.jpg)
ชายวัย 56 ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร หมอดูภาพตู้เย็น เห็น 4 อาหารแล้วหายสงสัย
ชายวัย 56 ปี ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหาร หมอเห็นรูปตู้เย็นที่บ้านแล้วถอนหายใจ 4 อาหารค้างในตู้เย็นที่กลายเป็น “ผู้ช่วย” ของเซลล์มะเร็ง
กินอาหารค้างตู้เย็น 4 ชนิดนี้ เป็นพิษต่อร่างกายไม่ต่างจากการสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้า
“คุณหมอ ผมไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ทำไมถึงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้?” นายหลี่ วัย 56 ปี เจ้าของร้านขายของชำเล็กๆ ในจีน เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเมื่อเห็นผลชิ้นเนื้อ ตรวจพบมะเร็งกระเพาะอาหารระยะกลางถึงปลาย
หลายปีที่ผ่านมา เขาใช้ชีวิตติดตู้เย็นทุกวัน เช้ามืดตี 4 ตื่นไปเอาสินค้า เย็นกลับมาก็เพียงอุ่นข้าวกับแกงเก่าที่เหลือจากวันก่อนในตู้เย็นกินไปอย่างง่าย ๆ กระทั่งช่วงหลังเริ่มมีอาการท้องอืดเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือด จึงยอมไปพบแพทย์ และได้รับข่าวร้าย
แพทย์เพียงชี้ไปที่ภาพตู้เย็นในบ้านคนไข้แล้วถอนหายใจ ผักดองเก็บไว้ 28 วัน กล่องปลาตุ๋นที่อุ่นซ้ำถึง 3 ครั้ง ผักโขมเหี่ยวเฉา และหมั่นโถวขึ้นรา… สิ่งที่คิดว่าเป็นการประหยัด กลับกลายเป็นการบ่มเพาะเชื้อโรคร้ายในร่างกายทีละน้อย
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า กว่า 30% ของกรณีเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไนไตรต์และอะฟลาท็อกซินเป็นประจำ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอันตราย
ความเย็นของตู้เย็นทำได้เพียงชะลอการเสื่อมสลายของอาหาร แต่ไม่สามารถกำจัดสารพิษได้ทั้งหมด ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส แม้เชื้อแบคทีเรียจะหยุดเจริญเติบโต แต่สารพิษที่มันสร้างขึ้นยังคงอยู่ ส่วนอาหารแช่แข็งที่ -18 องศาเซลเซียส หากนำมาละลายและแช่แข็งซ้ำหลายครั้ง เซลล์อาหารจะแตกตัว ทำให้สารพิษซึมเข้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
4 อาหารค้างตู้เย็นที่ต้องระวังเป็นพิเศษ
-
ผักสดเกิน 3 วัน : ผักอย่างคะน้า หรือผักโขมมีสารไนเตรตสูง เมื่อเก็บเกิน 3 วัน อาจเปลี่ยนเป็นไนไตรต์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของไนโตรซามีน สารก่อมะเร็งร้ายแรง งานวิจัยพบว่า ผักโขมที่เก็บในตู้เย็นนาน 7 วัน มีปริมาณไนไตรต์เกินค่าปลอดภัยถึง 2.3 เท่า
-
เนื้อสัตว์ที่ละลายแล้วแช่แข็งซ้ำ : ทุกครั้งที่นำเนื้อมาละลาย แบคทีเรียจะเพิ่มขึ้นอีก 15–20% หากเนื้อหมูถูกละลายแล้วนำกลับไปแช่แข็งซ้ำถึง 3 รอบ จะมีปริมาณสาร อัลดีไฮด์ สูงกว่าเนื้อสดถึง 8 เท่า ซึ่งเป็นสารที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำลาย DNA และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง
-
อาหารแป้งที่ขึ้นรา : ขนมปัง ข้าว หรือหมั่นโถว หากมีเชื้อราขึ้น แม้จะตัดส่วนที่เสียทิ้งไปแล้ว แต่ยังคงเสี่ยงต่อการปนเปื้อน อะฟลาท็อกซิน สารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 ที่มีพิษร้ายแรงกว่าสารหนูหลายสิบเท่า
-
ผักดองและอาหารหมักดองเกินเวลา : หลังดองประมาณ 15–20 วัน ระดับไนไตรต์ในผักดองจะสูงถึงขีดสุด หากเก็บไว้นานเกิน 1 เดือน ปริมาณไนไตรต์จะกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง และสามารถจับกับโปรตีนจนเกิดเป็น ไนโตรซามีน สารก่อมะเร็งกระเพาะอาหารโดยตรง
แพทย์แนะนำให้แต่ละครอบครัวมี “วันทำความสะอาดตู้เย็นประจำสัปดาห์” เพื่อป้องกันอาหารเน่าเสีย ควรจำกัดเวลาเก็บ ดังนี้ ผักสดไม่เกิน 3 วัน เนื้อสัตว์ไม่เกิน 5 วัน ข้าวหรือหมั่นโถวไม่เกิน 7 วัน และควรจัดแยกอาหารอย่างชัดเจน—อาหารสุกวางบน อาหารดิบวางล่าง ใช้กล่องปิดมิดชิดหรือห่อด้วยฟิล์มอาหาร
นอกจากการจัดการตู้เย็นแล้ว โภชนาการก็สำคัญ ควรรับประทานอาหารหลากหลายและสมดุล เช่น ธัญพืชเต็มเมล็ด เห็ด และผักผลไม้สดที่อุดมวิตามินซี (ส้ม กีวี ฯลฯ) เพื่อช่วยยับยั้งการเกิดไนโตรซามีนในร่างกาย
ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่า ตู้เย็นไม่ใช่ “ตู้เซฟสุขภาพ” หากใช้ไม่ถูกวิธี อาจกลายเป็น “แหล่งสะสมสารพิษ” ทำให้อาหารธรรมดากลายเป็นตัวช่วยของมะเร็งได้