หญิงชราเล่าความลับ บ้านเปิดแอร์ตลอดเวลา 6 ปี เพราะคำสั่งเสียลูกสาว "อย่าฝังศพ"

หญิงชราเล่าความลับ บ้านเปิดแอร์ตลอดเวลา 6 ปี เพราะคำสั่งเสียลูกสาว "อย่าฝังศพ" ตำรวจเห็นสภาพแล้วตะลึง

หญิงวัย 70 กว่าปีในเขตรุ่ยฟาง เมืองนิวไทเป ประเทศไต้หวัน เก็บร่างลูกสาวไว้ในห้องนาน 6 ปี เปิดแอร์ทั้งปีเพื่อรักษาสภาพร่างกาย หลังลูกสาวสั่งเสียก่อนเสียชีวิตว่า “อย่าฝังศพ” โดยแม่ปฏิบัติตามคำขอของลูก กระทั่งไม่นานมานี้ หญิงชราป่วยเป็นอัมพาต ไม่สามารถดูแลร่างของลูกได้อีกต่อไป และไม่มีเงินจ่ายค่าไฟฟ้าที่สูงจากการเปิดแอร์ตลอดทั้งปี จึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ ทำให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผย

อัยการได้ตัดประเด็นฆาตกรรมออกไปในเบื้องต้น และวางแผนชันสูตรศพในภายหลังเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ทางสำนักงานสังคมสงเคราะห์ของเมืองนิวไทเปเปิดเผยว่า แม่และลูกสาวไม่เคยเป็นผู้รับบริการของหน่วยงาน และไม่มีสถานะเป็นผู้รับสวัสดิการสังคม

เก็บศพลูก 6 ปี เปิดแอร์ทั้งปีรักษาสภาพ

ตามรายงาน หญิงชราวัยกว่า 70 ปี เพิ่งเข้าพักในสถานดูแลผู้สูงอายุ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เธออาจกังวลว่าหากไม่จ่ายค่าไฟ อาจทำให้บ้านถูกตัดไฟ จึงเล่าให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ลูกสาวของเธอ ซึ่งเกิดในปี 1972 ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2019 เธอยังเปิดเผยว่า ลูกสาวสั่งเสียไว้ว่า ให้รอผ่านไปหลายปีก่อนจะจัดการกับศพ เธอจึงเก็บร่างของลูกไว้ในห้อง พร้อมเปิดแอร์รักษาสภาพตลอดเวลา และเช็ดทำความสะอาดศพทุกวัน

ตำรวจพบศพกลายเป็นมัมมี่

ตำรวจเมืองนิวไทเปได้รับแจ้งเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหญิงแซ่หลี่ ซึ่งควรจะมีอายุ 53 ปีในปีนี้ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่จากบริษัทรับจัดงานศพ เข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 24 พบว่าร่างของผู้เสียชีวิตกลายเป็นมัมมี่ จึงรีบปิดกั้นพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐาน และแจ้งอัยการเข้าตรวจสอบ

ตำรวจระบุว่า ห้องที่เก็บร่างของผู้เสียชีวิตเปิดแอร์ตลอดทั้งปีเพื่อรักษาสภาพศพ และมีการเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ ผิวหนังของศพถูกทาด้วยน้ำมันบางชนิด ทำให้ไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติจากภายนอก

เพื่อนบ้านไม่รู้เรื่อง แม่ไม่เคยติดต่อขอรับเงินช่วยเหลือ

ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว ทางการเมืองนิวไทเปมอบเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเนื่องในเทศกาลฉงหยาง แต่พบว่าแม่ของผู้เสียชีวิตไม่ได้มารับเงิน เขาพยายามไปเยี่ยมหลายครั้ง แต่เนื่องจากอพาร์ตเมนต์ของหญิงชราไม่มีกริ่ง และแม้จะเคาะประตูหลายครั้งก็ไม่มีใครตอบรับ ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้

สำนักงานสังคมสงเคราะห์ของเมืองนิวไทเประบุว่า หญิงชราและลูกสาวไม่เคยเป็นผู้รับบริการจากหน่วยงาน กระทั่งเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โรงพยาบาลแจ้งว่าหญิงชราต้องการความช่วยเหลือด้านที่พัก ทางศูนย์สวัสดิการจึงจัดให้เข้าพักในสถานดูแลผู้สูงอายุ หลังจากนั้นเธอจึงสารภาพว่าลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่า แม่ไม่ได้มีปัญหาด้านสุขภาพจิต และลูกสาวก็น่าจะไม่ได้มีเหตุผลทางศาสนาในการขอให้เก็บศพไว้หลายปี ขณะนี้กำหนดให้มีการชันสูตรศพในวันที่ 3 มีนาคม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด