
"สส.ไอซ์" เผย "คู่กรณีแม่น้องการ์ตูน" ทุกวันนี้อยู่ไหน เผยเหตุผล ทำไม กม.ทำอะไรไม่ได้
สส.ไอซ์ รักชนก ซัดคู่กรณีแม่น้องการ์ตูน เปลี่ยนชื่อแซ่ ใส่ทองเส้นใหญ่ เผยเหตุผล ทำไมถึงยังลอยนวลอยู่ได้
สส.ไอซ์ รักชนก อาลัย “น้องการ์ตูน” เหยื่อรถกระบะพุ่งชนร้านสเต๊กเมื่อปี 2557 พร้อมทั้งตั้งคำถามแรงถึงระบบกฎหมายไทยที่ไม่สามารถเอาผิดคู่กรณีได้ ทั้งที่ศาลมีคำสั่งชดใช้ แต่ครอบครัวกลับไม่ได้รับความเป็นธรรมแม้แต่นิดเดียว
วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ภายหลังที่ “แม่น้องการ์ตูน” ตัดสินใจยุติการรักษาลูกสาวที่กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงมายาวนานกว่า 11 ปี หลังจากประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะพุ่งชนจนพ่อเสียชีวิต และลูกสาววัยเพียง 5 ขวบในขณะนั้น กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตลอดชีวิต จนถึงวินาทีสุดท้ายที่ครอบครัวตัดสินใจ “ปล่อยมือน้อง” ไปอย่างสงบ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากสังคม
น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือที่รู้จักในชื่อ “สส.ไอซ์” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชน โพสต์แสดงความเห็นถึงกรณีนี้ผ่านเฟซบุ๊ก โดยใช้ถ้อยคำที่สะเทือนใจอย่างมากต่อสิ่งที่ครอบครัวแม่น้องการ์ตูนต้องเผชิญมาเกินครึ่งชีวิต
“เปลี่ยนชื่อแซ่ ใช้ชีวิตหรู ใส่ทองเส้นเบ้อเร่อ แต่ไม่เคยชดใช้”
สส.ไอซ์เล่าผ่านโพสต์ว่า
สงสารครอบครัวแม่น้องการ์ตูนมากๆ เตือนความจำอีกครั้งข่าวที่ใครเสริชก็เจอ “น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม” (ป่านนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อไปแล้ว)ขับรถกระบะ เสียหลักพุ่งเข้าชน ร้านสเต็กลุงใหญ่ เป็นเหตุให้ “ภาณุทัต” เจ้าของร้าน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วน "น้องการ์ตูน" ลูกสาววัย 5 ขวบพิการตลอดชีวิต
เคยเยี่ยมคุณตลอดแม่ของน้องเล่าว่า 10ปีที่ผ่านมา คนขับไม่เคยมาเยี่ยม ไม่เคยแสดงความเสียใจ ไม่เคยขอโทษ ทั้งที่ศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่จำเลยใช้วิธี “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” ทำให้แม่น้องการ์ตูนต้องดิ้นรนหาเงินด้วยตัวเอง เค้าไม่ได้อยู่นิ่งๆ ก็ยังเปิดร้านสเต๊ก รับของมาขายอยู่ตลอด ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง เงินก็ต้องหามารักษาลูกที่ติดเตียง
ในขณะที่คนที่ชนลูกเค้า ทำลายครอบครัวแหลกสลาย ทุกวันนี้อาจจะเปลี่ยนชื่อแซ่ มีชีวิตที่ดี ดูแลตลอดอยู่แถวๆบางบอน5 ขายของสบายใจ ใส่ทองเส้นเบ้อเร่อ อำนาจกฏหมายก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะโอนทุกอย่างให้คนอื่นเก็บไปหมด สืบทรัพย์กี่ที ก็ไม่เจอเงิน
กฏหมายควรจะปกป้องแม่และน้องได้ ก็ปกป้องไม่ได้ ขอยืมเงิน “ยืม” เพื่อไปรักษาชีวิตลูกยังจะโดนตำหนิอีก อย่าใจร้ายกับแม่น้องมากเกินไปนักเลย คุณแม่ทำดีที่สุดแล้ว แทบจะขายสมบัติทุกชิ้นในชีวิตเพื่อรักษาลูกที่คุณแม่ก็รู้ว่าน้องไม่มีวันเหมือนเดิมเอาไว้ มันเจ็บปวดมากนะ ครอบครัวเค้าไม่ควรต้องเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ"
“อย่าใจร้ายกับแม่น้องการ์ตูนมากเกินไป”
โพสต์ของ สส.ไอซ์ ยังได้สะท้อนความรู้สึกต่อคำวิจารณ์ที่มีกับแม่ของน้องว่า “ทำไมถึงปล่อยลูกไป” โดยเธอยืนยันว่า คุณแม่พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ทั้งเปิดร้านสเต๊ก “Mother’s Grill Steak House” ขายของออนไลน์ หาเงินมารักษาลูกด้วยตัวเองคนเดียวมาโดยตลอด
“ขอยืมเงิน ‘ยืม’ เพื่อไปรักษาชีวิตลูกยังจะโดนตำหนิอีก อย่าใจร้ายกับแม่น้องมากเกินไปนักเลย คุณแม่ทำดีที่สุดแล้ว แทบจะขายสมบัติทุกชิ้นในชีวิตเพื่อรักษาลูกที่คุณแม่ก็รู้ว่าน้องไม่มีวันเหมือนเดิมเอาไว้ มันเจ็บปวดมากนะ ครอบครัวเขาไม่ควรต้องเป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ”
ทั้งนี้ โพสต์ของ สส.ไอซ์ กลายเป็นไวรัลที่สร้างกระแสให้สังคมหันกลับมาทบทวนถึง “ความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรม” ว่า เมื่อคนธรรมดาอย่างแม่ของน้องการ์ตูนไม่สามารถพึ่งพาระบบกฎหมายเพื่อทวงความยุติธรรมให้ลูกได้ แล้วสังคมจะมีความหวังจากระบบนี้ได้อย่างไร