
เปิดใจ "แม่น้องการ์ตูน" เรากลับถูกด่า แทนที่จะด่าคู่กรณี หัวใจคนเป็นแม่แตกสลายแค่ไหน
แม่น้องการ์ตูน ตัดสินใจยุติการรักษา หลังลูกป่วยทรมานนาน 11 ปี เผยคำพูดสุดสะเทือนใจ "แม่จะไม่ยื้อหนูไว้แล้วนะ"
เหตุการณ์ที่ไม่มีใครลืมได้ง่าย ๆ สำหรับ “น้องการ์ตูน” หนูน้อยที่เคยประสบอุบัติเหตุถูกรถกระบะแต่งซิ่งเมาแล้วขับพุ่งชนร้านสเต็ก ย่านบางบอน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2557 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้พ่อน้องเสียชีวิตคาที่ และน้องการ์ตูนซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 5 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสมองเสียหายถึง 75% ตาบอดทั้งสองข้าง ไม่สามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้เอง ต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียงตลอด 11 ปีที่ผ่านมา
10 ปีผ่านไป คู่กรณีติดคุก 1 ปี ไม่เคยชดใช้
เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ครบรอบ 10 ปีของคดีสะเทือนขวัญ แม่ของน้องการ์ตูนประกาศว่า จะไม่สู้คดีอีกแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมา คู่กรณีถูกตัดสินจำคุกเพียง 1 ปี และไม่เคยจ่ายชดเชยให้แม้แต่บาทเดียว สร้างความหดหู่ใจให้กับสังคมไทยไม่น้อย
ชีวิตที่ยังต้องสู้ และการตัดสินใจครั้งใหญ่
ล่าสุด (30 เม.ย. 2568) “เพจร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน” ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือจากสังคม เนื่องจากต้องการเงินค่ารักษาน้อง 300,000 บาทภายในวันเดียว ทำให้เกิดกระแสดราม่าบนโลกออนไลน์อย่างหนัก กระทั่งทางเพจได้โพสต์อีกครั้งว่า “คุณแม่ตัดสินใจยุติการรักษา” เพื่อให้น้องได้จากไปอย่างสงบ พร้อมระบุว่าเงินที่ได้รับจากผู้มีน้ำใจได้นำไปใช้จ่ายค่ารักษาที่ค้างอยู่ทั้งหมดแล้ว
คำพูดจากแม่ที่กุมใจคนทั้งประเทศ
ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ร้านสเต็กของแม่น้องการ์ตูน ย่านราษฎร์บูรณะ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของครอบครัว นางสาวศรัญญา ชำนิ อายุ 45 ปี คุณแม่ของน้อง เผยว่า
“ตอนนั้นแม่เข้าโรงพยาบาลเพราะป่วย ไข้หวัดหนัก อยู่ๆ ที่บ้านโทรมาว่าน้องไม่ไหว หอบแรง มีไข้ เรียกแอมบูแลนซ์ไปรับ ปรากฏว่าน้องหายใจเองไม่ได้ คุณหมอใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ค่าใช้จ่ายสูงมาก ถ้าจะยื้อชีวิตที่บ้านก็ต้องมีเครื่องหายใจและคนดูแลพิเศษ ซึ่งแม่แทบไม่ไหวแล้วจริงๆ”แม่ของน้องยังกล่าวด้วยน้ำตาว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เพราะหมดรัก แต่เพราะอยากให้ลูกได้พักจากความเจ็บปวดตลอด 11 ปีที่ผ่านมา
“น้องเหนื่อยมามากแล้ว เขาสู้เต็มที่ แต่เขาพูดไม่ได้ บอกไม่ได้ว่าเจ็บไหม ทนไหวหรือเปล่า แม่เลยตัดสินใจบอกลูกว่า ถ้าหนูเหนื่อย แม่จะไม่ยื้อหนูไว้อีกแล้ว”คำถามที่สังคมต้องหันกลับมาถามตัวเอง
แม่น้องการ์ตูนยังกล่าวด้วยความเจ็บปวดว่า สังคมกลับมาต่อว่าแม่ในวันที่ตัดสินใจปล่อยลูกไปอย่างสงบ ทั้งที่ควรจะหันไปถามหาความรับผิดชอบจากคู่กรณีที่ไม่เคยเยียวยาเลยตลอด 11 ปี
“แม่อยากถามว่า ทำไมคนถึงมาด่าแม่ ทำไมไม่ด่าคนที่ทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น คนที่ทำให้ลูกแม่ต้องเจ็บปวดและอยู่แบบนี้มาเป็นสิบปี”ขอบคุณทุกน้ำใจ แต่ขอให้เข้าใจหัวใจของแม่
ท้ายที่สุด แม่น้องการ์ตูนได้กล่าวขอบคุณสังคมทุกคนที่เคยช่วยเหลือ ให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างมาตลอด พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่สะเทือนใจว่า
“เราแค่ขออย่าให้คำพูดใดไปผลักใครให้ตัดสินใจไม่ถูก เพราะคำพูดของบางคน อาจฆ่าชีวิตคนที่กำลังอ่อนแอโดยไม่ตั้งใจ”เรื่องราวที่ไม่ควรถูกลืม
แม้น้องการ์ตูนจะจากไปในอนาคตอันใกล้ แต่อีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่สังคมไทยควรจดจำคือ ความเหลื่อมล้ำของความยุติธรรม และความหนักหนาของภาระที่ตกอยู่กับ “ผู้ถูกกระทำ” มากกว่า “ผู้กระทำ” เสียอีก