![เผยทำได้ไง?! คนขับรถทัวร์ เคยหนักเกินร้อย แค่ 3 เดือน ลด 28 กก. หยุดยาเบาหวานแล้ว](http://pe2.isanook.com/ns/0/ud/1945/9728094/newnew-thumbnail1200x720(5).jpg)
เผยทำได้ไง?! คนขับรถทัวร์ เคยหนักเกินร้อย แค่ 3 เดือน ลด 28 กก. หยุดยาเบาหวานแล้ว
วิ่งจังหวะช้า เปลี่ยนชีวิต! คนขับรถทัวร์ลดน้ำหนัก 28 กิโลกรัม ใน 3 เดือน หยุดยาเบาหวานได้
“หลิน จวิ้นเหว่ย” หรือที่คนเรียกกันว่า "เสี่ยวหลิน" เป็นคนขับรถทัวร์ที่มีความกระตือรือร้น แต่หากใครเคยเห็นเขามาก่อนตอนนี้ คงจะไม่สามารถจำเขาได้เลย เพราะตอนนี้ดูเหมือนคนละคนเลยทีเดียว "ช่วงที่โควิดระบาดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซบเซา อาจจะเป็นสัญญาณจากฟ้าก็ได้ เพราะไม่มีงานทำ พอดีจะได้มีเวลามาหันมามองปัญหาสุขภาพของตัวเอง" เสี่ยวหลินกล่าว
เขาทำงานเป็นคนขับรถทัวร์มากว่า 20 ปี หลังจากปลดประจำการจากทหาร โดยเขามีความสูง 171 ซม. น้ำหนัก 70 กก. ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหนักที่พอดี แต่การทำงานของเขาค่อนข้างไม่ปกติ เพราะต้องนั่งนานและจดจ่อกับการขับรถ นอกจากนี้ยังมีสองปัญหาที่ทำให้เขามีรูปร่างเปลี่ยนไปเร็ว คือการไม่มีการออกกำลังกายและการกินที่ไม่ปกติ
ก่อนอายุ 40 เขาน้ำหนักเกิน 100 กก. และเขาก็ขำๆ บอกว่าตัวเองเหมือนกับพี่ชายคนขับรถทัวร์คนอื่นๆ ที่ท้องใหญ่ๆ เขาไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า และไม่มีพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ก็ลดน้ำหนักไม่ได้เสียที ขณะเดียวกันเขามักจะบริจาคเลือดบ่อยๆ แต่ครั้งหนึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเขามีระดับน้ำตาลในเลือดที่ผิดปกติ จึงแนะนำให้ไปตรวจสุขภาพ
ผลตรวจพบว่ามีค่า HbA1c สูงถึง 6.8 ซึ่งเป็นระดับของโรคเบาหวาน "ก็ไม่แปลกที่หลังอาหารจะรู้สึกเหนื่อยและมักจะปวดหัว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับคนขับรถ" เสี่ยวหลินกล่าว เขาคิดว่าจะลองออกกำลังกายเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเขาก็ลดน้ำหนักได้ 8 กิโลกรัม แต่ก็ยังต้องทานยาเบาหวาน กระทั่งช่วงที่โควิดกลับมาระบาด น้ำหนักก็กลับขึ้นมาใหม่
"หลังจากนั้นฉันคิดว่าแบบนี้คงไม่ดี ถึงจะทานยาแต่ก็ไม่สามารถรักษารูปร่างที่ไม่แข็งแรงได้ จึงตัดสินใจลองศึกษาข้อมูลออนไลน์" เสี่ยวหลินจึงลองวิ่งจังหวะช้าๆ และคิดว่าไม่น่าจะเหนื่อยหรอก เขาเรียนรู้จากวิดีโอออนไลน์และแค่ใช้เสื่อโยคะวิ่งที่บ้าน โดยไม่มีความคาดหวังอะไรมาก แต่กลับพบว่าการวิ่งแบบนี้ช่วยให้เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เขาบอกด้วยว่า การวิ่งอยู่กับที่มันน่าเบื่อเกินไป จึงเปิดทีวีดูซีรีส์ไปด้วย ซึ่งพบว่าเขาไม่เหนื่อยเลย เริ่มแรกวิ่งแค่ครึ่งชั่วโมงแต่หลังจากนั้นค่อยๆ เพิ่มเวลา และภายในไม่กี่วันเขาก็วิ่งได้ถึง 2 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 8 เขาสามารถวิ่งได้ 2 ชั่วโมงตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม
"เพราะอ้วนมากทำให้มีอาการอักเสบที่ฝ่าเท้า ไม่อยากขยับตัว แต่พอวิ่งไปแล้วกลับไม่รู้สึกเจ็บหรือหอบ หายไปหมดเลยแม้กระทั่งอาการอักเสบที่ฝ่าเท้า" เสี่ยวหลินกล่าว และหลังจาก 3 เดือน เสี่ยวหลินเปลี่ยนไปมาก เพราะเขาลดน้ำหนักได้ 28 กิโลกรัม "เวลาทักทายลูกค้า พวกเขามักจะสงสัยว่าเป็นใคร? ดูคุ้นๆ แต่ก็จำไม่ได้บ่อยๆ"
เสี่ยวหลินบอกว่า สิ่งที่เขาภูมิใจที่สุดหลังการลดน้ำหนักคือตอนหยุดยาเบาหวานที่เขาทานมาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี คุณหมอถามเขาว่า "ทำไมแค่ 3 เดือนก็เปลี่ยนไปขนาดนี้ คุณทำอะไรไปบ้าง?" เสี่ยวหลินบอกว่าแม้แต่พุงก็หายไป และเคยคิดว่ามันเป็นสัญญาณว่าอาการโรคของเขากำเริบ
ระดับ HbA1c ของเสี่ยวหลินลดจาก 6.8 เป็น 5.2 ภายในแค่ 3 เดือน เขาออกวิ่งวันละ 2 ชั่วโมงทุกวัน นอกจากนี้เขายังวิ่งในช่วงที่พาลูกค้าทัวร์ไปทั่วไต้หวัน ในช่วงเวลาว่างเขาจะใส่รองเท้าวิ่งและวิ่งไปตามเส้นทางต่างๆ ตั้งแต่ ซานหลินซี ทะเลสาบสุริยัน-จันทรา อ่าวหว่านตา และอาลีซาน เขาสามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 24 กิโลเมตร โดยไม่รู้สึกเหนื่อยเลย!
- พิธีกรสาว เปิดสูตรลดน้ำหนัก "กฎมื้อเย็น" กินยังไงให้ผอมลง 50 กก. ผู้ชมตะลึงร่างใหม่!
- ข่าวดีสายดื่ม! นักวิทย์ฯ ยกย่อง 3 น้ำเมา ดีต่อสุขภาพ แถมมี 2 ชนิดที่ "ไม่อ้วน" คุมน้ำหนักได้