.jpg)
รู้ให้ทันก่อนสาย 4 อาการตอนเช้า อาจเป็นสัญญาณ "โรคตับ" ไม่ใช่เรื่องเล็ก ควรรีบพบแพทย์!
รู้หรือไม่... ถ้าตื่นเช้ามาแล้วมีอาการเลือดออกตอนแปรงฟัน ปัสสาวะสีเข้ม อ่อนเพลีย หรือมีกลิ่นปากแรงผิดปกติ อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นสัญญาณเตือนภัยจากตับที่คุณควรรีบพบแพทย์
แม้ตับจะไม่มีเส้นประสาทรับความรู้สึกเจ็บปวด ทำให้เมื่อเกิดปัญหาก็ยากจะสังเกตเห็นได้ทันที แต่ตับก็เป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่ขจัดสารพิษและควบคุมกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในร่างกาย หากตับเริ่มทำงานผิดปกติ จะมีอาการบางอย่างปรากฏ โดยเฉพาะในช่วงเช้าเมื่อตื่นนอน ลองสังเกตตัวเองว่าคุณมีอาการต่อไปนี้หรือไม่:
1. เลือดออกขณะแปรงฟัน
หากพบว่าเหงือกมีเลือดออกทุกเช้าขณะแปรงฟัน อาจเป็นสัญญาณของการขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของตับ เนื่องจากตับเป็นอวัยวะหลักในการดูดซึมและจัดการวิตามิน หากตับเสื่อมประสิทธิภาพ อาจทำให้การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ส่งผลให้เกิดเลือดออกตามเหงือก จมูก หรือแม้แต่ฟกช้ำตามร่างกายง่ายขึ้น
2. ปัสสาวะตอนเช้ามีสีเหลืองเข้มผิดปกติ
โดยปกติปัสสาวะจะมีสีเหลืองอ่อน แต่หากตื่นมาแล้วพบว่าปัสสาวะมีสีเข้มคล้ายน้ำชา อาจเป็นสัญญาณว่าระดับบิลิรูบิน (bilirubin) ในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากการที่ตับไม่สามารถขจัดสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาการนี้มักเกี่ยวข้องกับภาวะดีซ่าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาการชัดเจนของโรคตับ
3. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงหลังตื่นนอน
คนที่มีสุขภาพดีมักรู้สึกสดชื่นหลังจากพักผ่อนเต็มที่ แต่หากตื่นมาแล้วยังรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรงตลอดทั้งวัน อาจเป็นผลจากตับที่ทำงานผิดปกติ หรืออาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของมะเร็งตับที่ใช้พลังงานของร่างกายในการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีพอ จนเกิดอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
4. มีกลิ่นปากแรงเหมือนกลิ่นแอปเปิ้ลเน่า
ผู้ป่วยโรคตับมักมีลมหายใจที่มีกลิ่นเฉพาะตัว คล้ายกลิ่นแอปเปิ้ลเน่าหรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เนื่องจากตับไม่สามารถขจัดสารพิษจำพวกแอมโมเนียและไนโตรเจนออกจากร่างกายได้ตามปกติ ก๊าซเหล่านี้จึงถูกระบายออกผ่านลมหายใจและเหงื่อ
เคล็ดลับดูแลสุขภาพตับที่ควรเริ่มทำทันที
-
หลีกเลี่ยงการนอนดึก ควรเข้านอนก่อน 23.00 น. เพื่อให้ตับได้ซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่
-
หลีกเลี่ยงอาหารดิบหรือปรุงไม่สุก และลดการกินอาหารนอกบ้าน
-
พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
-
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดอาหารไขมันสูง
สุขภาพตับเริ่มต้นที่การสังเกตตัวเอง หากเริ่มมีอาการที่ผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อยในตอนเช้า ดังเช่น 4 ข้อที่กล่าวไปข้างต้น อย่าชะล่าใจ รีบพบแพทย์เพื่อเพื่อตรวจเช็กการทำงานของตับ และรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง อย่าปล่อยไว้จนอาการลุกลาม เพราะตับเป็นอวัยวะที่เมื่อเสียหายแล้วอาจใช้เวลานานในการฟื้นฟู ซึ่งการรู้เท่าทันโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น คือกุญแจสำคัญของการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
- มีคำตอบแล้ว! วิจัยเผย "คนอายุยืน" มักตื่นนอนตอนไหน ใช่ 6 โมงเช้า แบบที่คิดหรือเปล่า?
- ไม่ต้องผสมน้ำผึ้ง! กูรูต่างชาติแนะ 2 เครื่องดื่ม "ของดียามเช้า" ช่วยลำไส้สะอาด บำรุงตับ-ไต