
สาวปวดหัว-แสบร้อนขา ที่แท้ "ปรสิต" ฝังในสมอง ต้นเหตุจากเมนูที่คิดว่าดีต่อสุขภาพ
สาววัย 30 กลับจากเที่ยว ปวดหัว-แสบร้อนที่ขา หมอให้ยาแก้เครียด ตรวจละเอียดถึงกับช็อก "ปรสิต" ฝังอยู่ในสมอง
เธอถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะและรู้สึกแสบร้อนที่เท้า ซึ่งค่อย ๆ ลุกลามไปตามร่างกายและแขน ก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศไทย ญี่ปุ่น และฮาวาย ระหว่างการเดินทาง เธอรับประทานปลาดิบ ซึ่งแพทย์สันนิษฐานว่าอาจเป็นสาเหตุของการติดเชื้อพยาธิ
หญิงรายนี้อาศัยอยู่ในชุมชนชายฝั่งของนิวอิงแลนด์ และเคยไปโรงพยาบาลสองครั้งด้วยอาการดังกล่าว แต่แพทย์ยังไม่พบว่ารุนแรงพอให้เธอเข้ารับการรักษา จึงให้ยาบรรเทาอาการปวดศีรษะและคลายกังวลกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม อาการของเธอทรุดลงจนเกิดความสับสน ทำให้ต้องกลับไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเพิ่มเติม
แพทย์ทำการเจาะน้ำไขสันหลังเพื่อตรวจสอบ และพบว่าเธอติดเชื้อพยาธิ Angiostrongylus cantonensis หรือ "พยาธิปอดหนู" ซึ่งทำให้เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนและปวดเสียดที่แขนและขา
การเดินทางและความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ก่อนเข้ารับการรักษา เธอเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลา 3 สัปดาห์
-
สัปดาห์แรก: กรุงเทพฯ ประเทศไทย รับประทานอาหารริมทางแต่หลีกเลี่ยงอาหารดิบ
-
ต่อมา 5 วัน: โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่อยู่ในโรงแรมและรับประทานซูชิเป็นหลัก
-
10 วันสุดท้าย: พักผ่อนในฮาวาย ลงว่ายน้ำในทะเลหลายครั้ง และรับประทานสลัดกับซูชิเป็นประจำ
แพทย์สงสัยว่าเธออาจเป็นโรค Guillain–Barré syndrome ซึ่งเป็นภาวะภูมิคุ้มกันทำลายเส้นประสาทส่วนปลาย แต่การตรวจร่างกายไม่พบความผิดปกติที่สอดคล้องกัน จนกระทั่งการตรวจน้ำไขสันหลังยืนยันการติดเชื้อพยาธิปอดหนู
วงจรชีวิตของพยาธิและการติดเชื้อในมนุษย์
พยาธิปอดหนูพบได้ในฮาวายมานาน โดยในปี 2017 มีรายงานผู้ติดเชื้อ 19 ราย แม้ว่าต่อมาจำนวนจะลดลงเหลือต่ำกว่า 10 รายต่อปี วงจรชีวิตของพยาธิเกี่ยวข้องกับ หนู หอยทาก และทาก
-
หนูขับตัวอ่อนพยาธิออกมาทางอุจจาระ
-
หอยทากและทากกินตัวอ่อนและพัฒนาเป็นระยะที่สาม (L3)
-
หนูกินหอยทากที่ติดเชื้อ ตัวอ่อนเคลื่อนไปยังสมองของหนู พัฒนาเป็นตัวเต็มวัย และย้ายไปที่ปอดเพื่อวางไข่
-
มนุษย์ติดเชื้อได้จากการกินหอยทากหรือทากที่ไม่ผ่านการปรุงสุก หรือจากผักที่ปนเปื้อนตัวอ่อน
-
หลังจากเข้าสู่ร่างกาย ตัวอ่อนพยาธิจะเคลื่อนจากระบบย่อยอาหารไปยังกล้ามเนื้อและสมอง ทำให้เกิดอาการแสบร้อนที่เท้าและแขนขา
แพทย์รักษาผู้ป่วยด้วยการให้ยาหลายชนิด ได้แก่:
-
เพรดนิโซน (Prednisone) เป็นเวลา 14 วัน ลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวด
-
อัลเบนดาโซล (Albendazole) เพื่อกำจัดพยาธิในสมองและน้ำไขสันหลัง
-
กาบาเพนติน (Gabapentin) และอะมิทริปไทลีน (Amitriptyline) บรรเทาอาการปวดเส้นประสาท
ภายใน 6 วัน อาการของเธอดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล
ความสำคัญของการวินิจฉัยและป้องกัน
การตรวจพบและรักษาอย่างรวดเร็วมีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นตัวของผู้ป่วย หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา การติดเชื้อนี้อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต อาจนำไปสู่ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง ความเสียหายทางระบบประสาท หรือภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น อาการชัก โรคหลอดเลือดสมอง หรือโคม่า
วิธีป้องกันการติดเชื้อพยาธิปอดหนู
-
หลีกเลี่ยงการกินหอยทาก ทาก และกบที่ไม่ผ่านการปรุงสุก
-
ล้างผักและผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน
-
ระมัดระวังการปนเปื้อนของหอยทากหรือทากในอาหาร
-
ปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทาน โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และอาหารทะเล
การตระหนักถึงความเสี่ยงและการป้องกันที่เหมาะสมสามารถช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อพยาธิปอดหนูได้อย่างมีประสิทธิภาพ