หมอลดน้ำหนักได้ 18 กก. บอกเคล็ดลับ "ลำดับการกิน" อาหารแต่ละหมู่ ควรกินอะไรก่อน?
หมอลดน้ำหนักได้ 18 กก. บอกเคล็ดลับ "จัดลำดับการกิน" อาหารแต่ละหมู่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ผัก ผลไม้ ควรกินอะไรก่อน?
หมอเหลียงเฉิงเชา ผู้อำนวยการคลินิกสุขภาพแห่งหนึ่งและผู้เชี่ยวชาญด้านตับและทางเดินอาหาร เผยว่าแม้ตัวเองจะคอยเตือนคนไข้ให้หลีกเลี่ยงภาวะไขมันพอกตับ แต่จากการตรวจสุขภาพกลับพบว่าตัวเองก็เผชิญกับภาวะไขมันพอกตับระดับปานกลาง รวมถึงความดันโลหิตสูง เบาหวาน และน้ำหนักเกิน จึงเริ่มหาวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะสม
ในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง หมอเหลียงสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 18 กิโลกรัมด้วยวิธีการรับประทานอาหารแบบ “ลดคาร์โบไฮเดรตครึ่งหนึ่ง” พร้อมปรับ "ลำดับการรับประทานอาหาร" โดยอิงหลักการหลั่งอินซูลิน นอกจากนี้ยังออกกำลังกายด้วยการวิ่งแบบช้าและการออกกำลังกาย 7 นาที จนสามารถกำจัดภาวะไขมันพอกตับ และปรับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เคล็ดลับการลดน้ำหนัก
ลดคาร์โบไฮเดรตครึ่งหนึ่ง: หมอเหลียงปรับปริมาณคาร์โบไฮเดรตในอาหารลงครึ่งหนึ่ง และเพิ่มปริมาณโปรตีนและผักให้มากขึ้น โดยอัตราส่วนของผักและผลไม้ต่อโปรตีนต่อคาร์โบไฮเดรตในแต่ละวันคือ 2:2:1 ทั้งนี้ยังจำกัดการรับประทานอาหารให้เสร็จภายใน 12 ชั่วโมง และงดอาหารในช่วง 12 ชั่วโมงถัดไป
ปรับลำดับการรับประทานอาหาร: เริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำ ตามด้วยโปรตีน (เช่น เนื้อสัตว์) ผัก คาร์โบไฮเดรต (เช่น ข้าว) และผลไม้ การปรับลำดับนี้ช่วยลดการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน
ออกกำลังกาย: หมอเหลียงออกกำลังกายด้วยการวิ่งช้า (super slow jogging) มากกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์ และเสริมด้วยการออกกำลังกายแบบ 7 นาที (HIIT) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างคาร์ดิโอและการสร้างกล้ามเนื้อ
ผลลัพธ์ที่ได้
-
ลดน้ำหนักได้ 18 กิโลกรัมใน 1 ปีครึ่ง
-
กำจัดภาวะไขมันพอกตับ
-
ลดค่าความต้านทานต่อภาวะดื้ออินซูลิน
-
อายุร่างกายลดลง 11 ปีเมื่อเทียบกับอายุจริง
หมอเหลียงยังเน้นว่า การลดน้ำหนักเพียง 5% สามารถช่วยปรับปรุงภาวะไขมันพอกตับได้ และหากลดได้ 10% จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะตับอักเสบจากไขมันได้อย่างมีนัยสำคัญ