ตัวตายแต่อุดมการณ์ยังอยู่! เปิดบันทึกทหารเกาหลีเหนือในรัสเซียเขียน "วิธีสู้โดรน-เชิดชูท่านคิม"
สำนักข่าว CNN เปิดเผยบันทึกและจดหมายของทหารเกาหลีเหนือที่เสียชีวิตในสงครามรัสเซีย-ยูเครน บ้างเขียนวิธีสู้โดรน บ้างเขียนเชิดชูผู้นำ คิมจองอึน
จากกรณีเมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยูเครนสามารถจับกุมเชลยทหารเกาหลีเหนือในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซียได้ 2 นาย และเผยแพร่คลิปวิดีโอของชายที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพูดภาษาเกาหลีและกำลังได้รับการรักษา
หน่วยปฏิบัติการพิเศษของยูเครนยังได้แชร์คลิปวิดีโอให้กับ CNN แสดงให้เห็นเหตุการณ์ขณะจับกุมทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด มีอาการเจ็บปวดและกำลังถูกทหารยูเครนอุ้มผ่านแนวป้องกันลวดหนามและทุ่นระเบิดไปยังที่ปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า การโจมตีของรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อทหารนายนี้ถูกจับ โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ทหารเกาหลีเหนือถูกจับเป็นเชลย
ทหารยูเครนยังได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากศพของทหารเกาหลีเหนือที่เสียชีวิต ซึ่งระบุว่าเป็นชาวเอเชียตะวันออก เป็นหลักฐานเพิ่มเติมว่าเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนจริง
ทหารเกาหลีเหนือคนที่ปรากฏในวิดีโอมีบัตรประจำตัวทหารรัสเซียปลอม ระบุว่าเขาคือ Ment Chat วัย 29 ปี เอกสารดังกล่าวระบุว่า เขาเข้าร่วมกองทัพรัสเซียในเดือนตุลาคม และมาจากเขตชายแดนตูวาของรัสเซีย ใกล้กับมองโกเลีย
CNN พบบันทึกและเอกสารอื่นๆอีกหลายฉบับที่ทหารยูเครนพบบนร่างทหารเกาหลีเหนือคนอื่นๆที่เสียชีวิต
กระดาษแผ่นหนึ่งเต็มไปด้วยคำมั่นสัญญาแสดงความจงรักภักดีต่อผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน และชัยชนะในการรบ ไม่ชัดเจนว่าบันทึกเหล่านี้มีไว้เพื่อเน้นย้ำถึงความภักดีของทหารที่เสียชีวิตในสนามรบเพื่อปกป้องครอบครัวในเกาหลีเหนือ หรือเป็นการสะท้อนความคิดของพวกเขาอย่างแท้จริง
บันทึกอีกฉบับที่ได้รับจากศพมีเนื้อหายกย่องความสามารถของเกาหลีเหนือในการรบและเยาะเย้ยศัตรูของพวกเขา นั่นคือ ยูเครน
จดหมายฉบับหนึ่งระบุว่า "ค้อนแห่งความตายที่ทำลายสิ่งที่ไม่รู้จักและขยะหุ่นเชิดอยู่ไม่ไกล เราใช้กำลังอันทรงพลังที่ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว เป็นการต่อสู้ที่ไม่มีใครเอาชนะได้และแน่นอนว่าจะต้องชนะ"
บันทึกอีกฉบับเขียนว่า "เราจะแสดงความกล้าหาญที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างเต็มที่ โลกต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด"
เจ้าหน้าที่ยูเครนที่ตรวจสอบเอกสารดังกล่าวระบุว่า หน่วยของเกาหลีเหนือถือว่าการมีส่วนร่วมในสงครามของรัสเซียเป็นโอกาสในการได้รับประสบการณ์ในการรบเพื่อช่วยเหลือผู้นำในความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
แม้ว่าเกาหลีเหนือจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกำลังทหารมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีกำลังพลติดอาวุธประมาณ 1.2 ล้านคนและเกณฑ์ทหารตั้งแต่อายุ 17 ปี แต่ทหารของเกาหลีเหนือกลับสัมผัสกับสนามรบเพียงเล็กน้อยตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุด
เอกสารอีกฉบับซึ่งน่าจะเขียนโดยเจ้าหน้าที่ ได้บันทึกการกระทำที่ไม่จงรักภักดีของผู้ใต้บังคับบัญชาของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไปในรัฐเผด็จการที่ประชาชนถูกกระตุ้นให้แจ้งเบาะแสซึ่งกันและกัน
มีบันทึกฉบับหนึ่งระบุว่า "ทหารคนหนึ่งกระทำการอันน่าละอายอย่างเหลือเชื่อด้วยการขโมยเสบียง" บันทึกอีกฉบับระบุว่า ทหารอีกนายหนึ่ง "ล้มเหลวในการรักษาศักดิ์ศรีของผู้บัญชาการทหารสูงสุดและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ส่วนตัวเหนือสิ่งอื่นใด"
เอกสารอื่นๆมีรหัสวิทยุของกองกำลังเกาหลีเหนือ แต่ยังมีบันทึกเกี่ยวกับยุทธวิธีใหม่ในการต่อต้านการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของเกาหลีเหนือ
บันทึกที่เขียนด้วยลายมือของเกาหลีเหนืออีกนายเขียนว่า "วิธีทำลายโดรน" ซึ่งมีเนื้อหาแนะนำให้ใช้ทหารเป็นเหยื่อล่อ "เมื่อพบโดรนในระยะห่างประมาณ 10-12 เมตร ให้ใช้ 1 คนหลอกล่อมันโดยไม่มีเงื่อนไข และใช้อีก 2 คนเล็งและยิงให้ตก อีกวิธีหนึ่งคือ เนื่องจากกระสุนจะไม่ตกลงในหลุมเดียวกันอีก ให้หาที่กำบังในหลุมนั้น…"
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการกองพันยูเครนซึ่งมีโค้ดเนมว่าแบนดิต กล่าวกับ CNN ว่า เกาหลีเหนือแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำในการยิงโดรนจากระยะห่างประมาณ 100 เมตร ซึ่งบ่งชี้ถึงการฝึกฝนระดับสูงในเกาหลีเหนือ
"มีคนคนเดียวที่รับการโจมตีจากโดรน ส่วนอีกสองหรือสามคนยืนข้างๆแล้วยิงตรงๆ"