ไม่อยากจ่ายแพง? ผู้เชี่ยวชาญเตือน 3 พฤติกรรม "แอร์กินไฟ" เงินไหลโดยไม่จำเป็น!

21/05/2025 (09:11 น.)

นักวิจัย ม.ซิดนีย์ เผยเคล็ดลับ ใช้เครื่องปรับอากาศอย่างไร ให้เย็นเร็วแต่ประหยัดไฟ ประหยัดได้ถึง 1/3 ของค่าไฟฟ้า

ในช่วงหน้าร้อนที่หลายครอบครัวต้องเผชิญกับค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น การเปิดเครื่องปรับอากาศบ่อยๆ กลายเป็นภาระสำคัญต่อค่าใช้จ่ายภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยล่าสุดจาก ศูนย์สุขภาพและความร้อน มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้เปิดเผยวิธีที่สามารถช่วยให้การใช้แอร์เย็นเร็วขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

งานวิจัยระบุว่า เปิดพัดลมก่อนเปิดแอร์ ช่วยประหยัดไฟได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดพัดลมตั้ง หรือพัดลมเพดาน ก่อนที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศ ก็สามารถช่วยให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบายได้เร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิแอร์ให้อยู่ในระดับต่ำเกินไป เนื่องจากลมจากพัดลมช่วยเร่งการระเหยเหงื่อ ทำให้ผิวหนังเย็นลงและร่างกายรู้สึกสบายมากขึ้น แม้ว่าอุณหภูมิในห้องจะยังไม่ลดลงมากนักก็ตาม

แทนที่จะตั้งแอร์ไว้ที่ 23–24 องศาเซลเซียส เหมือนที่หลายคนทำกันอยู่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ปรับขึ้นเป็น 27–28 องศาเซลเซียส แล้วใช้พัดลมร่วมด้วย วิธีนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็น แต่ยังประหยัดพลังงานได้สูงถึง 1 ใน 3 ของการใช้แอร์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากพัดลมใช้พลังงานเพียงประมาณ 3% เมื่อเทียบกับแอร์ นั่นหมายความว่าหากใช้อย่างถูกวิธี พัดลมสามารถช่วยลดภาระค่าไฟได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ให้เห็นถึง 3 พฤติกรรมหลักๆ ที่ทำให้แอร์กินไฟโดยไม่จำเป็น ซึ่งหลายคนยังทำอยู่โดยไม่รู้ตัว และส่งผลให้แอร์ใช้พลังงานมากขึ้นโดยไม่จำเป็น

ตั้งอุณหภูมิแอร์ต่ำเกินไป
โดยหลายคนตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 19–21 องศาเซลเซียส โดยหวังว่าจะทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้น แต่จริงๆ แล้วพฤติกรรมนี้กลับทำให้แอร์ต้องทำงานหนักและสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น Alan Langworthy ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานแนะนำว่า ควรตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ประมาณ 27 องศาเซลเซียส และใช้พัดลมช่วยหมุนเวียนอากาศ เพื่อให้ได้ความเย็นที่เพียงพอและประหยัดไฟมากยิ่งขึ้น

ปิดแอร์ทันทีเมื่อออกจากบ้านในระยะเวลาสั้น
หากออกจากบ้านเพียงช่วงเวลาสั้นๆ (ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) การปิดแอร์แล้วเปิดใหม่ซ้ำๆ กลับทำให้แอร์กินไฟมากขึ้น เนื่องจากเมื่อกลับมาเปิดใหม่ แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดึงอุณหภูมิกลับสู่ระดับเดิม โดย Dr. Xiaolin Wang จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ระบุว่า ควรปล่อยให้แอร์ทำงานต่อเนื่องดีกว่าการเปิด-ปิดบ่อยๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ

ใช้โหมด "Dry" โดยไม่เข้าใจ
โหมด "Dry" หรือโหมดลดความชื้น อาจช่วยให้รู้สึกเย็นสบายในวันอากาศชื้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะแทนที่การควบคุมอุณหภูมิได้ทั้งหมด อีกทั้งยังไม่สามารถควบคุมระดับความชื้นได้อย่างแม่นยำ

ทางในตรงกันข้าม ผู้เชี่ยวชาญยังได้เสนอแนวทางการใช้แอร์อย่างชาญฉลาด เพื่อความเย็นและประหยัด เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถช่วยให้ใช้แอร์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้

เปิดพัดลมก่อนแอร์: ให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อน ลดความจำเป็นในการใช้แอร์ทันที

เปิดแอร์เมื่อจำเป็นจริง ๆ: หากอุณหภูมิในห้องยังไม่เกิน 27 องศาเซลเซียส อาจยังไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์

ใช้แอร์คู่กับพัดลม: ช่วยกระจายลมเย็นให้ทั่วถึง ประหยัดไฟมากขึ้น

ตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ 27–28°C: เป็นช่วงอุณหภูมิที่เย็นสบายและประหยัดไฟที่สุด

ปิดแอร์เมื่อเย็นเพียงพอ แล้วใช้พัดลมต่อ: รักษาความเย็นต่อได้อีก 1–2 ชั่วโมง ช่วยลดค่าไฟได้มาก

การใช้แอร์ให้คุ้มค่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตั้งอุณหภูมิต่ำสุด แต่ขึ้นอยู่กับ วิธีใช้อย่างชาญฉลาด ด้วยการเปิดพัดลมร่วม ใช้ในเวลาที่จำเป็น และตั้งอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ก็สามารถช่วยให้คุณประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟ และยังรักษาสุขภาพได้ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด เพียงแค่ปรับพฤติกรรมเล็กน้อย คุณก็สามารถมีบ้านที่เย็นสบาย โดยไม่ต้องแลกมาด้วยค่าไฟฟ้าที่สูงลิ่ว

• ต่างชาติแชร์เคล็ดลับ "ใส่เกลือในตู้เย็น" ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องกลิ่น แต่มีประโยชน์มากกว่านั้น!
• รู้ไว้ดีกว่า! ข้าวสุกแล้วต้อง "ถอดปลั๊ก" หม้อหุงข้าวหรือไม่ ปรากฏว่าหลายคนทำผิดมาตลอด