว่าคุณย่ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน จุดหักเหที่ทำให้คุณย่าตัดสินใจยกมรดกให้ภรรยา ก็เพราะว่าเขาดูแลกันมาตลอด
คุณธเนศยังโต้คารมกับ แฟนของคุณเก่ง ธัญญรศ ในประเด็นที่ไปเซ็นตั้งบุตรบุญธรรม ไม่ได้มีความพยายามในการปลอมแปลงเอกสาร การเซ็นผิดพลาด หรือเซ็นแทนกัน ตนไม่สามารถพูดได้
แต่ที่ตนพูดได้คือ ตนก็มีหลักฐานว่าคุณเก่ง ธัญญรส ปลอมลายเซ็นคนอื่นเหมือนกัน แล้วคำถามที่อยากจะถามกลับไปก็คือ ทำไมพอรู้ตัวว่าตัวเองถูกปลอมลายเซ็นทำไมไม่ไปแจ้งความจับเจ้าหน้าที่ที่ปลอม มาแจ้งความภรรยาของผมทำไม มีการรับเงินรับทองจากใครหรือไม่ ขณะที่แฟนของคุณเก่ง บอกว่า สามารถให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดได้เลย ไม่ได้รับเงินจากใครทั้งนั้น
สุดท้ายสองฝ่ายยังตอบโต้กันไปมาอย่างดุเดือดในหลากหลายประเด็น งัดเอกสารต่างๆ นานา มาสู้กัน แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่จบ ทำให้สุดท้ายต้องยุติการพูดคุย แล้วบอกให้ไปนัดคุยนอกรอบ เพราะทางฝั่งคุณธเนศก็ยืนยันว่า ภรรยาตนมีสิทธิ์ในมรดกถูกต้องทั้งหมด ขณะที่ฝ่ายทายาทก็ไม่ยอม ส่วนฝั่งข้าราชการสาวเองก็ต้องการความเป็นธรรมที่ถูกให้ออกจากราชการ ยิ่งพูดก็ยิ่งทะเลาะกัน จนหาข้อสรุปไม่ได้
และประโยคเด็ดที่คุณธเนศพูดในรายการ ก็คือ “คำถามผมคือ ญาติเขาต้องการอะไรครับ คุณไม่เคยมาดูแลคุณย่าเลย ภรรยาสุดที่รักของผมดูแลคุณย่ามา 40 กว่าปี ผมมีสตอรี่ตั้งแต่คลิปรูป มีเป็นหมื่นรูป เขาผูกพันอะไรกันเขาถึงมายกให้ เหรียญมันมีสองด้าน ผมโดนกล่าวหามา 2 ปี ยังไม่เคยไปออกทีวีช่องไหน เพราะทนายผม 7-8 คนเขาเบรกผมไว้ เพราะผมเป็นคนพูดตรงครับ ผมเกิดวันอังคารครับ”