
"น้ำส้มสายชู" กับประโยชน์นอกครัว! หลายอย่างเพิ่งรู้ เอามาทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ!
น้ำส้มสายชู: สารพัดประโยชน์ที่คุณอาจไม่เคยรู้!
น้ำส้มสายชู (Vinegar) ไม่ได้มีดีแค่เป็นเครื่องปรุงรสในครัวเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมายที่อาจทำให้คุณประหลาดใจ! นอกจากจะช่วยเสริมรสชาติอาหารแล้ว ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้หลากหลาย มาดูกันว่าน้ำส้มสายชูทำอะไรได้บ้างที่คุณอาจเพิ่งรู้!
1. กำจัดคราบและกลิ่น
- คราบฝังแน่นบนเสื้อผ้า: สำหรับคราบฝังแน่น เช่น คราบเหงื่อหรือหมึก ลองใช้น้ำส้มสายชูกลั่น เทลงบนคราบโดยตรง ทิ้งไว้สักพักก่อนนำไปซักตามปกติ กรดอะซิติกในน้ำส้มสายชูจะช่วยสลายคราบให้หลุดออกง่ายขึ้น
- กลิ่นเหม็นในรองเท้า: ผสมน้ำส้มสายชูกลั่น กับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 แล้วใช้ผ้าชุบเช็ดด้านในรองเท้า หรือเทใส่ขวดสเปรย์ฉีดทิ้งไว้ข้ามคืน กลิ่นไม่พึงประสงค์จะลดลงเนื่องจากน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่น
- Tip: สำหรับรองเท้าที่มีกลิ่นแรงมาก อาจลองวางสำลีชุบน้ำส้มสายชูเจือจางทิ้งไว้ในรองเท้าข้ามคืน
2. ทำความสะอาดบ้านแบบธรรมชาติ
- เช็ดกระจกและพื้นผิว: ผสมน้ำส้มสายชูกลั่น กับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบเช็ดกระจก คราบหินปูนบนก๊อกน้ำ หรือพื้นผิวในครัว กรดอ่อนๆ ในน้ำส้มสายชูช่วยขจัดคราบโดยไม่ทิ้งสารเคมีอันตราย
- ล้างเครื่องชงกาแฟและกาต้มน้ำ: เพื่อขจัดตะกรัน ลองต้มน้ำส้มสายชูกลั่น ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:2 ในเครื่อง แล้วปล่อยทิ้งไว้สักพัก จากนั้นต้มน้ำเปล่าอีก 2-3 ครั้งเพื่อล้างคราบน้ำส้มสายชูออก เครื่องจะกลับมาสะอาดเหมือนใหม่ กรดอะซิติกจะทำปฏิกิริยากับตะกรันแคลเซียมคาร์บอเนต ทำให้ตะกรันละลาย
- Tip: ไม่ควรใช้น้ำส้มสายชูกับพื้นผิวหินอ่อนหรือหินแกรนิต เพราะกรดอาจกัดกร่อนพื้นผิวได้
3. ดูแลผิวและเส้นผม
- ลดความมันและรังแค: ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล (Apple Cider Vinegar) กับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:3 หรือ 1:4 (สำหรับผิว/หนังศีรษะบอบบาง ควรเจือจางมากกว่านี้) ใช้เป็นโทนเนอร์หลังล้างหน้า หรือใช้หมักผมหลังสระ ทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วล้างออก กรดมาลิกในน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลอาจช่วยปรับสมดุล pH ของผิวและหนังศีรษะ ลดความมัน และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งอาจช่วยลดรังแคได้
- แช่เท้าลดกลิ่นและผ่อนคลาย: ผสมน้ำส้มสายชูกลั่น ประมาณ 1/4 ถ้วยตวง ในน้ำอุ่นสำหรับแช่เท้า แช่ประมาณ 15-20 นาที ช่วยลดกลิ่นเท้าเนื่องจากฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- ข้อควรระวัง: ควรเจือจางน้ำส้มสายชูทุกครั้งก่อนใช้กับผิวหนัง และทดสอบกับผิวบริเวณเล็กน้อยก่อนใช้ในวงกว้าง หากเกิดอาการระคายเคืองควรหยุดใช้ทันที
4. ไล่แมลงแบบไม่ต้องฆ่า
- กับดักแมลงวันและแมลงหวี่: วางถ้วยน้ำส้มสายชูกลั่น ผสมน้ำยาล้างจานเล็กน้อย (ประมาณ 2-3 หยด) ไว้ใกล้บริเวณที่มีแมลง น้ำยาล้างจานจะลดแรงตึงผิว ทำให้แมลงตกลงไปในน้ำส้มสายชูและจมน้ำ
- ไล่มด: ฉีดน้ำส้มสายชูกลั่น เจือจางบริเวณที่มดชอบเดิน กลิ่นฉุนของน้ำส้มสายชูจะรบกวนเส้นทางการสื่อสารของมด ทำให้มดหนีไป
- Tip: ควรเปลี่ยนน้ำส้มสายชูในกับดักเป็นประจำ
5. ช่วยงานสวน
- กำจัดวัชพืช: ผสมน้ำส้มสายชูกลั่น กับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 2:1 แล้วฉีดพ่นบนวัชพืชตามรอยแตกของทางเดิน กรดอะซิติกจะทำให้วัชพืชแห้งเหี่ยว แต่ควรระวังไม่ให้โดนต้นไม้ที่คุณต้องการ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
- ทำความสะอาดเครื่องมือทำสวนที่เป็นสนิม: แช่เครื่องมือที่เป็นสนิมในน้ำส้มสายชูกลั่น โดยตรง หรือใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ด ทิ้งไว้สักพักแล้วขัดออก กรดจะช่วยสลายคราบสนิม
6. ยืดอายุของใช้ในบ้าน
- ฆ่าเชื้อและดับกลิ่นฟองน้ำและผ้าขี้ริ้ว: แช่ฟองน้ำหรือผ้าขี้ริ้วในน้ำส้มสายชูกลั่น เจือจางกับน้ำอุ่น ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและกำจัดกลิ่นอับ
- ช่วยให้ดอกไม้สดนานขึ้น: เติมน้ำส้มสายชูกลั่น เล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำในแจกัน 1 ลิตร) ลงในแจกันดอกไม้ กรดอ่อนๆ อาจช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วขึ้น
เห็นไหมว่าน้ำส้มสายชูมีประโยชน์มากมายจริงๆ! ทั้งง่าย ปลอดภัย (เมื่อใช้อย่างระมัดระวังและเจือจางตามคำแนะนำ) และประหยัด ครั้งหน้าถ้ามีน้ำส้มสายชูเหลือ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ดู แล้วคุณจะทึ่งกับสิ่งที่มันทำได้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณและศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนนำไปประยุกต์ใช้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเฉพาะเจาะจง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ