เนื้อหาในหมวด ข่าว

7 ข้อผิดพลาดในการล้างผัก-ผลไม้ ยิ่งล้างยิ่งสกปรก \

7 ข้อผิดพลาดในการล้างผัก-ผลไม้ ยิ่งล้างยิ่งสกปรก "ชะล้าง" สารอาหารออกไป

ศูนย์ความปลอดภัยอาหารของไต้หวัน สรุป 7 ข้อผิดพลาดในการล้างผักผลไม้ ยิ่งล้างยิ่งสกปรก และอาจทำให้สารอาหารหายไปโดยไม่รู้ตัว

หากคุณหรือคนใกล้ชิดกำลังล้างผักผลไม้ตามวิธีเหล่านี้ ควรเปลี่ยนแปลงทันที เพราะไม่เพียงแค่ไม่ทำความสะอาดได้ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้สูญเสียสารอาหารไปมากมายโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว

ผักผลไม้เป็นส่วนสำคัญในมื้ออาหารประจำวันและช่วยให้ได้รับสารอาหารที่สมดุลและสุขภาพดี แต่จริงๆ แล้ว หลายคนมักจะสนใจแค่การเลือกผักผลไม้และวิธีการปรุงอาหาร โดยไม่คำนึงถึงว่าการล้างผักผลไม้ก็มีผลอย่างมากต่อรสชาติ สารอาหาร และผลกระทบต่อสุขภาพ

ศูนย์ความปลอดภัยอาหารของไต้หวัน ได้สรุปและเตือนเกี่ยวกับ 7 ข้อผิดพลาดในการล้างผักผลไม้ที่ "ยิ่งล้างยิ่งสกปรก" และล้างสารอาหารหายไปมาก แต่กลับเป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ได้แก่

  • แช่ผักผลไม้ในน้ำเกินไป
    นิสัยนี้ไม่ได้ช่วยให้ผักสะอาดขึ้นเท่าไหร่ แต่กลับทำให้สูญเสียสารอาหารมากมาย ซึ่งหลายคนมักทำทุกวัน โดยคิดว่าแช่ผักในน้ำจะช่วยกำจัดฝุ่นและสารเคมีได้ดีกว่า แต่จริงๆ แล้ว สารเคมีส่วนใหญ่จะละลายในน้ำ หากแช่เกิน 10 นาที โดยเฉพาะผักใบบางอย่าง เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้ง น้ำที่แช่จะซึมเข้าไปในผักและทำให้เกิดการปนเปื้อนกลับ นอกจากนี้ วิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น B และ C จะสูญเสียไปในน้ำ ทำให้ลดคุณค่าทางโภชนาการลงอย่างมาก

  • หั่นผักก่อนล้าง
    การหั่นผักก่อนล้างอาจทำให้คิดว่าได้ล้างสะอาดขึ้น เพราะน้ำสามารถเข้าไปในรอยหั่นได้ดีขึ้น แต่จริงๆ แล้วเป็นความผิดพลาดอย่างมาก รอยหั่นทำให้วิตามิน C และวิตามินกลุ่ม B ถูกล้างออกไปอย่างรวดเร็ว และยังเปิดโอกาสให้เชื้อโรคจากน้ำสกปรกเข้าไปในผักด้วย ควรล้างผักก่อนหั่นเพื่อรักษาสารอาหารและความสะอาดไว้ให้ดี การหั่นผักให้เล็กหรือสับละเอียดจะยิ่งทำให้สูญเสียสารอาหารมากขึ้นเมื่อทำการล้าง

  • ใช้น้ำเกลือเข้มหรือเบกกิ้งโซดาเข้มข้น
    หลายคนเพิ่มเกลือหรือเบกกิ้งโซดาในน้ำล้างผักเพื่อลดแบคทีเรียและสารเคมี แต่ความเข้มข้นสูงเกินไปอาจทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของผัก ทำให้ผักนิ่มและเหี่ยวเร็วขึ้น รวมทั้งยังทำให้สารพิษซึมซับลึกเข้าไปในผักได้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ผักอาจจะมีรสเค็มจนเสียรสชาติธรรมชาติไป และการรับประทานเกลือมากเกินไปยังเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพหลายประการ

  • ใช้น้ำล้างข้าวในการล้างและแช่ผัก
    น้ำล้างข้าวได้รับการขนานนามว่าเป็น “สารทำความสะอาดธรรมชาติ” เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และแป้ง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขจัดกลิ่นคาว คราบน้ำมัน และคราบสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จริงๆ แล้วมันไม่เหมาะสมในการล้างผัก เพราะน้ำล้างข้าวอาจมีไข่แมลงหรือแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดมลพิษ และไม่สามารถขจัดสารเคมีจากยาฆ่าแมลงได้ดี หากใช้น้ำล้างข้าวกลับทำให้เสี่ยงต่อการปนเปื้อนซ้ำ นอกจากนี้ น้ำล้างข้าวที่ซึมเข้าไปยังอาจทำให้รสชาติของผักเปลี่ยนไปอีกด้วย

  • ลวกผักแทนการล้าง
    การลวกผักในน้ำเดือดแทนการล้างและฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิสูงอาจฟังดูเหมาะสม แต่ความจริงคือ ถ้าฝุ่นหรือยาฆ่าแมลงบนผักสามารถละลายในน้ำได้ ก็อาจทำให้ผักมีมลพิษได้เช่นกัน สำหรับผักที่มีกรดออกซาลิกสูง เช่น ผักโขม ควรล้างให้สะอาดก่อนแล้วจึงลวกในน้ำ 1-2 นาที ก่อนนำไปทำอาหารต่อ

  • ผักและผลไม้ที่ปอกเปลือกแล้วไม่จำเป็นต้องล้าง
    นี่เป็นความผิดพลาดที่พบได้บ่อยในการเตรียมผักและผลไม้ แม้ว่าเราจะต้องปอกเปลือกผักและผลไม้ก่อนทาน แต่ก็ยังคงต้องล้างให้สะอาด เพราะเชื้อโรคหรือยาฆ่าแมลงที่อยู่บนเปลือกอาจทำให้มีการปนเปื้อนที่มีดขณะปอกเปลือกและเข้ามาปนเปื้อนในเนื้อผักและผลไม้

  • ผักออร์แกนิกไม่ต้องล้าง
    หลายคนมักคิดว่าผักออร์แกนิกไม่จำเป็นต้องล้าง เพราะไม่ใช้ยาฆ่าแมลง แต่จริงๆ แล้วผักออร์แกนิกอาจมีปุ๋ยอินทรีย์ ไข่แมลง หรือฝุ่นจากสิ่งแวดล้อมอยู่ หากไม่ล้างให้สะอาดก็อาจมีความเสี่ยงที่จะรับเชื้อโรคที่เป็นอันตราย 

  • ผัก-ผลไม้ ควรล้างและแช่ด้วยน้ำเกลือไหม? หลายคนเข้าใจผิด ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลย

    ผัก-ผลไม้ ควรล้างและแช่ด้วยน้ำเกลือไหม? หลายคนเข้าใจผิด ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลย

    ผักและผลไม้ควรล้างและแช่ด้วยน้ำเกลือหรือไม่ และควรทิ้งไว้นานแค่ไหน? เรื่องที่คุ้นเคยแต่หลายคนเข้าใจผิด