เนื้อหาในหมวด ข่าว

ผู้ชายควรรู้ก่อนสาย! มะเร็งที่เล่นงาน \

ผู้ชายควรรู้ก่อนสาย! มะเร็งที่เล่นงาน "โจ ไบเดน" อันตรายแค่ไหน จะตรวจพบได้อย่างไร?

"โจ ไบเดน" อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากขั้นรุนแรง โรคร้ายที่ผู้ชายทุกคนควรรู้จัก!

วันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโจ ไบเดน เปิดเผยว่าเขากำลังเผชิญกับ “มะเร็งต่อมลูกหมาก” ในระยะที่ลุกลามไปยังกระดูก สร้างความสนใจไปทั่วโลก เนื่องจากนี่เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้ชายจำนวนมาก และเป็นภัยเงียบที่มักถูกมองข้าม

มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคอันดับ 2 ในผู้ชายทั่วโลก : ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate Cancer) เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในผู้ชายทั่วโลก รองจากมะเร็งปอด และคิดเป็น 7.3% ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากมะเร็งอันดับ 8 ของโลก ในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ปี 2025 คาดว่าจะมีผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากรายใหม่ถึง 313,800 ราย และเสียชีวิตประมาณ 35,800 ราย ตามข้อมูลจากสมาคมมะเร็งอเมริกัน (ACS)

ใครเสี่ยง "มะเร็งต่อมลูกหมาก" มากที่สุด?

  • อายุ: มากกว่า 60% ของผู้ป่วยอยู่ในช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป อายุเฉลี่ยของการวินิจฉัยคือ 67 ปี

  • เชื้อชาติ: คนผิวดำในสหรัฐฯ มีความเสี่ยงสูงสุด ขณะที่คนเชื้อสายเอเชียและลาตินมีความเสี่ยงต่ำกว่า

  • พันธุกรรม: หากมีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งชนิดนี้ โอกาสเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น

  • น้ำหนักตัว: ภาวะอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

สัญญาณเตือนมะเร็งต่อมลูกหมาก : แม้ว่าระยะแรกจะไม่แสดงอาการชัดเจน แต่เมื่อโรคเริ่มพัฒนาอาจมีสัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม ดังนี้

  • ปวดหรือรู้สึกอึดอัดบริเวณเชิงกราน

  • ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน

  • ปัสสาวะลำบาก แสบ หรือแรงดันอ่อน

  • มีเลือดในปัสสาวะหรืออสุจิ

  • เจ็บเวลาหลั่ง

  • ปวดหลังส่วนล่าง สะโพก หรือต้นขา

  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

  • เบื่ออาหาร

  • ปวดกระดูก (ในกรณีที่มะเร็งลุกลาม)

ร้ายแรงแค่ไหน? : มะเร็งต่อมลูกหมากแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะหลัก คือ

  • ชนิดไม่ร้ายแรง (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH): เป็นการขยายตัวของต่อมลูกหมากที่ไม่ใช่มะเร็ง ไม่แพร่กระจาย และไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

  • ชนิดร้ายแรง (Malignant Tumor): มีความสามารถในการแพร่กระจายไปยังอวัยวะใกล้เคียง เช่น กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ หรือแม้แต่กระดูกและอวัยวะห่างไกล หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ซึ่งในกรณีของ นายโจ ไบเดน มะเร็งได้ลุกลามไปยัง "กระดูก" ซึ่งเป็นระยะที่ต้องได้รับการดูแลและรักษาอย่างเข้มข้น

ทั้งนี้ แม้มะเร็งต่อมลูกหมากจะเป็นภัยเงียบ แต่ข่าวดีก็คือ อัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ในสหรัฐฯ ลดลงถึงครึ่งหนึ่งในช่วงปี 1993–2022 จากการตรวจคัดกรองที่ดีขึ้นและการรักษาที่ก้าวหน้า หรืออาจพูดได้ว่า โอกาสรอดเพิ่มขึ้นด้วยการตรวจพบเร็ว ดังนั้น ผู้ชายอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป (หรือ 45 ปี หากมีประวัติเสี่ยง) ควรได้รับการตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการตรวจ PSA (Prostate-Specific Antigen) ซึ่งเป็นการตรวจเลือดเบื้องต้นที่ช่วยประเมินความเสี่ยงของโรค

ข่าวการป่วยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจกับมะเร็งต่อมลูกหมากมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันต้องย้ำเตือนสำหรับผู้ชายทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพราะการรู้เท่าทันและตรวจพบโรคเร็ว คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะโรคร้ายนี้

\

"โจ ไบเดน" อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เช็ก 4 สัญญาณเตือน

"โจ ไบเดน" อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้นำจากทั่วโลกต่างเร่งให้กำลังใจทันที เผย 4 สัญญาณเตือนที่เห็นได้ชัด

เคยสังเกตไหม? แพทย์กระซิบบอก \

เคยสังเกตไหม? แพทย์กระซิบบอก "สีหน้า" ตอนผู้ชายทิ้งตัวนั่ง อาจบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก!

แพทย์แนะสังเกต "สีหน้า" ตอนผู้ชายทิ้งตัวนั่ง แค่เสี้ยววิแต่อาจเป็นสัญญาณเตือน “มะเร็งต่อมลูกหมาก” ที่อันตรายถึงชีวิต