.jpg)
เชฟลดน้ำหนัก 90 กก. เผยไม่กั๊ก อาหาร 2 อย่างที่ "เลิกกิน" ร่างเปลี่ยนในเวลาไม่ถึงปี
เชฟเผยเคล็ดลับ ลดน้ำหนัก 90 กก. ในเวลาไม่ถึงปี โดยตัดอาหาร 2 ประเภท
เชฟชื่อดังจากอิตาลี “มัตเตโอ กรานดี” (Matteo Grandi) วัย 34 ปี ได้เปิดเผยว่าเขาลดน้ําหนักได้มากถึง 88 กิโลกรัม ในเวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น โดยเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น แต่ส่วนสำคัญคือการตัดการกินอาหาร 2 ประเภท คือน้ําตาลและคาร์โบไฮเดรต
จุดเริ่มต้นที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมาออกกำลังกายกายและ “ยกเครื่องอาหารที่กิน” คือตอนที่เขาพบว่าน้ำหนักตัวพุ่งไปถึง 185 กก. โดยเจ้าตัวกล่าวว่า การใช้เวลาทํางานในครัวเป็นเวลานาน มักทําให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อปรับสมดุลการทํางานกับวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี เรียกได้ว่าเป็นผลดีทั้งต่อสุขภาพและการงานเลย
“ประมาณแปดเดือนที่ผ่านมา ผมตระหนักว่าตัวเองหมกมุ่นอยู่กับชีวิตและความมุ่งมั่น สูญเสียความเป็นอยู่ที่ดีไป… ผมหนักถึง 185 กิโลกรัม หรือบางทีอาจจะมากกว่านั้นเพราะในบางช่วงผมหยุดชั่งน้ําหนักตัวเองไป…. ดังนั้น ไม่ใช่แค่ด้วยเหตุผลด้านสุนทรียศาสตร์เท่านั้น แต่เพื่อสุขภาพของผมเป็นหลัก
มัตเตโอกล่าวว่า ส่วนที่ยากที่สุดคือความสม่ําเสมอ อย่าไรก็ตาม เขายอมรับว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ําได้ "เปลี่ยนชีวิตของเขา" โดยอ้างว่ามันทําให้จิตใจของเขาแจ่มใสเสมอ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานด้วย
การยกเครื่องอาหารที่ทานใหม่ ทําให้เขากําจัดอาหารแปรรูปออกจากสิ่งที่กิน รวมถึงพาสต้าด้วย โดยอ้างว่าสิ่งนี้เพียงอย่างเดียวนําไปสู่การลดน้ําหนักได้อย่างมาก และนําไปสู่การปรับปรุงผิว ทำให้ "โรคสะเก็ดเงินหายไป" จากข้อศอกของเขาด้วย
มัตเตโออ้างว่า ในระหว่างใช้ชีวิตกับไลฟ์สไตล์โฉมใหม่ เขายังคงลองทานพาสต้าแค่สองคำ แต่หลังจากนั้นก็รู้สึกเชื่องช้าและง่วงซึมขึ้น “ถ้าความสุข 20 วินาที ทำให้ผมต้องรู้สึกแย่เป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากนั้น หมายความว่าประเด็นคืออะไรล่ะ? มันแค่เกี่ยวกับการเปลี่ยนนิสัยเพื่อทําตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่ทําให้เรารู้สึกดี"
ปัจจุบันตารางการทานอาหารของเขาคือ มื้อแรกตอนเที่ยง และอีกมื้อตอน 5 โมงเย็น โดยมื้อแรกมักประกอบด้วยไข่แซลมอน อะโวคาโด และอกไก่ ส่วนอาหารมื้อเย็นประกอบด้วยผักใบเขียว เนื้อสัตว์ หรือหอย
แต่.... เราควรตัดอาหารทั้งหมู่ออกจากมื้ออาหารจริงๆ หรือ?
ในเรื่องนี้ นักโภชนาการ "ดานิเอลเล่ นุชชี่" (Daniele Nucci) เตือนไม่ให้ตัดอาหารทั้งหมู่ออกจากอาหาร โดยกล่าวว่าอาหารเช่นพาสต้าไม่ควรถูกทำเหมือนเป็น "ปีศาจ" และการลดน้ำหนักโดยตัดคาร์โบไฮเดรตออกจากอาหาร ก็จะสูญเสียความสมดุลและผลลัพธ์ก็จะไม่คงอยู่นาน
กล่าวเสริมว่า “ไม่ควรกําจัดคาร์โบไฮเดรต สิ่งที่สร้างความแตกต่างคือปริมาณ ถ้าฉันกินพาสต้า 80 กรัมพร้อมด้วยบรอกโคลีจํานวนมากและมาพร้อมกับแหล่งโปรตีน จะไม่มีปัญหาใดๆ มันเป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์และสมดุล ในทางกลับกัน ถ้าฉันกินพาสต้า 200 กรัม ราดซอสอิตาเลียน สิ่งต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไป”
ขณะที่ NHS (National Health Service) คือ ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร กล่าวถึงคาร์โบไฮเดรตที่มีแป้ง เช่น มันฝรั่ง ขนมปัง ข้าว พาสต้า และซีเรียล ว่าสามารถ "มีบทบาทสําคัญในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ" โดยบอกว่าควรกินมากกว่าหนึ่งในสามของอาหารที่เรากิน
โดยอธิบายว่าคาร์โบไฮเดรตที่มีแป้งเป็น "แหล่งพลังงานที่ดี" และให้สารอาหาร เช่น ไฟเบอร์ แคลเซียม ธาตุเหล็ก และวิตามินบี ในขณะที่หลายคนเชื่อว่ากินเข้าไปจะทําให้อ้วน แต่จริงๆ แล้วนั้น "เทียบกรัมต่อกรัมมีแคลอรี่ของไขมันน้อยกว่าครึ่ง"
และยังบอกย้ำว่า พาสต้าเป็นตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และตัวเลือกโฮลวีตหรือโฮลเกรนดีต่อสุขภาพมากกว่าพาสต้าทั่วไป“พาสต้าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีต่อสุขภาพสําหรับมื้ออาหารของคุณ ประกอบด้วยแป้งที่ทําจากข้าวสาลีดูรัมและน้ํา และมีธาตุเหล็กและวิตามินบี”
แล้วสามารถมีคาร์โบไฮเดรตในอาหารเพื่อสุขภาพได้หรือไม่? การศึกษาในปี 2022 ระบุว่า“อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเป็นส่วนสําคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากให้กลูโคสแก่ร่างกายเพื่อสนับสนุนการทํางานของร่างกายและการออกกําลังกาย”
ในขณะที่การศึกษาในปี 2023 เน้นย้ําถึงอันตรายของการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ํา โดยระบุว่า “การศึกษาหลายชิ้นเชื่อมโยงอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ํากับอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น การศึกษาทางระบาดวิทยา และการวิเคราะห์เมตาได้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเมื่อบริโภคคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า 40 เปอร์เซ็นต์”