.jpg)
ลูกชาย 5 ขวบ ไข้ขึ้นสูงมาก ช็อกหมอนำ "ต้นเหตุ" ออกมาจากหู ของใกล้ตัวเด็กทุกบ้าน!
ระวัง! เด็กเล็กชอบใส่ของในหู เจอกรณี ด.ช. 5 ขวบไข้สูง หมอพบ "ยางลบสีชมพู" ปิดท่อหูจนเกิดเชื้อรา
การที่เด็กเล็กมักจะชอบใส่สิ่งของเข้าไปในช่องต่างๆ ของร่างกาย เช่น จมูก ปาก หรือหู อาจเป็นหนึ่งในวิธีที่พวกเขาใช้สำรวจสิ่งต่างๆ บนโลก อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่นี้เอง หากผู้ปกครองไม่ได้ให้ความสนใจมากพอผลกระทบที่ตามมาอาจร้ายแรงเกินคาดการณ์ได้
ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม เวลา 9 โมงเช้าของหนึ่ง ศูนย์การแพทย์อำเภอแคนล็อก (ฮาทิญ) ได้รับเด็กชายอายุ5 ปี เข้ารักษาด้วยอาการไข้สูง ที่นี่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาหู คอ จมูก ได้ตรวจพบว่ามี “ยางลบสีชมพู” อยู่ในหูของเด็ก และมันปิดท่อหูแทบทั้งหมด
ตามที่แพทย์ระบุ ยางลบอยู่ในหูของเด็กมาเป็นเวลานาน จนเริ่มมีเชื้อราและขยายตัวจนปิดท่อหู ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก ซึ่งได้ช่วยนำสิ่งแปลกปลอมนั้นออกมาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามอาการที่ศูนย์การแพทย์
นอกจากนี้ แพทย์ยังแนะนำให้พ่อแม่คอยดูแลและสังเกต ผ่านทางช่วงเวลาที่ทำความสะอาดร่างกายของเด็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต
หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร และจะรู้ได้อย่างไร? เนื่องจากเด็กมักจะไม่บอกพ่อแม่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ตามคำแนะนำของ KidHealth หากเด็กมีอาการหายใจลำบาก พูดลำบาก หรือกลืนน้ำลายลำบาก ควรรีบนำเด็กไปยังห้องฉุกเฉินทันที เนื่องจากพ่อแม่มักจะพบความยากลำบากหรือแทบจะไม่สามารถนำสิ่งแปลกปลอมออกได้เอง ในขณะที่แพทย์มีวิธีการและความเชี่ยวชาญมากกว่า
ยกตัวอย่างเช่น หากเด็กใส่สิ่งของเข้าไปในจมูก สิ่งแปลกปลอมที่ยังหลงเหลือในจมูกอาจทำให้ผนังกั้นจมูกเสียหาย หรืออาจถูกดูดเข้าไปในปอดได้ สิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในจมูกนานๆ มักจะทำให้มีน้ำมูกไหลข้างเดียว และมักมีกลิ่นเหม็น ซึ่งต่างจากการเป็นหวัดหรือภูมิแพ้ ที่มักจะมีน้ำมูกไหลทั้งสองข้าง หากพ่อแม่พบอาการนี้ ควรไปที่ห้องฉุกเฉิน หรือไปพบแพทย์หู คอจมูกทันที
- ดับสลด ด.ช. 7 ขวบ ฆาตกรคือชิ้นส่วนเล็กๆ "เครื่องเขียน" ที่กลืนลงคอ แต่หมอยังสุดยื้อ
- เจอแล้ว! ลูกชาย 8 ขวบ ผวา "คำขู่" ของพ่อ หนีหาย 17 ปี กลับบ้านอีกทีเปลี่ยนไปสิ้นเชิง