เนื้อหาในหมวด ข่าว

หญิงป่วยนอนโคม่า 10 วัน หมอเผยติดเชื้อจาก \

หญิงป่วยนอนโคม่า 10 วัน หมอเผยติดเชื้อจาก "อาหารในตู้เย็น" ถึงไม่บูดก็ไม่ปลอดภัย

หญิงป่วยเยื่อหุ้มสมองอักเสบ นอนโคม่า 10 วัน หมอเผยติดเชื้อจาก "อาหารในตู้เย็น" ถึงไม่บูดก็ไม่ปลอดภัย

คุณฟ่ง หญิงวัย 61 ปี จากประเทศจีนตกอยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลา 10 วัน และพัฒนาภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบหลังจากรับประทานสิ่งที่เก็บไว้ในตู้เย็น

ตามข้อมูลจาก ดร.ดู ฮู รองหัวหน้าภาควิชาประสาทวิทยา ที่โรงพยาบาลในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เมื่อมากกว่าหนึ่งเดือนก่อน คุณฟ่งเริ่มมีอาการอัมพาตใบหน้า ปากเบี้ยว และไม่สามารถปิดตาได้อย่างสมบูรณ์ เธอจึงไปโรงพยาบาลท้องถิ่นเพื่อตรวจและรักษา ผลการตรวจ CT สแกนศีรษะไม่ได้พบความผิดปกติ

สองวันต่อมา อาการของคุณฟ่งทรุดลงรุนแรงขึ้น เธอมีอาการปวดหัวและไข้สูง

โรงพยาบาลท้องถิ่นวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้สมองอักเสบจากไวรัส และรักษาด้วยยาต้านไวรัส แต่สถานการณ์ยังคงแย่ลงและคุณฟ่งตกอยู่ในอาการโคม่า แพทย์ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นจึงโอนย้ายคุณฟ่งไปยังโรงพยาบาลระดับสูงในหนิงโปเพื่อทำการรักษาต่อ

เมื่อถึงโรงพยาบาลที่หนิงโป อาการของคุณฟ่งทรุดลงอย่างรวดเร็ว ดร.ดู กล่าวว่า ระดับความรู้สึกตัวของเธอลดลง เธอไม่ตอบสนองต่อการเรียก และมีไข้สูงถึง 39 องศาเซลเซียส อาการของเธออยู่ในภาวะวิกฤต และต้องรีบหาสาเหตุและการรักษาอย่างเร่งด่วน

แพทย์จึงทำการตรวจน้ำไขสันหลังและผลการตรวจพบว่าจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวและโปรตีนในน้ำไขสันหลังของคุณฟ่งสูงขึ้นอย่างมาก แรกเริ่มแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นการติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย

ดร.ดู กล่าวต่อว่า ผลการทดสอบภายหลังยืนยันว่า คุณฟ่งติดเชื้อ แบคทีเรียลิสเทอเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

ดร.ฟาม วี หัวหน้าภาควิชาประสาทวิทยา โกล่าวว่า หลังจากทราบสาเหตุแล้ว แพทย์ได้ปรับยา และหลังจาก 3 วัน อาการของเธอก็ดีขึ้น อุณหภูมิร่างกายกลับมาเป็นปกติ

คุณฟ่งได้รับการรักษาอาการที่ครอบคลุม เช่น การควบคุมบวมน้ำในสมอง การต้านการอักเสบ และการปกป้องเซลล์สมอง ภายใต้การดูแลอย่างเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่แพทย์ของภาควิชาประสาทวิทยา อาการของเธอดีขึ้น หลังจากรักษามาเกือบหนึ่งเดือน สติสัมปชัญญะของเธอกลับมาปกติ และสามารถสื่อสารได้ง่ายๆ คุณฟ่งออกจากโรงพยาบาลแต่ยังต้องได้รับการฟื้นฟูต่อไป

“ต้นเหตุ” คือสิ่งที่เก็บไว้ในตู้เย็น

ดร.ฟาม วี กล่าวถึงสาเหตุของโรคว่า “ตามข้อมูลจากครอบครัวของผู้ป่วย ก่อนที่อาการจะปรากฏขึ้นวันหนึ่ง คุณฟ่งได้ทานจานไส้กรอกที่เก็บไว้ในตู้เย็นแต่ไม่ได้อุ่น ซึ่งจานไส้กรอกนั้นอาจมีการปนเปื้อนของแบคทีเรียลิสเทอเรีย”

ดร.ฟาม วีกล่าวว่า แบคทีเรียลิสเทอเรียสามารถเติบโตและแพร่พันธุ์ในตู้เย็น โดยเฉพาะเมื่อมีการเก็บอาหารไม่ถูกต้อง เช่น ไม่ปิดฝาตู้เย็นให้สนิท หรือเก็บอาหารดิบและอาหารที่ปรุงแล้วไว้รวมกัน แบคทีเรียลิสเทอเรีย สามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก หรืออาหารที่ปนเปื้อน และสามารถทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

แพทย์กล่าวว่า อัตราการเสียชีวิตจากแบคทีเรียลิสเทอเรีย สามารถสูงถึง 20-30% หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้ชีวิตของผู้ป่วยเสี่ยง

ดร.ฟาม วี แนะนำว่า เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียลิสเตอร์เรีย ผู้คนควรปฏิบัติตามข้อแนะนำดังนี้:

  • ทำความสะอาดและจัดระเบียบตู้เย็นอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการเก็บอาหารในตู้เย็นนานเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่เน่าเสียง่าย
  • เก็บอาหารดิบและอาหารที่ปรุงแล้วแยกกัน และปิดฝาอาหารที่ปรุงแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน
  • อุ่นอาหารที่เก็บในตู้เย็นให้ร้อนถึงอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไปก่อนรับประทาน
สาววัย 27 เจอมะเร็งกระเพาะ เตือน 3 อาหาร แช่ตู้เย็นนานๆ อาจกลายเป็น \

สาววัย 27 เจอมะเร็งกระเพาะ เตือน 3 อาหาร แช่ตู้เย็นนานๆ อาจกลายเป็น "เพื่อนรักมะเร็ง"

หากมีอาหารเหล่านี้อยู่ในตู้เย็นเป็นเวลานาน อย่ากินต่อแค่เพราะเสียดาย แต่ควรโยนทิ้งทันที!