
สเปน-โปรตุเกส เริ่มจ่ายไฟได้แล้วบางส่วน เร่งหาสาเหตุไฟดับครั้งใหญ่
สถานการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในสเปนและโปรตุเกสตั้งแต่ช่วงกลางวันของวันที่ 28 เมษายนตามเวลาท้องถิ่น เริ่มคลี่คลายลงบางส่วน โดยระบบไฟฟ้าในหลายพื้นที่เริ่มกลับมาใช้งานได้แล้ว หลังเหตุขัดข้องครั้งใหญ่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทำให้ระบบขนส่งต้องหยุดชะงักและประชาชนหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้กะทันหัน
รัฐบาลทั้งสองประเทศประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อเร่งแก้ไข โดย นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปน ระบุเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ได้ฟื้นฟูระบบไฟฟ้าไปแล้วเกือบครึ่งหนึ่ง และตั้งเป้าจะคืนสภาพระบบทั้งหมดภายในเช้าวันที่ 29 เมษายน อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อใด
ขณะเดียวกัน หน่วยงานโครงข่ายไฟฟ้าเปิดเผยว่า สาเหตุของไฟดับในครั้งนี้มาจากการสูญเสียกำลังไฟฟ้าถึง 15 กิกะวัตต์ภายในเวลาเพียง 5 วินาที ซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติในระดับรุนแรง
ในกรุงมาดริด ประชาชนบางส่วนส่งเสียงแสดงความดีใจและปรบมือ หลังไฟฟ้าเริ่มกลับมาใช้ได้อีกครั้งราวสี่ทุ่มของคืนที่ผ่านมา
ทางด้านโปรตุเกส บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติ (REN) รายงานว่า สามารถคืนระบบไฟฟ้าให้ลูกค้าได้แล้ว 2.5 ล้านราย และซ่อมแซมสถานีไฟฟ้าย่อยได้ 85 แห่งจากทั้งหมด 89 แห่ง
แม้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน แต่ผู้นำทั้งสองประเทศ ได้แก่ นายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซานเชซ และนายกรัฐมนตรีโปรตุเกส หลุยส์ มอนเตเนโกร รวมถึงประธานสภายุโรป อันโตนิโอ คอสตา ต่างยืนยันว่า ยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์
ผลกระทบจากเหตุไฟดับแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว ทั้งไฟจราจรที่หยุดทำงาน ระบบขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟและเครื่องบินถูกระงับให้บริการ ระบบการสื่อสารทั้งโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตมีปัญหาอย่างกว้างขวาง
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนประชาชนให้อยู่ภายในที่พัก หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน และงดโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินหากไม่จำเป็นจริงๆ ขณะที่บริษัทไฟฟ้าสเปนประเมินว่า อาจต้องใช้เวลาราว 10 ชั่วโมงในการฟื้นฟูระบบ ส่วนฝั่งโปรตุเกสอาจต้องใช้เวลานานถึง 1 สัปดาห์